กม.บล็อกโซเชียลออสเตรเลียไร้ผล วัยรุ่นสร้างบัญชีใหม่หนีตรวจจับอายุ
วันนี้ (12 ธ.ค.2568) CNN รายงาน การบังคับใช้กฎหมายแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 16 ปีของออสเตรเลียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) แม้จะเป็นประเด็นใหญ่ทั่วประเทศ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในโลกจริงกลับสวนทางกับความคาดหวังของรัฐบาล โดยภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง วัยรุ่นจำนวนมากทยอยกลับเข้าสู่แพลตฟอร์มเดิม ทั้ง Snapchat, TikTok และ Instagram ผ่านวิธีการเลี่ยงตรวจสอบอายุอย่างง่ายดาย
ลูซี บรูคส์ วัย 14 ปี บอกกับ CNN ว่าเธอถูกตัดออกจาก Instagram ชั่วคราว แต่ภายในเวลาวันเดียว เธอก็กลับเข้าสู่ระบบได้อีกครั้ง ด้วยวิธีการสร้างบัญชีใหม่ด้วยการเปลี่ยนปีเกิด และก็เป็นวิธีการเดียวกันกับผู้ใช้ที่อายุน้อยอีกหลายคน ขณะที่บางส่วนก็ให้ผู้ปกครองช่วยยืนยันอายุแทน บางรายถึงขั้นสร้างภาพใบหน้าจาก AI ให้เป็นภาพคนอายุ 40 ปี เพื่อลอดการตรวจจับอายุ ลูซี บอกว่าเด็กส่วนใหญ่ "แทบไม่รู้สึก" ว่ามีการแบนเกิดขึ้นจริง
ถ้าคุณตั้งปีเกิดเป็นปี 2000 ตั้งแต่สมัครครั้งแรก คุณก็รอดแบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว
ขณะที่บริษัทเทคโนโลยียืนยันว่า แม้ผู้ใช้จะผ่านการยืนยันอายุไปแล้ว แต่ระบบยังสามารถตรวจสอบรูปแบบการใช้งานภายหลังได้
การประกาศกฎหมายใหม่ได้รับการผลักดันอย่างมาก นายกฯ แอนโทนี อัลบานีส สั่งให้ฉายไฟสีเขียว-ทองบนสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ พร้อมสโลแกน "Let Them Be Kids" หรือ จงปล่อยให้พวกเขาเป็นเด็ก แต่ในชีวิตจริง เด็กหลายคนบอกว่าตนยังใช้งานได้เหมือนเดิม บางคนพึ่งพาโซเชียลเป็นช่องข่าวสารหลัก และมองว่าการหายไปจากแพลตฟอร์มจะทำให้ตนถูกตัดขาดจากเพื่อน ๆ ทันที
เลโอ พูเกลซี ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวออนไลน์วัย 18 ปี ชี้ว่า นโยบายนี้แทบไม่ช่วยอะไร ผ่านการยืนยันว่าน้องชายของเขาที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ยังเล่นโซเชียลตามปกติ แม้ไม่พยายามเลี่ยงระบบด้วยซ้ำ เลโอบอกว่าหากกฎหมายนี้มีมาก่อนสำนักข่าวออนไลน์ของเขา คงไม่เกิดขึ้น เพราะเขาเริ่มทำสื่อเมื่ออายุเพียง 11 ปี
อีกด้านหนึ่ง เด็กนักธุรกิจอายุ 16 ปีอย่าง ลูคัส เลน ผู้ก่อตั้งแบรนด์สีทาเล็บ หวั่นว่าการจำกัดอายุผู้ใช้ จะทำให้ชุมชนของเด็กและช่องทางการทำธุรกิจของเขาได้รับผลกระทบอย่างหนัก เขามองว่าการให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยออนไลน์ยังคงดีกว่าการสั่งแบน
เด็กส่วนใหญ่ยอมรับว่าจำเป็นต้องควบคุมการใช้โซเชียล แต่ไม่เชื่อว่าการแบนเด็ดขาดจะเป็นทางออกที่ได้ผล โดยแนะนำว่าควรมีระบบจำกัดเวลาใช้งานแทน เช่น 1–2 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งอาจทำงานได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า
อ่านข่าวอื่น :
นักวิชาการชี้ "ยุบสภาฯ" ผิดจากที่คาด เหมือน "พรรคประชาชน" ถูกต้ม
"อนุทิน" คุยเหล่าทัพเตรียมข้อมูลหารือ "ทรัมป์" ย้ำไม่ใช่เจรจา