“5 พรรคฯไม่เลือกข้าง” แล้วปชช. หน้าไหนจะกล้าเลือกอยู่ข้างคุณ?
หลังจากที่ได้มีการเปิดโผแคนดิเดตนายกฯ และการเลือกข้างของพรรคการเมืองไทย ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น อีกหนึ่งประเด็นที่มาแรงไม่แพ้การเลือกข้าง ก็คือ “การไม่เลือกข้าง” ของบางพรรคฯ ซึ่งประชาชนต่างสงสัยและออกมาวิพากษ์วิจารณ์ใน “ความไม่ชัดเจน” ของบรรดาพรรคการเมืองที่อยู่ในโผนี้ พร้อมคำถามที่ว่า จะฝากความหวังได้อย่างไร?
แท้ที่จริงแล้ว จุดยืนภายใต้ “ความไม่ชัดเจน” ของ 5 พรรคการเมืองที่ประกาศตัวไม่หนุนใคร คืออะไรกันแน่?
ประชาธิปัตย์ : ไม่ใช่เครื่องมือของใคร
"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย โดยแสดงจุดยืนไว้ว่า "พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เครื่องมือของใคร ไม่จำเป็นต้องเป็นกองหนุนกองเชียร์ของใคร เราต้องการเสนอทางเลือกที่เป็นหลักของสังคม ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ควรจะให้ประชาชนตัดสิน"
"การที่ใครจะไปร่วมกับใครมันต้องมีเหตุผล และเหตุผลนั้นต้องครอบคลุมถึงแนวคิดและการทำงานว่าไปด้วยกันได้ ผมไม่อยากเห็นการไปจับมือเพียงเพื่อบอกปฏิเสธใคร แต่ปรากฏว่าสุดท้ายก็ทำงานด้วยกันมาได้ มันต้องมีความเป็นเอกภาพหนึ่งเดียวพอสมควรที่จะบอกว่าจะไปร่วมกับใคร มันต้องอยู่ตรงนั้น"
ภูมิใจไทย : ไม่เอาความขัดแย้ง
ด้าน "นายอนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ประกาศจุดยืนโดยระบุว่า แนวทางที่พรรคเลือก คือไม่เอาความขัดแย้ง และเลือกที่จะยืนอยู่กับประชาชนที่ต้องการยุติความขัดแย้งเช่นกัน
“เรื่องจับขั้วกับใคร อยู่ข้างใคร พรรคไหน เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ขอให้ประชาชนบอกมา ผมจะทำตามนั้น ผลการเลือกตั้ง จะบอกได้ดีที่สุด”
ชาติไทยพัฒนา : (เคย)เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
ทางฝั่งพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตว่าที่เลขาธิการพรรค ได้เคยกล่าวไว้ว่า “จุดยืนทางการเมืองของพรรคมีความชัดเจนอยู่แล้ว บางคนบอกว่าพรรคชาติไทยตั้งใจจะเป็นรัฐบาลอย่างเดียว แต่ในประวัติศาสตร์ของพรรคชาติไทยฯ เราเป็นมาครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล แกนนำหรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน”
“ภาพในอดีตเราอาจจะเปลี่ยนไม่ได้ แต่เราจะพยายามนำเสนอว่าเราไม่ได้เป็นพรรคแบบนั้น เพราะถ้ามองดี ๆ จะเห็นว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งและเราพยายามเสนอทางออกของการเมืองไทยมาตลอด10 ปี”
ชาติพัฒนา : ไม่มีปัญหา “No problem”
สำหรับทิศทางของพรรคชาติพัฒนา "นายเทวัญ ลิปตพัลลภ" ได้เคยกล่าวเปิดใจกับสมาชิกพรรค หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ไว้ว่า ทิศทางของพรรคคือเดินสายกลางเพื่อเป็นทางเลือกและพร้อมเป็นทางออกให้กับประเทศ ทั้งนี้ พรรคจะใช้สโลแกนหาเสียงว่า ชาติพัฒนา No problem เพื่อทำให้เห็นว่า พรรคชาติพัฒนาไม่มีปัญหา หรือเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร ทั้งนี้เพื่อให้การเมืองมีความผ่อนคลาย
“ชาติพัฒนาหลังจากนี้ไป คือการให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เดินหน้าสร้างความปรองดอง เดินทางสายกลางทางการเมือง การประนีประนอม เข้าได้กับทุกฝ่าย ไม่ขัดแย้งกับใคร เพื่อสร้างสรรค์ความเจริญด้านเศรษฐกิจไทย”
พลังท้องถิ่นไท : ถ้านโยบายไปด้วยกันได้ก็ร่วมได้กับทุกพรรค
สำหรับพรรคสุดท้ายในโผ “ไม่ชัดเจน” อย่าง พรรคพลังท้องถิ่นไท นั้น ก็มีจุดยืนเช่นกัน ภายใต้แฮชแท็ก #ไม่ซ้ายไม่ขวาเลือกข้างประชาชน ทั้งนี้ "นายชัชวาลย์ คงอุดม" หัวหน้าพรรคฯ กล่าวว่า พรรคไม่มีเป้าหมายหนุนใครเป็นนายกฯ แต่ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังท้องถิ่นไท ให้มากที่สุด เพื่อให้ตนเป็นนายกฯ
“การทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ๆ นั้น สามารถทำงานร่วมได้กับทุกพรรคถ้ามีนโยบายใกล้เคียงกันไปด้วยกันได้ไม่เลือกว่าจะอยู่ฝ่ายใด”
บนกระดานการเมืองขณะนี้ ภาพใหญ่ยังคงเป็นการต่อสู้กันของ 2 ขั้วเหมือนเดิม แต่จะไม่ใช่การต่อสู้ของ 2 พรรคใหญ่เหมือนการเมืองในอดีตอีกแล้ว “การเลือกข้าง” ของพรรคการเมืองในปัจจุบันคือการต่อสู้ระหว่าง“ฝ่ายคสช.” และ“ไม่เอาคสช.” ดังนั้น การเลือกข้างอย่างชัดเจน จึงเป็นการแสดงจุดยืนที่ว่า ต้องการล้มกระดาน หรือต้องการให้รัฐบาลทหารอยู่ต่อ!
การเลือกเดินสายกลาง ไม่เลือกข้าง ไม่หนุนใคร จึงดูเหมือนไร้ซึ่ง “ความชัดเจน” และ “จุดยืน” ทางการเมือง ทว่า..ไม่ไร้ซึ่งทิศทางและเป้าหมาย
เพราะ “การไม่เลือก ก็คือ การเลือกอย่างหนึ่ง”
ฉะนั้น “ความไม่ชัดเจนก็ถือเป็นความชัดเจนอย่างหนึ่ง” เช่นกัน
แหล่งข้อมูล :
https://www.bbc.com/thai/thailand-45583320
https://www.posttoday.com/politic/report/563642