3 ปี คดี ‘ฆ่าเสือดำ’ พาไปสู่แรงกระเพื่อมทางสังคม : เสาร์นี้ในอดีต

เมื่อนึกถึงสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทยแล้วนั้น จะพบว่ามีหลากหลายประเภทมากกว่า 1,000 ชนิด ทั้งหมดล้วนถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ซึ่ง 'เสือดำ' ก็ถูกจัดเป็น 1 ใน 1,000 ชนิด ที่มีกฏหมายคุ้มครอง 

เสาร์นี้ในอดีต : จะพาย้อนวันที่ 20 มีนาคม 2562 หนังสือพิมพ์ทุกแขนงต่างตีแผ่ นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกถูกศาลตัดสินจำคุก 16 เดือนไม่รอลงอาญา ลงโทษ 3 ข้อหาคือ

-ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน

-ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน

-ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมโทษจำคุก 16 เดือน

ส่วนข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลยกฟ้อง

จุดเริ่มต้นคดีดังที่ทำให้สังคมจับตามอง เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 เจ้าหน้าที่ทุ่งใหญ่นเรศวรนเรศวรฝั่งตะวันตก ได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้าม จึงรุดเข้าตรวจสอบพบซากสัตว์ป่า คือ 'ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ' ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็น 'สัตว์ ป่าคุ้มครอง' ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกกรดติดลำกล้อง 1 กระบอก ปืนไรเฟิลติดลำกล้อง 1 กระบอก และ ปืนลูกซองแฝด 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 4 ราย โดย 1 ในนั้นคือ 'นายเปรมชัย กรรณสูต' หลังเกิดเหตุได้มีภาพขณะจับกุมเผยแพร่ในโลกออนไลน์จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำและโทษที่ควรที่จะได้รับกับสิ่งที่ก่อขึ้น จนเกิด #เสือดำต้องไปตายฟรี 

ผลการตรวจวิถีกระสุนกับปืนที่ยึดได้ จากร่องรอยการถูกยิงของซากเสือดำ พบว่าซากเสือดำมีรอยถูกยิง 8 จุด โดย 3 จุดแรกพบรอยกระสุนตรงกับกระสุนปืนขนาด 20 มม.ที่พบในที่เกิดเหตุ และปืนกระบอกดังกล่าวพบ DNA ของนายเปรมชัยที่โก่งไกปืน แต่จะพิสูจน์ว่าเป็นการยิงจากปืนของนายเปรมชัยหรือไม่นั้นพิสูจน์ได้ยาก เนื่องจากเป็นกระสุนลูกปราย

ส่วนอีก 5 จุดที่เหลือมีรอยฉีกขาด ไม่สามารถระบุได้ว่ามีการใช้ปืนไรเฟิลยิงซ้ำหรือไม่ไม่มีการส่งคราบเขม่าดินปืนบนเสื้อนายเปรมชัยให้พิสูจน์หลักฐานตรวจในขณะนั้น 

ซึ่งคดีที่นายเปรมชัยและพวกได้ก่อไว้เปรียบเสมือนไฟล่ามทุ่ง วันที่ 7 ก.พ.2561 ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือ ปทส. ได้ขออนุมัติศาล ค้นบ้านนายเปรมชัย ในซอยเพชรบุรี 47 การตรวจค้นพบอาวุธปืน 43 กระบอก จำนวนนี้มีปืนไรเฟิล 28 กระบอก ปืนยืนยาว ปืนสั้น 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนมากกว่า 1,000 นัด จึงสั่งให้อายัดอาวุธปืนทั้งหมดไว้ตรวจสอบ 

อีกทั้งยังพบงาช้างสองคู่ หรือ 4 กิ่งขนาดยาว 1 เมตร ที่ภรรยาของนายเปรมชัย อ้างว่ามีใบอนุญาตในการครอบครองถูกต้อง จนกระทั่ง 2 ต.ค.62 ศาลอาญายกฟ้องเปรมชัยกับเมีย และคนใกล้ชิด คดีครอบครองงาช้าง 2 คู่ โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่าอายุของงาช้างที่ได้ตรวจดูจากฐานไม้งาช้างทำขึ้นพิเศษ ซึ่งมีอายุมากกว่า 40 ปี โดยสอดคล้องกับคำให้การ พร้อมพิพากษายกฟ้อง พร้อมทั้งยกคำร้องที่ขอให้ริบของกลางเป็นงาช้าง 2 คู่

และเมื่อช่วง เม.ย.63 นายเปรมชัยและทนายความเดินทางมาถึงศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อรับฟังการอ่านคำพิพากษาภายหลังตกเป็นจำเลยในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีมีอาวุธปืนไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊ป 1 กระบอก ไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพบภายในบ้านพัก 

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลชั้นต้นลงโทษไว้เหมาะสมแล้ว ส่วนข้อที่จำเลยอุทธรณ์มาโดยอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ และปืนเหล่านั้นเป็นของบิดาซึ่งเสียชีวิตแล้ว แต่ศาลเห็นว่าขัดกับคำให้การรับสารภาพ จึงฟังไม่ขึ้น และจำเลยครอบครองอาวุธปืนถึง 5 กระบอก บางกระบอกเป็นอาวุธร้ายแรง สำหรับการล่าสัตว์ อาจเป็นเหตุให้นำไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรม

ส่วนที่จำเลยอ้างเรื่องสุขภาพ มีโรคประจำตัว ขอรอการลงโทษนั้น ศาลเห็นว่าโรงพยาบาลภายในเรือนจำและแพทย์ก็พร้อมที่จะรองรับคอยดูแลอยู่แล้ว และยังสามารถส่งต่อให้กับโรงพยาบาลภายนอกได้หากมีเหตุฉุกเฉิน ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือ จำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา

โดยทนายยื่นขอประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีในศาลฎีกาใช้หลักทรัพย์เดิม 2 แสน และเพิ่มเงินสดเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวอีก 3 แสน รวมเป็น 5 แสนบาท ต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายเปรมชัย ในวงเงิน 5 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข

‘ชีวิตของเสือดำ’

เมื่อพูดถึง “เสือดำ” หลายคนอาจคิดว่าเป็นเสือชนิดพันธุ์หนึ่ง หากในความเป็นจริง คำว่าเสือดำ หรือ “black panther” ไม่ใช่ชนิดพันธุ์ในตัวเอง หากเป็นคำเรียกรวมๆ ถึงสัตว์วงศ์เสือและแมวที่มีขนสีดำ โดยเสือดำนั้นเป็นสัตว์ชนิดเดียวกับเสือดาว

โดยข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อปี 2561 ระบุไว้ว่า สำรวจพบเสือโคร่งในป่าประมาณ 150 ตัวทั่วประเทศ และเป็นเสือดาว 100 – 130 ตัว ในจำนวนนี้เป็นเสือดำอยู่เพียงแค่ 15 ตัวเท่านั้น ซึ่งผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง เป็นสถานที่ที่มีประชากรเสือดาวและเสือดำเยอะที่สุดในประเทศไทย

“ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสตื่นตัวเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าสงวนในสังคมอย่างมาก และผู้คนในสังคมต่างตระหนักถึงการห้ามล่าสัตว์ในเขตพื้นที่คุ้มครอง”

อ้างอิง ngthai.com มูลนิธิสืบนาคะเสถียร