โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อ่อนแอก็แพ้ไป..7 ความจริงเปลี่ยนชีวิต ที่ทุกคนรู้แต่ไม่เคยเข้าใจ

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2563 เวลา 18.02 น. • เพื่อนตุ้ม

ว่ากันว่าคนเราจะใช้เวลาในการเยียวยาตัวเองจากความทุกข์หนัก ๆ อยู่ 3 เดือน จะอกหักรักคุด สอบไม่ติด หรือล้มละลาย ก็จะฮีลตัวเองให้กลับมาเดินตรง ๆ ได้หลังจากผ่านไปแล้ว 3 เดือน 

ในช่วงเวลานั้นเราจะผ่านการตั้งคำถาม ตอบปัญหา และคุยกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาแทบจะตลอดเวลา เพื่อค้นหา ‘ความจริง’ ที่จะบอกอะไรสักอย่างให้เราก้าวพ้นจุดที่เจ็บปวดหนัก ๆ มาให้ได้

ความจริงที่ว่านี้ไม่ใช่สิ่งวิเศษอะไรเลย แต่เป็นเราเองต่างหากที่มองข้ามความจริงพวกนี้ไปตั้งแต่ต้น ความจริงที่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล ความจริงที่ไม่ใช่แค่ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แต่มันยังทำให้เรา..ลาขาดจากทุกปัญหาที่พุ่งเข้ามาด้วย

1. ชีวิตคนเรา แน่นอนกว่าที่คิด

คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าชีวิตไม่แน่นอน แต่จริง ๆ แล้วชีวิตคนเรานั้น มีอะไรที่แน่นอนอยู่หนึ่งก็คือ ทุกคนเกิดมาแล้ว ล้วนต้องตาย ต้องจากไปเหลือไว้แต่ความว่างเปล่าด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่สิ่งที่เป็นของเราแน่ ๆ อย่างร่างกาย เรายังไม่มีปัญญาเอาไปด้วยได้เลย เรื่องนี้ต่างหากที่แน่นอน แน่เสียยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง

แต่ที่แปลกก็คือคนเรามักยึดติดกับอะไรที่เป็นของเรา ตัวกู ของ ๆ กู ไม่ว่าอะไรก็พรากไปจากกูไม่ได้ ทั้งยึดมั่น ถือมั่น จนหนักไปทั้งร่างกาย ไม่เคยปล่อยและไม่เคยวางอะไรเลย เพราะคิดว่าชีวิตไม่แน่นอน ต้องรีบกอบ รีบโกย จนทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์ ทั้งที่ความจริงแล้ว ชีวิตเป็นอะไรที่แน่นอนที่สุด ยังไงซะทุกคนก็ต้องจากไปแบบว่างเปล่า ต่อให้โกยได้มากแค่ไหน ยึดไว้หนักแค่ไหน สุดท้ายก็เราก็ไม่เหลืออะไรเลยอยู่ดี

2. คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่นอกนั้นเราเลือกได้

หลายคนมักอ้างเรื่องชาติกำเนิด ฐานะ สถานะ ครอบครัว การศึกษา หรืออะไรก็ตาม เรื่องพวกนี้มักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อต่อรองเสมอ ๆ เวลาหมดหนทาง ทำอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจ หรืออยากตีโพยตีพายอะไรสักอย่าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็เป็นแค่ข้ออ้างจริง ๆ นั่นเอง เพราะคนเราแม้เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็น และเลือกจะทำอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งที่มันต้องเป็นอย่างนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะตัวเราเองต่างหากที่ไม่ทำอะไรเลย

เราเลือกจะทำตัวเองให้สูงขึ้นได้ เลือกจะเรียนให้หนักเพื่อให้มีการศึกษาได้ เลือกได้แม้กระทั่งการคบคนที่ดี เพื่อพาตัวเองออกมาจากแวดวงของคนไม่ดีได้ แต่ที่มันเป็นอย่างนั้นก็เพราะหลายคนไม่เลือก และไม่ได้คิดจะเลือกด้วยซ้ำ อะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็เปิดรับเอาไว้หมด ไม่คัดกรอง ไม่เลือก ไม่..แม้แต่จะใส่ใจตัดสินว่าสิ่งเหล่านั้นดีหรือไม่ดี สุดท้ายพอไม่ได้เลือกบ่อย ๆ เข้า ก็เลือกไม่ได้ มีอะไรมาก็ต้องรับหมด จนตีอกชกตัวว่าโดนโลกนี้ทำร้าย ทั้งที่ความจริงแล้ว มันเป็นผลมาจากการไม่ยอมเลือกเสียตั้งแต่แรก

3. อย่าลืม..เราไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล

คนเราเดี๋ยวนี้ชอบเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นตัวเอกของทุกเรื่อง ไม่ว่าอะไรก็เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางไปเสียหมด พาลให้คิดและตัดสินอะไรจากมุมมองของตัวเองคนเดียว โดยไม่รู้เลยว่า..เฮ้ย ! มันทำแบบนั้นไม่ได้ เรื่องบางเรื่องก็ไม่มีผิด ไม่มีถูก การใช้ชีวิตไม่ใช่การบวกเลข 1 + 1 ไม่จำเป็นต้องเท่ากับ 2 เสมอไป บางครั้งคนหนึ่งคิดอย่าง แต่อีกคนคิดอีกอย่าง ก็ไม่มีใครผิด ก็แค่ความคิดที่ไม่ตรงกันก็เท่านั้น

อย่าลืมว่าไม่มีใครถูกเสมอ และไม่มีผิดได้ตลอด เราจะเอาความคิดของเราไปตัดสินคนอื่นไม่ได้ เพราะมันอาจไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้อง แต่มันคือความคิดที่ถูกใจเรา จงอย่าใช้ชีวิตโดยคิดว่าตนเองสำคัญที่สุด จงให้ความสำคัญกับคนอื่นให้มาก เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณเพียงคนเดียว

4. ปลูกอะไรก็จะได้อย่างนั้น

น่าแปลกที่เรื่องธรรมดาที่สุดอย่างการทำอะไรก็ได้อย่างนั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่หลายคนไม่ยอมรับรู้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อเราเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง นั่นก็คือการกำหนดผลหรือสิ่งที่จะตามมาในอนาคตข้างหน้าไปส่วนหนึ่งแล้ว เช่น เมื่อทำงานหนัก ปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความตั้งใจลงไปในงาน ผลที่ได้ก็คงหนีไม่พ้นความสำเร็จ แต่ถ้าทำงานแบบขอไปที เช้าชาม เย็นสองชาม แต่หวังว่าจะประสบความสำเร็จเท่ากับคนที่ทำงานอย่างหนัก ก็คงเป็นไปไม่ได้

ทำอะไรไว้ มันก็ได้อย่างนั้นนั่นแหละ เป็นทั้งกฎแห่งกรรมและกฎแห่งการใช้ชีวิต ปลูกเหตุไว้อย่างไร ผลที่ออกมาก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หว่านพืชเช่นไรย่อมได้รับผลเช่นนั้น ปลูกข้าวก็ต้องได้กินข้าว ทำงานหนักก็ต้องประสบความสำเร็จในสักวันอย่างแน่นอน

5. ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้

คนเราเปลี่ยนกันได้ก็จริง แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนใครได้ ถ้าเค้าไม่อยากเปลี่ยน คนจะเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อเขาอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ความทุกข์ของคนเราอย่างหนึ่งก็คือการพยายามจะเปลี่ยนความคิดและการกระทำของใครสักคน ซึ่งถ้าเราอยากเปลี่ยนเค้า เราจะเหนื่อยและทุกข์เอามาก ๆ กับการพยายามที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย สิ่งที่ง่ายกว่านั้นก็คือเปลี่ยนใครไม่ได้ ให้เปลี่ยนตัวเอง

เปลี่ยนในที่นี้ก็คือการเปลี่ยนความคิดและการกระทำของตัวเองให้เข้าใจและยอมรับว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนใครหรืออะไรได้เลย ต่อให้ใช้ความพยายาม ความดี ความรัก หรืออะไรก็ตาม เพราะถ้าเค้าไม่อยากเปลี่ยน เค้าก็จะไม่เปลี่ยน

6. อย่าน้อยใจโชคชะตา

พอบอกว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ หลายคนก็น้อยใจในโชคชะตา ทำไมบางคนเกิดมามีพร้อม ในขณะที่มองไปรอบตัว เราแทบไม่มีอะไรเลย นอกจากจะน้อยใจในสิ่งที่ติดตัวมาแล้ว ยังพาลโทษสังคม โทษทุนนิยม โทษโน่น โทษนี่ที่ไม่มีความเท่าเทียม ตั้งคำถามไปกับทุกเรื่องทุกอย่างว่าทำไมชีวิตของเราถึงไม่เหมือนคนอื่น สู้แทบตาย อดทนแทบตาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเลย

เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน บางคนคิดแบบนี้บ่อย ๆ บางคนคิดแป๊บเดียวก็ได้คำตอบว่าสุดท้ายแล้ว คนเราก็มีหน้าที่ต้องใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ ต่อให้ตั้งคำถามไปมากแค่ไหน คำตอบก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า การยืดหยัดเพื่อให้มีชีวิตอยู่กันต่อไป ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองโดยที่โชคชะตาก็เป็นแค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่อาจทำให้เรายิ้มได้ในสักวัน

7. ไม่ชนะ..ก็ไม่เห็นจะเป็นไร

คนเรามีสัญชาตญาณแห่งการแข่งขันอยู่ในตัวกันทั้งนั้น ไม่แปลกที่เราจะอยากเป็นผู้ชนะ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รับชัยชนะมาครอบครอง แต่เราไม่จำเป็นต้องชนะในทุกครั้งที่แข่งขัน แพ้บ้าง เสมอบ้าง หรือไม่ลงแข่งบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นไร เพราะบางครั้งการแพ้ก็ยิ่งใหญ่และให้อะไรมากกว่าที่คิด

อย่าลืมว่าชีวิตคนเรามีทั้งสมหวังและผิดหวัง มีแพ้ก็ต้องมีชนะสลับสับเปลี่ยนกันไป การพ่ายแพ้ การเสมอ หรือถอนตัวไม่ลงแข่งอาจเป็นแค่บางช่วงบางตอนของชีวิตที่เรายังไม่พร้อม แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งชีวิตของเราจะล้มเหลวและต้องแพ้ตลอดไป เพราะเมื่อโอกาสมาถึงคนเราก็พร้อมจะสู้และยืดหยัดเพื่อชัยชนะอีกครั้งเสมอ

จริง ๆ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แค่รู้..แต่ไม่เคยเข้าใจ รู้..แต่ไม่เคยลึกซึ้งกับมัน เอาจริง ๆ ถ้าเราเข้าใจความจริงพวกนี้เมื่อไหร่ การใช้ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปเลย เปลี่ยน..ไปในทางที่ดีขึ้น เปลี่ยนไปในแบบที่เราจะเข้มแข็งและกล้าเผชิญกับทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในแบบที่ไม่ต้องเจ็บตัวเลยสักนิด เพราะถ้าเราเข้าใจก็ตั้งหลักได้ ต่อให้ปัญหาใหญ่แค่ไหนก็ทำอะไรเราไม่ได้~

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0