“โหราศาสตร์ผ่าน4G” จริงบ้างมั่วบ้าง!แล้วทำไม“คนไทย” ถึงยังเชื่อในการดูดวง?
สังคมไทยกับการดูดวงนั้นอยู่คู่กันมายาวนาน ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปไกลเพียงใด การดูดวงก็ยังมีอยู่และได้รับความนิยมเสมอ ทำไมเราถึงยังเชื่อในศาสตร์แห่งการทำนายอยู่ การดูดวงปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอย่างไร
โหราศาสตร์นับว่าเป็นศาสตร์ที่เก่าแก่มาก ที่กำเนิดขึ้นมาตั้งแต่สมัย "บาบิโลเนีย" ชาวบาบิโลนใช้การเคลื่อนที่ของดวงดาวมาผูกเข้ากับดวงชะตาแล้วนำมาทำนายเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ทั้งการเมือง สงคราม รวมทั้งชะตาชีวิต พวกเขาเชื่อว่าการเคลื่อนที่ของดวงดาวเป็นสารที่ส่งมาจากพระเจ้า ในปัจจุบันการดูดวงได้กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ครอบคลุมทั้งเรื่องของความรัก สุขภาพ การงาน รวมทั้งเรื่องใกล้ตัวทุก ๆ คน
ก่อนหน้านี้ไม่นานนักการดูดวงในนิตยสารได้รับความนิยมอย่างมาก อย่างนิตยสาร "คู่สร้างคู่สม" รวมถึงนิตยสาร "ILIKE" ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าวัยรุ่น แต่การเข้ามาของอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือทำให้บทบาทของนิตยสารลดน้อยลง ความนิยมในการดูดวงด้วยนิตยสารจึงลดน้อยลง คอลัมน์การดูดวงได้มีการปรับตัวเข้าสู่เว็บไซต์ เช่น Pantip, Sanook, Mthai ที่มีคนกดเข้าไปชมต่อวันเป็นจำนวนมาก
การดูดวงได้ปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ทั้งการไลฟ์สดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงแอพพลิชั่นดูดวงที่รวบรวมหมอดูออนไลน์ชื่อดังมาไว้ด้วยกัน แพลตฟอร์มลักษณะนี้จะมีการคิดค่าบริการเป็นครั้ง ๆ โดยอาจจะจำกัดเวลาหรือคำถามที่จะถามหมอดูในแต่ละครั้ง
การดูดวงผ่านแอพพลิเคชั่นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น การเสี่ยงเซียมซี ไพ่ยิปซี ไพ่ทาโร่ ก็กลายร่างมาอยู่ในรูปแบบแอพพลิเคชั่นทั้งสิ้น ทำให้การดูดวงในปัจจุบันนี้เราไม่จำเป็นต้องไปหาหมอดูอีกต่อไป เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือก็สามารถที่จะดูดวงได้ทุกที่ ทุกเวลา การดูดวงในลักษณะนี้ทำให้หมอดูสามารถติดต่อสื่อสารกับกลุ่มผู้ดูดวงได้ง่าย และสามารถใช้ช่องทางของโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการหาลูกค้าเพิ่มได้
แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน แต่การดูดวงได้มีการปรับตัวให้คนรุ่นใหม่นั้นเข้าถึงได้ง่าย ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ไม่ว่ารูปลักษณ์ของการดูดวงจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หรือการดูดวงจะวิวัฒนาการไปมากแค่ไหน แต่จุดร่วมกันก็คือไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร มนุษย์ก็ยังคงอยากรู้เรื่องของอนาคตอยู่เสมอ
คนเรามักจะมีความกังวลถึงอนาคตอยู่เสมอ ยิ่งในปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ อนาคตก็จะยิ่งไปเรื่องน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้คนในยุคนี้มีความเครียดเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การดูดวงจึงเสมือนเป็นเครื่องมือที่ช่วยบรรเทาความเครียดของพวกเขาลงได้ เพราะจากงานวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการดูดวงของคนเมืองในเขตกรุงเทพมหานคร” ของ “อัครกิตติ์สินธุวงศ์รี” พบว่า หลังจากดูดวงแล้วกว่า 2 ใน 3 บอกว่าพวกเขามีความทุกข์ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง
แม้ว่าโลกเราจะซับซ้อนมากขึ้นเพียงใดหรือเทคโนโลยีจะเจริญก้าวหน้ามากแค่ไหนมนุษย์เราก็ยังมีความรู้สึกไม่มั่นคงเพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ว่าอนาคตวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรตราบใดที่เรายังมีความกังวลอยากรู้อนาคตมนุษย์ก็ยังคงต้องพึ่งการดูดวงอยู่แม้ว่ามันจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปเป็นแบบใดก็ตาม
อ้างอิง
http://digi.library.tu.ac.th/thesis/jc/1976/title-biography.pdf
https://www.tci-thaijo.org/index.php/socialresearchjournal/article/view/91100/71553
https://www.theatlantic.com/health/archive/2018/01/the-new-age-of-astrology/550034/
ความเห็น 19
traveller
ผมก้อคนไทย..แต่ไม่เชื่อดวง.ครับ..อันนี้นับเป็นสถิติได้ไหม..เวลาสื่อเสนอข่าวอย่านับแบบตีคลุมสิครับ..คาดเดาเอาเอง...ถ้าผมบอกว่าสมัยนี้คนไทยไม่เชื่อเรื่องดวงมากขึ้นกว่าสมัยก่อนน่าจะมีน้ำหนักมากกว่านะครับ
10 ก.พ. 2562 เวลา 01.15 น.
คนขาดที่พึ่งทางใจ และไม่สนใจศาสนา ที่พูดถึง ความจริงของชีวิต ชอบศาสนาแห่งเทวนิยมการร้องขอ ชอบได้มาง่ายๆ ว่างั้น
10 ก.พ. 2562 เวลา 02.05 น.
winai
เพราะสื่อโดยเฉพาะไลน์ชอบเอามาเสนอเป็นข่าวไง คนไทยส่วนใหญ่งมงายอ่อนแอ อยู่แล้วอยากจะหาไรมายึดเหนี่ยว พ่อแม่ก็เชื่อตามๆ คนเขาว่ามาสอนว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลูแทนที่จะหาเหตุผลมาอธิบาย ก็ชอบตัดรำคาญด้วยประโยคนี้ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้จะกลัวเสียหน้ากับลูกทำไม คนรุ่นต่อๆมาถึงยังงมงายไม่เลิก
10 ก.พ. 2562 เวลา 08.46 น.
TUMP
หมอดูก็แค่เดาๆกันไปแค่นั้น พูดให้มันกว้างๆคลุมๆไว้ มีคนเข้ามาอ่านเยอะแยะ มันก็ต้องมีที่ตรงบ้างบางส่วนกับชีวิตใครสักคน แล้วก็มโนเอาว่าแม่น นี่แหละคนงมงาย
10 ก.พ. 2562 เวลา 01.38 น.
axe_oo
เอาจริงๆคนไม่ได้เชื่อหรอก แค่ขำๆ ยุคไหนสมัยไหนแล้ววววว
10 ก.พ. 2562 เวลา 02.10 น.
ดูทั้งหมด