วันที่ 26 มิถุนายน 2020 'ชเว ซุก ฮยอน' นักไตรกีฬาชาวเกาหลีใต้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงที่หอพักของทีมในเมืองปูซาน ก่อนลงมือ เธอได้ส่งข้อความหาบุคคลผู้เป็นที่รักทั้งสอง ข้อความแรกถึงเพื่อนในทีมโดยเขียนว่าเธอฝากน้องหมาให้ช่วยดูแลต่อให้ด้วย ส่วนข้อความต่อไป ซุก ฮยอน พิมพ์ถึงคุณแม่ เธอบอกรักแม่และทิ้งท้ายเอาไว้ว่าการตายของเธอจะเป็นจุดเริ่มต้นที่เปิดโปงทุกอย่างที่ 'พวกเขา' ได้ทำเอาไว้
ภายหลังการเสียชีวิตของ ซุก ฮยอน ครอบครัวของเธอก็ได้ทำตามสิ่งที่ถูกขอเอาไว้ พ่อกับแม่ของเธอนำสมุดไดอารี่และไฟล์บันทึกเสียงส่งไปยังสื่อต่าง ๆ โดยทั้งหมดคือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ฟันธงสาเหตุการฆ่าตัวตายของ ซุก ฮยอน ว่าเธอถูกโค้ช หมอ และรุ่นพี่ในทีม กลั่นแกล้งและทำร้ายร่างกายเป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายปี
เรื่องนี้นำมาสู่การเปิดโปงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการกีฬาเกาหลีใต้ และยืนยันว่าการบุลลี่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในฉากจากซีรีส์หรือภาพยนตร์เท่านั้นแต่เป็นสิ่งที่นักกีฬาหลายคนต้องอดทนอดกลั้น ฝืนใจอยู่ในฐานะเหยื่อแบบปริปากพูดอะไรไม่ได้…
ชเว ซุก ฮยอน คือนักไตรกีฬาผู้เคยคว้าเหรียญทองถึง 3 เหรียญจากการแข่งขันระดับประเทศ เธอเรียนจบชั้นมัธยมปลายและสมัครเข้าเป็นนักกีฬาในสังกัดทีมคย็องจูในทันทีเพื่อเดินตามความฝันโดยหารู้ไม่ว่าฝันร้ายในชีวิตทั้งหมดรอเธออยู่ข้างหน้า
จากในไดอารี่ ซุก ฮยอน บันทึกเอาไว้ว่าเธอถูกรุ่นพี่ดาวรุ่งในทีมกลั่นแกล้งตั้งแต่เริ่มต้นเพราะกลัวว่าเธอจะแย่งตำแหน่งตัวท็อปของทีมไป "ฉันถูกจิกหัว ถูกต่อยอย่างไม่ยั้ง และพวกเขาก็เรียกฉันว่าเป็นกะหรี่ เป็นผู้หญิงร่าน" แต่ถึงกระนั้น โค้ชของทีมกลับเข้าข้างยัยรุ่นพี่ดาวเด่นและขอให้เธอคุกเข่าเพื่อขอโทษ
ในปี 2016 ระหว่างการฝึกและเก็บตัวที่ประเทศนิวซีแลนด์ ซุก ฮยอน เขียนเอาไว้ว่าเธอถูกครูฝึกตบหน้าด้วยรองเท้า แถมยังถูกลงโทษพร้อมกับนักกีฬาอีกคนให้กินขนมปังถุงใหญ่ที่โค้ชซื้อมาด้วยเงินเกือบ ๆ 4,000 บาท ให้หมด เธอกินจนอ้วกแต่ก็ถูกบังคับให้กินต่อไปจนถึงรุ่งเช้า นี่ยังไม่นับรวมการทำร้ายร่างกายอย่างนับครั้งไม่ถ้วนระหว่างการฝึกซ้อมอีกที่ทำให้เธอต้องเข้ารับการบำบัดถึงแม้ว่าจะได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนทีมชาติเยาวชนของประเทศแล้วก็ตาม
1 ปีต่อมา ซุก ฮยอน กลับเข้ารับการฝึกฝนเพื่อเตรียมตัวคัดตัวอีกครั้งด้วยความหวังว่าการเริ่มต้นครั้งใหม่นี้ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น แต่การบุลลี่ก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
หน่ึงในคลิปเสียงที่เธออัดเก็บเอาไว้เผยเสียงของ อัน จู ฮยอน แพทย์ประจำทีม เขาเรียกให้เธอมาคุกเข่าต่อหน้าและขอให้ ซุก ฮยอน ขบฟันไว้ให้แน่น ก่อนที่จะมีเสียงของการตบเกิดขึ้นอย่างไม่ยั้ง เขาทำร้ายเธอมากกว่า 20 ครั้งในวันนั้นและ ซุก ฮยอน ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสถึงขั้นกระดูกซี่โครงร้าว
คลิปเสียงจากปี 2019 เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่มัดตัวโค้ชในฐานะผู้ร้ายอย่างดิ้นไม่หลุด ในเหตุการณ์นั้น ซุก ฮยอน ถูกจับได้ว่าเธอแอบกินลูกพีขในข่วงควบคุมน้ำหนักและถูกสั่งให้อดอาหารเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน เธอร้องไห้และขอความเมตตาจากพวกเขา ก่อนที่จะโดนตวาดใส่ให้หยุด "ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะตีเธอให้ตายไปข้าง" และ "ที่คุณหมอต้องลงโทษแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเองทั้งนั้นแหละ"
ซุก ฮยอน พยายามขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนหน้านั้นแต่เรื่องของเธอกลับถูกเพิกเฉย หนึ่งในคอมเมนต์ที่เธอได้รับกลับมาก็คือ "มันเป็นเรื่องธรรมดานะที่เธอจะต้องถูกซ่อม หากเธอเลือกที่จะเป็นนักกีฬาแล้ว" ทางเดินสู่ความฝันของเธอช่างมืดมนจน ซุก ฮยอน เขียนเอาไว้ในไดอารี่ตอนหนึ่งว่าเธออยากตาย
"ฉันขอให้รถพุ่งมาชนตอนที่ฉันเดินอยู่บนถนน
หรือขอให้โจรมาแทงฉันตอนที่นอนอยู่จนตายไปเลยก็ได้"
…
และวันที่เธอตัดสินใจลาจากก็มาถึง นอกจากการเปิดโปงครั้งยิ่งใหญ่และการได้รับโทษอย่างสาสมของผู้ร้ายทุกคนในเรื่องนี้แล้ว การจากไปของ ซุก ฮยอน ทำให้เพื่อนนักกีฬาของเธอกล้าที่จะออกมาเผยความจริงว่าพวกเธอก็เป็นเหยื่อของเหล่าโค้ชทั้งหลายเหมือนกัน บางรายถูกซ้อมจนบาดเจ็บหนัก บางร้ายถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคมและก่อให้เกิดการปฏิรูปในวงการกีฬาของเกาหลีใต้ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ข่าวการบุลลี่ภายในสังคมนักกีฬาก็ยังคงมีการรายงานออกมาอยู่อย่างเสมอ…
อ้างอิง