รวมข้อคิด คติชีวิต ธรรมะแบบ “บ้านไร่” จาก หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ (พระเทพวิทยาคม)

รวมข้อคิดคติชีวิตธรรมะแบบ “บ้านไร่” จากหลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ (พระเทพวิทยาคม)

“…กูเลิกบุหรี่แล้ว…”

คือวลียอดฮิตที่เชื่อเหลือเกินว่า จะได้เป็นคำตอบอันดับต้น ๆ หากเราเดินไปถามใครหลาย ๆ คน ว่า “…จำคำพูดอะไรของหลวงพ่อคูณได้บ้าง…” ประโยคสั้น ๆ อันแสนเรียบง่าย เคียงคู่ภาพ "พระเทพวิทยาคม" หรือที่เรารู้จักท่านกันดีในนาม “หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ” นี้นั้น คือ “คำสอนโดยที่ไม่ต้องสั่งสอน” กล่าวโดยขยายก็คือเป็นการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อย่าง “สุปฏิปันโน” เป็นแบบอย่างให้แก่สาธุชนทั่วไป ซึ่งลักษณะคำสอนที่ตรงไปตรงมา ใช้ภาษาง่าย ๆ เช่นนี้ ได้กลายเป็นแนวทางเฉพาะในการอบรมสั่งสอนธรรมะ แบบฉบับ “วัดบ้านไร่” ของท่าน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านจะได้รับการยกย่องว่าเป็น “ปราชญ์แห่งที่ราบสูง” 

วันนี้เราจึงขอรวบรวมข้อคิด คติชีวิตจากธรรมะของหลวงพ่อคูณ อันเป็นอริยทรัพย์ที่ท่านได้มอบไว้ให้เป็นมรดกแก่สาธุชนคนรุ่นหลัง แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว แต่คำสอนเหล่านี้ยังคงอยู่เป็นแนวทางปฏิบัติที่ทรงคุณประโยชน์เอนกปริยาย ไม่น้อยไปกว่าเครื่องรางของขลังใด ๆ ที่วิปัสสนาจารย์ ผู้กำหนดรู้ถึงการ “ตาย – แน่” ในทุกลมหายใจแห่งการภาวนารูปนี้ ได้ฝากไว้ในแผ่นดิน

หัวใจพระพุทธศาสนาจาก“โอวาทปาฏิโมกข์” ของพระพุทธเจ้า

สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อคูณเน้นย้ำอยู่เสมอ คือการรักษาศีล 5 อันเป็นธรรมะเบื้องต้นที่ฆราวาสควรรักษาไว้ ซึ่งจะนำไปสู่การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส

“…อยากให้บ้านเราเจริญนะไม่ยากหรอกตั้งอยู่ในองค์ปัญจะทั้ง5 คือรักษาศีล5 ให้บริสุทธิ์ไม่ให้ขาดอย่าให้ด่างพร้อยเป็นมนุษย์สุดประเสริฐหรือใครก็ตามแม้แต่พระเราก็ต้องรักษาศีล5 ถ้าไม่มีศีล5 ประจำใจไม่ว่าพระรูปใดรูปหนึ่งก็เป็นพระไม่ได้เหมือนกัน…”

การมี “หิริ– โอตัปปะ” คือความเกรงกลัวและความละอายต่อบาป

บ่อยครั้งที่ท่านมักจะชี้ให้เห็นถึงการ “หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น” เพื่อสั่งสอนให้สาธุชน มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาป เร่งสั่งสมบุญ แต่ก็มิได้ให้ “บ้าบุญ” หากต้องรู้จัก “ทำบุญให้เป็น” ง่าย ๆ ด้วยการปฏิบัติดูแลบิดามารดาก็ถือว่าได้บุญสำคัญ อันควรปฏิบัติแล้ว

“…กูไม่มีอะไรมากกูไม่มีอะไรจะสอนพวกมึงหรอกเพราะพวกมึงก็รู้ว่ากูพูดไม่เป็นพูดไม่เก่งเหมือนเขาเทศนาว่ากล่าวอะไรก็ไม่เป็นกูมีแต่ว่าให้ละชั่วทำดีกันเท่านั้นแหละบุญบาปมีจริงลูกหลานเอ๊ยให้เชื่อว่าบุญมีจริงบาปมีจริงให้ละชั่วทำดีมีศีลธรรมประจำใจบุญเห็นกับตาบาปเห็นกับตารักตัวกลัวภัยอย่าทำชั่วให้ตั้งอยู่ในเมตตา…”

“…คนนับถือศาสนาพุทธไม่ต้องเชื่ออะไรเชื่อบุญมีจริงบาปมีจริงก็ใช้ได้เท่านั้นพอไม่ต้องทำอะไร…”

“…พ่อแม่อยู่บนบ้านมึงไม่ทำบุญเลยมึงควรทำบุญทุกวันก็จะได้มากมึงอย่ามัวรอทำบุญ100 วันมึงจะได้สักเท่าไร…”

“…คนทำบุญนี้ก็ต้องฝึกมาตั้งแต่เป็นเด็กเมื่อเคยฝึกทำมาแล้วภายหลังมีเงินมีทองจะบริจาคก็ไม่เสียดาย…”

การละซึ่ง “กิเลส”

สิ่งที่ท่านสั่งสอนให้เอาชนะอยู่เสมอนั้น คือการเอาชนะกิเลส แม้กระทั่งตัวท่านเองที่ได้บริจาคเงินให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปจัดการเพื่อสาธารณประโยชน์ ท่านก็ได้เคยกล่าวไว้ในทำนองว่า ให้แล้วก็ไม่เคยไปคิดมากว่าหน่วยงานต่าง ๆ จะเอาไปทำอะไร ไม่เคยติดตามผล เพราะจะได้ไม่เกิด โลภะ โทสะ โมหะ อกุศลจิตเมื่อยามที่ไม่เป็นดั่งใจคิดไว้ เพียงแต่ให้ด้วยจิตที่ตั้งใจจะให้เป็นประโยชน์ก็เพียงพอ

“…กูอยากฆ่าคน 3 คนแต่ก็ฆ่าไม่ได้สักทีศัตรู๓คนที่ว่านั้นคือโลภะโทสะโมหะ…”

“…กูให้พวกมึงรู้จักพออย่าโลภมากรู้จักเอาชนะใจตัวเอง…”

“…กูไม่เคยยินดียินร้ายในลาภยศสรรเสริญ…”

“…เงินเป็นทาสกูกูไม่ยอมเป็นทาสเงิน…”

“…โลภโกรธหลงมึงอย่าไปหลงงมงายเชียวน่ะถ้ามึงไม่อยู่ในศีลในธรรมมึงก็จะเป็นไปตามกรรมที่มึงสร้างไว้…”

“…ยิ่งเอามันยิ่งอดยิ่งสละให้หมดมันยิ่งได้…”

เครื่องรางของขลัง

แม้จะเป็น “เกจิ” ด้านเครื่องรางของขลังที่สำคัญรูปหนึ่ง แต่ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ท่านก็มักจะกล่างถึงเครื่องรางของขลังที่สำคัญที่สุดสำหรับท่าน นั่นคือการตั้งมั่นอยู่ใน “ธรรม”

“…กูทำดีเขาจึงให้ของดีกูมา…”

“…วัตถุมงคลเหมือนเปลือกไม้หากผ่านเปลือกไปได้ท่านก็จะถึงแก่นซึ่งการฝ่าเปลือกไม้ไปได้ท่านต้องรู้จักให้ทาน…”

 “ความไม่ประมาท” 

ท้ายที่สุด ท่านก็ยังได้กล่าวถึงปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า อันเป็นหลักธรรมข้อใหญ่ใจความของธรรมะทั้งมวล นั่นก็คือ “ความไม่ประมาท” ไว้คอยเตือนสติทุกผู้ ทุกนามอยู่เสมอ 

“…พระไม่ได้อยู่กับคนชั่วแต่อยู่กับคนดีให้นึกว่าพระมากับเราจะทำชั่วไม่ได้อย่าทำตัวผิดศีลธรรมผิดจารีตประเพณีโดยเฉพาะการทำผิดกฎหมายบ้านเมืองให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท…”

จากตัวอย่างคำสอนและข้อปฏิบัติอันเรียบง่าย จริงใจ เข้าถึงผู้คน เหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ว่าทำไม ศ.นพ.ประกิตวาทีสาธกกิจเลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ได้กล่าวถึงวลียอดฮิต “กูเลิกบุหรี่แล้ว”  ของหลวงพ่อคูณไว้ว่า

“…หลวงพ่อคูณท่านเป็นพรีเซนเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดโด่งดังที่สุดยิ่งกว่าพรีเซนเตอร์ที่เป็นดาราเสียอีกอานิสงส์ที่ท่านเลิกสูบบุหรี่ช่วยให้คนจำนวนมากพากันเลิกตามท่านโปสเตอร์หลวงพ่อคูณเป็นโปสเตอร์ที่ผลิตเยอะที่สุดในบรรดาโปสเตอร์ที่เคยผลิตมา…” 

ยืนยันความเป็น “ปราชญ์แห่งที่ราบสูง” ผู้สร้างคุณูปการต่อสังคมไทย แม้ในยามที่อยู่ หรือละสังขารไปแล้วก็ตาม

************

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.posttoday.com/politic/report/366957

https://hilight.kapook.com/view/120478

http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?cms_id=22022

https://www.thairath.co.th/content/499221

https://www.thairath.co.th/content/499221