มีใครบ้างไม่อยากรวย…ใคร ๆ ก็อยากรวยกันทั้งนั้น
ว่ากันว่าความรวยคือความสามารถเฉพาะตัว เพราะไม่ใช่ทุกคนที่รวยได้ คนรวยมักมีแนวคิด มีพฤติกรรมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป พวกเค้าถึงได้รวย !
ในขณะที่คนจนก็มีความเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเหมือน แถมยังชอบตั้งคำถาม คำถามที่มักเต็มไปด้วยอุปสรรค คำถามที่ดูเหมือนจะเป็นข้ออ้างอยู่กลาย ๆ ว่าเพราะแบบนี้นี่แหละ พวกเค้าถึงไม่รวยสักที !
1. ทำไมไม่มีต้นทุนเหมือนคนอื่น ?
เพราะไม่ได้มีพ่อแม่ ปู่ย่าตายายร่ำรวย เกิดมาไม่มีต้นทุนเหมือนคนอื่น เลือกเกิดไม่ได้ ก็เลยต้องทำมากกว่าคนอื่น ถึงรวยไม่ได้สักที และชาตินี้ก็คงไม่มีวันรวย
คนจนมักโทษโชคชะตา โทษระบบ โทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง ถ้าเคยอ่านประวัติของมหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของโลก บางคนจนแทบไม่มีจะกิน ไม่ใช่แค่ไม่มีต้นทุน แต่ถึงขั้นติดลบ แต่เค้าเหล่านั้นก็รวยขึ้นมาได้ เพราะเค้าไม่เคยคิดถึงต้นทุน แต่ก้มหน้าตาทำทุกอย่างเปลี่ยนชีวิตตัวเอง
2. เมื่อไหร่จะถูกหวย ?
ความรวยของคนจนมักผูกเอาไว้กับโชคลาภ วิธีเดียวที่จะทำให้รวยได้คือการถูกรางวัล ต้องมีดวง มีโชค ถึงจะรวย ขณะที่อัตราการร่ำรวยจากการถูกรางวัลนั้นมีแค่ 1 ในล้าน แต่คนจนทุกคนก็ยังมุ่งไปที่เป้าเดียวกัน แม้ความรวยจากการลงทุน การทำธุรกิจจะมีเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าก็ตาม
ในขณะที่คนรวยไม่เคยคิดว่าจะรวยได้เพราะเล่นหวย ความรวยไม่ใช่เรื่องของโชคชะตา แต่ความรวยคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ได้มาต่างหาก
3. ทำไมไม่รวยสักทีวะ !?
คนจนมักถามคำถามนี้ตลอดเวลา ทำไมไม่รวย ? ทำไงให้รวย ? แต่ก็เป็นแค่คำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะคนจนไม่เคยคิดจะหาคำตอบ ในขณะที่คนอยากรวยจะตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ ซึ่งส่วนใหญ่พวกเค้าจะเจอคำตอบ และนำไปสู่ความร่ำรวย
ถ้ามัวแต่ตั้งคำถามโดยไม่ทำอะไรเลย ไม่แม้แต่จะหาคำตอบ คำถามก็ไม่ต่างอะไรกับข้ออ้างที่เพ้อเจ้อไปวัน ๆ และเหตุผลที่ว่าทำไมไม่รวยสักทีก็เพราะไม่ทำอะไรเลยนอกจากตั้งคำถามนั่นแหละ
4. จะลงทุนอะไรดี ?
คนเราสามารถเริ่มต้นเดินทางสู่ความมั่งคั่งได้ทุกเมื่อ แต่คนจนไม่รู้ในเรื่องนี้ เอาล่ะ..ในเมื่อรู้แล้วว่าการลงทุนนำมาซึ่งความมั่งคั่งร่ำรวยได้ แต่คนจนจะตั้งคำถามซ้ำไปซ้ำมาว่าจะลงทุนอะไรดี ลงที่ไหนถึงจะปลอดภัย ไม่เสี่ยง ทุนไม่หาย กำไรไม่หด นั่งคิดไปเรื่อย ๆ จนไม่ได้ลงทุนไปกับอะไรเลย
ความจริงก็คือไม่มีการลงทุนอะไรไม่เสี่ยง ทุนที่ลงมาทั้งหมดอาจหายวับไปกับตาได้เลย หรือบางทีก็บวกเอา ๆ จนคุณไม่คิดว่าจะได้มากขนาดนี้ เพราะทุกอย่างคือความเสี่ยง ถ้าปฏิเสธการลงทุน ปฏิเสธความเสี่ยงตั้งแต่แรก ก็ไม่มีทางได้รับผลตอบแทนอะไรเลย
ดังนั้นถ้าอยากรวยต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินของตัวเอง เปลี่ยนวิธีหาเงิน เปลี่ยนวิธีเก็บเงิน เปลี่ยนวิธีคิด แล้วความร่ำรวยจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
5. เงินแค่นี้ จะเอาไปทำอะไรได้ ?
จากคนจนจะก้าวไปสู่ความเป็นคนรวย ถนนเส้นนี้ยังต้องเดินกันอีกยาว ไม่มีคนรวยคนไหนที่รวยได้ในพริบตา ทุกคนล้วนผ่านอุปสรรคกันมาแล้วทั้งนั้น เงินแค่นี้หรือแค่ไหนก็กลายเป็นเงินก้อนโตได้ถ้ารู้จักทำให้มันงอกเงย
คนจนมักชอบดูถูกเงินของตัวเองและคิดว่าเงินไม่ได้สำคัญ แต่ที่ก้มหน้าก้มตาทำงานกันอยู่นี่ก็เพื่อเงินทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเงินแค่นี้ก็สำคัญ และเอาไปทำอะไรที่อาจทำให้รวยได้ เช่น เดี๋ยวนี้เงินหลักร้อยก็เอาไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนได้ อย่าลืมว่าถ้าไม่เริ่มเดินบนเส้นทางแห่งความรวยก็คงไม่มีวันไปถึง
6. ใครจะกล้าทำอะไรแบบนี้ ?
ความปลอดภัยไม่ได้ดีเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องการเงิน คนที่ไม่กล้าเสี่ยง ยึดติดกับงาน กับเงินเดือนอย่างเหนียวแน่น เพราะรู้สึกว่าปลอดภัยที่สุด ยังไงก็ไม่รวย
คนจนมักจะขี้กลัว พอมีเงินเก็บเข้าหน่อยก็มักรีบเอาไปฝากออมทรัพย์ คอยดูเงินในบัญชีค่อย ๆ กระดึ๊บไปทีละน้อย เพราะคิดว่าการลงทุนคือความเสี่ยง ในขณะที่คนรวยจะศึกษาจนพร้อมที่จะเสี่ยง ถ้ามันได้รับผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคาร
การให้เงินทำงานคือวิถีของคนรวย ระหว่างที่คนจนเอาแต่ตั้งคำถามว่าใครจะกล้าทำอะไรแบบนี้ ? เงินในหุ้น ในกองทุนของคนรวยก็เพิ่มเอา ๆ นั่นแหละความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจน
7. ต้องเหนื่อยแค่ไหนถึงจะรวย ?
หลายคนไม่รู้ว่าความขยัน ทำงานหนักไม่ได้ทำให้รวย มากกว่าครึ่งของคนรวยไม่ได้ทำงานหนัก แต่พวกเค้าทำงานเป็น
ในหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” บอกไว้ตอนหนึ่งว่า พ่อจนสอนว่า “ทำงานให้หนักเข้าไว้” ส่วนพ่อรวยสอนว่า “ทำไมต้องทำงานหนักกับสิ่งที่เราไม่มีวันเป็นเจ้าของด้วย เราอาจจะถูกไล่ออกเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าอยากรวย ต้องสร้างธุรกิจของตัวเอง”
แปลว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำงานหนัก ทุกคนที่เหนื่อยจะรวย ความรวยไม่จำเป็นต้องมาพร้อมความเหนื่อย แต่ถ้าอยากรวยต้องทำงานเป็นและบริหารจัดการเงินให้เป็น
สรุปเลยก็คือ..ใจความสำคัญของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่การตั้งคำถาม มีคำถามไปก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่รู้จักหาคำตอบ ถ้าอยากรวยไม่ใช่แค่ตั้งคำถามไปวัน ๆ ว่าทำยังไงถึงรวย แต่ต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะถ้าที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันไม่ได้ทำให้รวย ทำต่อไปยังไงก็ไม่รวย บทความนี้แค่จะบอกคุณว่า..ถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่จะเปลี่ยนวิธีการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ ๆ ไม่แน่เศรษฐีใหม่อาจเป็นคุณ !
