โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ช็อกโลก”ทรัมป์”อ้างทหารไทยเจ็บ-ตายเกิดจากระเบิดข้างทาง-เป็นอุบัติเหตุ สั่ง”อนุทิน-ฮุน มาเนต”หยุดยิงทันที

เดลินิวส์

อัพเดต 13 ธันวาคม 2568 เวลา 11.12 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ทรัมป์อ้าง! ระเบิดข้างทางที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ เสียชีวิตและมันเป็น

วอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อเวลา 1.07 น. วันที่ 13 ธ.ค.(ตามเวลาท้องถิ่น) นายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่าน X บัญชีส่วนตัว เปิดเผยถึงความสำเร็จในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งที่กลับมาปะทุขึ้นใหม่ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา

นายทรัมป์ระบุว่า ตนได้มีการสนทนาที่ดีมากในช่วงเช้าวันนี้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย และนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เกี่ยวกับการปะทุขึ้นใหม่ของสงครามที่มีมายาวนานระหว่างทั้งสองประเทศที่น่าเศร้า

ตกลง "หยุดยิง" และกลับสู่ข้อตกลงสันติภาพเดิม

นายทรัมป์ ระบุว่า ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะ "ยุติการยิงทั้งหมด" โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เย็นวันนี้ และจะกลับไปใช้ ข้อตกลงสันติภาพ (Peace Accord) ฉบับดั้งเดิมที่ทำไว้กับตนเองและผู้นำทั้งสอง โดยความช่วยเหลือจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

ระเบิดข้างทางเป็นอุบัติเหตุ แต่ไทยตอบโต้หนัก

ในข้อความดังกล่าว นายทรัมป์ยังเปิดเผยถึงต้นเหตุของเหตุการณ์ความขัดแย้งที่กลับมาปะทุขึ้น โดยระบุว่า ระเบิดที่ติดตั้งอยู่ข้างทาง ซึ่งเป็นเหตุให้ทหารไทยจำนวนมากเสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น เป็นอุบัติเหตุ แต่ถึงกระนั้น ประเทศไทยก็ได้ตอบโต้กลับไปอย่างหนักมาก

ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า ปัจจุบันทั้งสองประเทศพร้อมสำหรับ สันติภาพ และการค้าขายกับสหรัฐอเมริกาต่อไป

นายทรัมป์แสดงความรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับนายอนุทินและสมเด็จฮุน มาเนต ในการแก้ไขปัญหาที่อาจบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่ระหว่างสองประเทศที่ยอดเยี่ยมและมั่งคั่งนี้ พร้อมกล่าวขอบคุณ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย สำหรับความช่วยเหลือในเรื่องที่สำคัญยิ่งนี้ด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...