โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

#แบบนี้ไม่เวิร์กแล้ว! 7 สัญญาณต้องจบ ' รักทางไกล ' กับแฟน จากความหวานเป็นเฉยชา นับถอยหลังรอวันเลิก

SistaCafe

อัพเดต 20 ก.พ. 2564 เวลา 13.47 น. • เผยแพร่ 19 ก.พ. 2564 เวลา 14.00 น. • Mollacake

 

ฮัลโหลค่าา สาวๆ SistaCafe ที่ไม่มีแฟนอยู่ใกล้ๆ ทุกคน #แง TT^TT
เชื่อว่าถ้าเลือกได้ ก็คงไม่มีคู่ไหนอยากมีความสัมพันธ์แบบ Long Distance Relationship หรือรักทางไกลแน่ๆ จะทำอะไรก็เหงา ไม่มีคนอยู่เคียงข้าง อยากมีโมเมนต์ไปเที่ยว กินข้าวด้วยกัน พูดคุยแบบเห็นสีหน้า แววตาโดยไม่ต้องมีหน้าจอมาคั่นกลาง มันคือความสุขในแบบที่อินเทอร์เน็ตให้ไม่ได้ Y^Y ในช่วงสถานการณ์โควิด โชคชะตาก็ดลบันดาลให้ต้องแยกจากกัน ทั้งแบบที่เต็มใจและไม่เต็มใจ บางคู่อยู่คนละจังหวัด แต่บางคู่ก็ต้องห่างกันคนละประเทศ ทวีป ที่ต่างไทม์โซนกันอีก #วัดใจมากๆ 
ซิสบางคนอาจจะมองว่ามันคือ ' บททดสอบความรัก ' ถ้าก้าวผ่านอุปสรรคด่านนี้ไปได้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีก แต่ต้องอย่าลืมว่า มนุษย์แต่ละคนมีความโหยหา  และความต้องการในรักที่ต่างกัน บางทีเวลาผ่านไป เป้าหมายทั้งสองฝ่ายแยกห่างกันออกไปเรื่อยๆ ความผูกพันก็น้อยลงตามเวลา สุดท้ายก็เริ่มส่อแววว่าจะไปไม่รอด…. ถ้าซิสเป็นหนึ่งในคู่รักทางไกลที่เริ่มสับสน ไม่แน่ใจว่าเธอกับแฟนจะไปตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่ ลองมาเช็กได้ใน' 7 สัญญาณต้องจบรักทางไกลกับแฟน ' ความหวานเป็นความเฉยชาไปแล้ว ยิ่งยื้อไปก็เหมือนรอวันเลิกเปล่าๆ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะหยุดหรือไปต่อนะคะ

1. ใช้ชีวิตได้ปกติได้เป็นวัน ( หรือหลายวัน ) โดยไม่จำเป็นต้องคุยกับอีกฝ่าย

จากที่โหยหากันเหมือนจะขาดไม่ได้สักวินาที จะทำอะไรอยู่ต้องเปิดเสียงหรือวิดีโอคอลทิ้งไว้ตลอด ตอนนี้กลับเบื่อๆ ไม่ได้อยากจะทักเขาเป็นคนแรกหลังตื่นนอนอีกแล้ว ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป ( เอาจริงๆ สบายตัวดีด้วยซ้ำ เหมือนได้กลับไปเป็นคนโสด ) บางวันตื่นตั้งแต่เช้าละ แต่เพิ่งทักไปช่วงเย็น ฝั่งนั้นก็เหมือนกัน ถ้าไม่ทักก็ไม่ตอบ วันไหนพีคๆ หน่อย ลืมตอบไป 2-3 วันก็มี แล้วก็ไม่ได้โหวงๆ หรือรู้สึกผิดอะไรด้วยนะ ปกติมาก ปกติจนผิดปกติเลยแหละ!
การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งคู่ไม่รับรู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายในชีวิต เป็นลางไม่ดีที่ชัดเจนมากๆ ว่าความรักเริ่มจืดจาง เพราะคนที่มีความห่วงใย คิดถึง แคร์กันจริงๆ จะไม่มีทางรอจนข้ามวันไม่มีใครที่ยุ่งเกินไปจนไม่มีเวลา 10 วิตอบแชท หรือส่งสติ๊กเกอร์มาสักตัวหรอก มันปลีกตัวได้อยู่แล้ว เวลาเข้าห้องน้ำหรือก่อนนอนก็มี ที่แชทมันว่างเปล่าเพราะในหัวเขาหรือเธอไม่ได้คิดถึงอีกฝ่ายเลยต่างหาก 

2. ทักแชทไปแบบเบื่อๆ มีแต่เรื่องเดิมๆ ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย

ใครเคยเป็นบ้าง ไม่ได้อยากคุยขนาดนั้นหรอก แต่ต้องทักแชทไปบ้างเพราะคิดว่ามันเป็น ' หน้าที่ ' ที่ต้องทำเฉยๆ ตอนเช้าก็ส่งสติ๊กเกอร์ที่ไม่มีความหมายใดๆ ไปหนึ่งตัวแล้วก็ดองยาว ทำนู่นทำนี่ที่น่าสนใจมากกว่า เรื่องที่คุยกันแต่ละวันก็มีแต่เรื่องเดิมๆ มอร์นิ่ง ฝันดี จากที่เมื่อก่อนเจออะไรนอกบ้านก็ต้องเม้าท์ คอลคุยกันเป็นชั่วโมงๆ ส่งรูปอาหารมาให้ดูบ้างอะไรบ้าง ตอนนี้เหรอ อืม ขี้เกียจอะ บางทีคิดว่าจะส่งให้แล้วก็ลืม หัวข้อที่คุยก็เลยวนแต่เรื่องซ้ำซากอยู่อย่างนี้ รู้ตัวอีกทีแชทของแฟนก็เป็นแชทที่ ' น่าเบื่อ ' ไปซะแล้ว
บอกเลยว่าคู่ไหนเป็นแบบนี้อยู่ คือสัญญาณวี้หว่อๆ สุดอันตรายว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับแฟนน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ เพราะการทำแบบนี้ อีกนัยหนึ่งมันก็หมายความว่า ' คุณไม่ได้สำคัญมากพอที่จะต้องมารับรู้เรื่องของฉัน ' และ ' ฉันก็ไม่ได้สนใจว่าคุณจะเป็นยังไงเหมือนกัน 'รายละเอียดตัวตนของอีกฝ่าย เมื่อไม่มีความทรงจำใหม่ๆ เพิ่มเลย ทั้งนิสัย บุคลิก ความชอบ รสนิยม mindset ของแฟนก็จะค่อยๆ จางลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่รู้แล้วว่าเราเข้ากันได้จริงไหม แล้วจะพยายามคบคนคนนี้ไปทำไม #กลิ่นการเลิกราลอยมาแต่ไกล

3. ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มมีพฤติกรรม ' หลีกเลี่ยง ' ไม่คุย ไม่บอกรัก

ตอนคบกันใหม่ๆ ไม่ต้องตั้งกฎอะไร ต่างฝ่ายก็รู้สึกอยากส่งความรักที่มีให้อีกฝ่ายจนหมดหัวใจ อารมณ์ ' คลั่งรัก ' แหละว่าง่ายๆ ทั้งคำพูดบอกรัก ของขวัญดีๆ การกระทำที่รับรู้ได้ว่าใส่ใจความรู้สึกของแฟน คอยคอลหา ส่งข้อความให้กำลังใจ เวลามีปัญหาก็โทรไปให้เขาโอ๋ได้ทันทีโดยไม่ต้องคิดว่าเขาจะยุ่งอยู่หรือเปล่า มองไปทางไหนโลกก็เป็นสีชมพูพาสเทล ช่วงนั้นมันดีมากจริงๆ แต่ตอนนี้น่ะเหรอ จืดสนิท!
เธอเองพยายามส่งคลื่นไปนะ แต่อีกฝ่ายหันเสาหนีจ้า พยายามหลบเลี่ยงไม่พูดบอกรัก ไม่แสดงความรักให้เห็นชัดเจนเหมือนแต่ก่อน อย่าบอกว่าคิดไปเองเลย คนเคยคุย เคยมุ้งมิ้งกันอยู่ทุกวัน ถ้าแฟนเปลี่ยนไปทำไมจะมองไม่ออก และนี่คือสัญญาณที่กล้าพูดเลยว่ากลิ่นไม่ดีแล้ว! อยู่ใกล้ยังนัดมาเคลียร์ หรือบุกไปหาถึงที่ได้แต่รักทางไกล ถ้าเขาไม่พร้อมเปิดใจ ไม่ยอมเปิดวิดีโอคอลหรือรับโทรศัพท์ก็จบ นับถอยหลังรอได้เลยว่าอาจจะไม่ได้ไปต่อค่ะ

4. อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับ ' กิจกรรมทั่วๆ ไป ' มากกว่าเธอเสมอ

คนเราถ้ามีแฟน ก็ต้องให้ความสำคัญกับแฟนอันดับต้นๆ เป็นเรื่องปกติถูกมั้ย? ซึ่งเมื่อก่อนก็อาจจะเป็นอย่างนั้น จะทำอะไร จะนัดกับใครยังโทรหรือไลน์มาขออนุญาตด้วยซ้ำ ถ้าเห็นว่าเธอไม่พอใจ เศร้าหรือน้อยใจก็พร้อมจะหยุดเดี๋ยวนั้น และพยายามทำทุกอย่างให้เธอสบายใจแต่เดี๋ยวนี้คุยๆ อยู่ก็ตัดสายไปคุยกับคนอื่น หรือนัดคอลทุกอาทิตย์ ก็ขอเลื่อนบ่อยๆ เพราะจะไปทำธุระ ( อะไรก็ไม่บอกด้วยนะ ) โอกาสสำคัญก็หนีหาย ไลน์ไม่ตอบ แย่สุดคือขอคอลในวันเกิด แต่เขาบอกขอดูหนังก่อน??? ว้อท?? นานวันเข้าก็เริ่มรู้สึกละว่า เอ๊ะ นี่ฉันมีความสำคัญบ้างรึเปล่าเนี่ย?
การรู้สึกถูกลด rank ระดับความสำคัญ เป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับคนมีคู่ที่สุดแล้ว เพราะถ้าแฟน หรือคู่ชีวิตที่เราจะอยู่กับเขาไปอีกหลายสิบปีในอนาคต มองเห็นเราสำคัญเป็นอันดับท้ายๆ แล้วเราจะมีเขาไว้ในชีวิตไปเพื่ออะไรกันล่ะ? อย่าว่าแต่รู้สึกว่าถูกทิ้งจริงๆ จังๆ เลย แค่มีเซนส์ ' เอ๊ะ ' ว่าเราไม่ใช่คนสำคัญอีกต่อไป ก็เพียงพอที่จะปล่อยมือจากใครสักคนแล้ว เพราะคนรักกัน ไม่ทำกันแบบนี้ 

5. ยิ่งคบยิ่งทะเลาะ ชีวิตแต่ละฝ่ายย่ำอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้าไปไหน

ตอนที่เธอทั้งคู่ตัดสินใจแล้วว่า " ถึงคบทางไกลก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าใจเราไม่หวั่นไหวมันก็ต้องไปรอดสิ! " ทุกอย่างดูสวยงามหอมหวานไปหมด มองภาพตัวเองกับแฟนเป็นนักรบที่จะฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างได้หมด และปลายทางคืองานแต่งงานแสนวิเศษเหมือนในฉากสุดท้ายของนิทานดิสนีย์ แต่ไปๆ มาๆ พอเวลาผ่านไป ต่างฝ่ายต่างเติบโต นิสัย บุคลิกบางอย่างเริ่มเปลี่ยน เป้าหมายในชีวิตที่เคยมีร่วมกัน ก็มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากเฟดออกมา เพราะมันไม่ตอบโจทย์ของเขาหรือตัวเธอเองอีกแล้ว ยิ่งมีเรื่องทะเลาะให้ร้องไห้ เสียน้ำตาไม่เว้นวัน #ใจพังสุดๆ
Toxic Relationship ที่ทำให้เสียความรู้สึกทั้งสองฝ่าย แถมอนาคตก็ติดแหง็กไม่ก้าวหน้าไปไหน ไม่ควรเกิดกับคู่รักคู่ไหนทั้งนั้น มนุษย์เกิดมามีชีวิตเดียว ควรใช้ให้มีความสุขและตอบสนองเป้าหมายของตัวเอง การเลือกคู่ชีวิตก็มีพื้นฐานจากตรงนั้นเราเลือกแฟนตอนแรกก็เพราะจะมาเป็น ' พาร์ทเนอร์ ' ที่มีความคิดคล้ายกัน เป้าหมายเหมือนกัน จูงมือกันไปถึงเส้นชัยถูกมั้ย? แต่ถ้ากาลเวลาเปลี่ยนเขากลายเป็นใครก็ไม่รู้ซะแล้ว ก็ไม่ผิดที่จะปล่อยมือคนเก่า แล้วหาพาร์ทเนอร์คนใหม่ match กัน ไม่ต้องมาทนเจ็บกันทั้งสองฝ่ายไปเรื่อยๆ ด้วยค่ะ

6. อีกฝ่ายทำตัว ' มีความลับ ' มีอะไรไม่บอก ยิ่งไม่ถามก็ยิ่งอุบเงียบ

คุณสมบัติของคู่รักที่จะมาเป็นแฟนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ ' เราต้องสบายใจ มั่นใจที่จะแชร์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะโดนแทงข้างหลัง ' เพราะคนรักก็ไม่ต่างกับ safe zone ที่ไม่ว่าเธอจะประสบความสำเร็จระดับโลก วันที่ทุกคนหันหลังให้เธอ หรือวันที่เธอทำตัวไม่น่ารัก คนรักที่ดีก็ต้องยังอยู่ข้างๆ คอยปลอบประโลม ให้กำลังใจเพื่อสู้ต่อไปด้วยกัน
ตอนแรกแฟนของเธอก็อาจเป็นแบบนั้น แต่ทุกวันนี้เขากลับทำตัวลับๆ ล่อๆ มีความลับจนผิดสังเกต บางทีก็หายไปหลายชั่วโมงหรือหลายวันโดยไม่บอกล่วงหน้า พอเธอตัดสินใจถามตรงๆ ก็ตอบแบบเลี่ยงๆ ไม่กล้าพูดความจริง แม้สุดท้ายแล้วความลับนั้นจะไม่ใช่เรื่องเชิงชู้สาวมีกิ๊ก แต่มันก็เป็นสัญญาณบอกว่า ' เขาไม่ไว้ใจเธอมากพอที่จะแชร์เรื่องสำคัญในชีวิตอีกแล้ว 'หัวอกแฟนมันเจ็บจี๊ดเหมือนกันนะ คนรักดีๆ ไม่ควรมีความลับต่อกันไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม ถ้าพยายามคุย ปรับแล้ว จนแล้วจนรอดก็ยังมีความลับงอกใหม่เรื่อยๆ ก็ต้องพิจารณาแล้วละว่า จะยังคบกับคนนี้เป็นแฟนต่อไปหรือไม่

7. ไม่คุยอนาคต ไม่ผูกมัด ไม่รู้เป้าหมายในการคบกัน จนเหมือนกับ ' ไม่มีตัวตน '

ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคู่ที่จะคบทางไกลได้นานๆ มันต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร ซึ่งการจะมีความอดทนเหล่านั้นได้ ก็แปลว่าทั้งคู่ต้องมี ' เป้าหมายใหญ่ๆ ' สักเรื่องร่วมกัน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเวลาอ่อนล้า เพลีย เหงาที่ไม่มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆ ก็ยังคิดได้ว่าเรากำลังทนเพื่อสิ่งนี้อยู่ เช่น คบรอแต่งงาน คบรอวันที่จะจดทะเบียนแล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน คบเพื่อสักวันจะไปเที่ยวด้วยกันรอบโลก เป็นต้น ที่สำคัญคือ ' เขา ' ทำให้เรามั่นใจว่าเป้าหมายนี้ยังคงอยู่ไม่หายไปไหน ก็จะทำให้ Long Distance Relationship ไม่ล่มระหว่างทางค่ะ
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของทั้งคู่ดูเลือนรางเหมือนเลนส์แว่นที่ฝ้ามัว ไม่รู้จุดหมายว่าคบไปเพื่ออะไร ปลายทางอยู่ตรงไหน จะแต่งงานไหม หรือจะคบทางวิดีโอคอลแบบนี้ไปเรื่อยๆ?  หลายคนก็พอใจที่จะคบแบบ ' คุยๆ ไปก่อน ' แต่ถ้าเจอคนที่ใช่กว่าก็พร้อมจบ หรือบางคนก็อาจจะยังไม่เร่งรีบสร้าง commitment หรือการผูกมัดที่จริงจัง แต่ละคนมีแนวทางความรักที่ต่างกัน ถ้าเธออยากซีเรียสกับความสัมพันธ์ แต่อีกฝ่ายยังล่องลอย คุยเรื่องอนาคตก็ให้คำตอบไม่ได้ อยากแต่งงานก็อ้ำอึ้งใส่ แนะนำให้เปิดใจคุยจริงๆ จังๆ ว่าจะเอายังไงต่อ หากเป้าหมายข้างหน้าไม่ตรงกัน จะได้รีบมูฟออนแยกย้าย ไม่เสียเวลาเธอไปมากกว่านี้ค่ะ

---------------------------------------------------
" หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน " ซิสหลายคนอาจเจอสุภาษิตนี้จากคนใกล้ตัวอยู่บ้าง เมื่อบอกกับพวกเขาว่ากำลังมีความรักทางไกล ซึ่งในบางมิติก็จริงที่ว่า ธาตุแท้บางอย่าง ถ้าอยู่ใกล้กันตลอดเวลาเราก็อาจไม่มีวันได้เห็น แยกกันอยู่ก็ทำให้เห็นคนรักได้ชัดมากขึ้น ว่าเขารักเราเพียงเพราะเหงา อยากมีใครก็ได้ หรือเขารักที่ตัวตนเราจริงๆ อยู่ไกลกันยังไงก็จะรอ แต่อย่างไรก็ตาม ความรักไม่ได้มีสูตรสำเร็จขนาดนั้น บางคู่รักกันมาก แต่เป้าหมายใหญ่ในชีวิตไปด้วยกันไม่ได้ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายไม่ปลื้ม หรือแค่รู้สึกหมดรักกันแล้ว ก็มีอันต้องโบกมือลาเช่นกันค่ะ
หากคู่เธอมีสัญญาณอย่างในบทความนี้จริงๆ เราก็ไม่อยากให้ซิสมองว่า " เพราะระยะทาง อยู่ห่างกันเลยต้องเลิก ถ้าอยู่ด้วยกันคงไม่เป็นแบบนี้ " เพราะถ้าความรักมันต้องจบจริงๆ จะอยู่ใกล้หรือไกลก็จบลงได้ทั้งนั้น ให้มองว่าเพราะมีรักทางไกล จึงเห็นความไม่เข้ากันได้ชัดขึ้นจะดีกว่า ถ้าคุยแล้ว ปรับแล้วก็ยังไม่รอด ก็ถือเป็นเรื่องราวหนึ่งในชีวิตที่ผ่านไป ต่างฝ่ายก็มูฟออนไปเจอคนที่ใช่มากกว่าก็เท่านั้นเอง ชีวิตคนเราก็เท่านี้ กอดๆ อย่าคิดมากนะคะ ^^ วันนี้เราก็ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่น้าา („• ֊ •„)

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0