เมื่อการเข้าพิธีรับปริญญาบัตร..เป็นเรื่องที่บัณฑิตจบใหม่หลายคนต่างพากันเบือนหน้าหนี
เกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันยกใหญ่ในโลกออนไลน์ กับจำนวนบัณฑิตที่เลือกไม่เข้าพิธีรับปริญญามีเพิ่มขึ้นทุกปี จนผู้ใหญ่บางคนไม่พอใจถึงขั้นอยากให้องค์กรแนบรูปการรับปริญญาเข้าไปในใบสมัครงานด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะเห็นด้วย เพราะการรับคนเข้าทำงานอยู่ที่ความสามารถ ความเหมาะสมกับเนื้องานมากกว่ารูปถ่ายในพิธี อีกทั้งการรับปริญญาเป็นเรื่องของความสมัครใจไม่ใช่การบังคับ
ทั้งนี้การเข้ารับปริญญาแต่ละครั้งนั้น นอกจากพิธีรีตรองที่เยอะกินเวลาหลายวันแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยที่เหล่าบัณฑิตจบใหม่ต้องแบกรับไว้ เก็บรายจ่ายที่มีเป็นที่ระลึกในวันที่สุดแสนจะภาคภูมิใจ จะมีค่าอะไรบ้างไปดูกัน
ค่าธรรมเนียมขึ้นทะเบียนบัณฑิต
เป็นค่าใช้จ่ายหลักพันขึ้นไปที่เลี่ยงไม่ได้ แล้วแต่ทางมหาวิทยาลัยจะเป็นคนกำหนดและเรียกเก็บ บางมหาวิทยาลัยก็เก็บรวมมากับค่าเทอมแล้วในปีการศึกษาสุดท้ายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องจ่ายแยกต่างหาก โดยจะเรียกเก็บบัณฑิตทุกคน แม้จะเลือกไม่เข้ารับปริญญาก็ตาม
ค่าชุดครุย-สูท
ราคาของชุดครุยอาจจะแตกต่างกันไปตามการเลือกว่าจะ ตัดเช่า ,ตัดซื้อ หรือ เช่าจากที่มีอยู่แล้วตามร้าน โดยราคาขึ้นอยู่รูปแบบของมหาวิทยาลัยนั้นๆ รวมถึงระยะเวลาการเช่าและคืนมัดจำกันชุดเสียหาย นอกจากนี้ยังมีชุดสูทที่บางสถาบันกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องใส่ไว้ข้างในให้เรียบร้อยเพิ่มรายจ่ายขึ้นอีกต่อ
ค่าเสียเวลา
หักเงินเดือนจากวันลางาน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับบัณฑิตที่เพิ่งจบใหม่ทำงานยังไม่ครบปี ก็จะลาไม่ได้ ทำให้ต้องหักเงินเดือน เพราะการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรใช้เวลาแตกต่างกันไป บางมหาวิทยาลัยใช้เวลายาว 4 วันเลยทีเดียว ซ้อมเล็ก 2 รอบ ซ้อมใหญ่ และวันจริง ซึ่งเลี่ยงไม่ได้หากขาดการเข้าซ้อมสักครั้งก็จะหมดสิทธิ์เข้ารับไปโดยปริยาย
ค่ารูปถ่ายรับปริญญา พร้อมกรอบ
เข้ารับปริญญาบัตรทั้งทีก็ต้องมีรูปถ่ายกรอบทองกลับไปติดผนังบ้านสักหน่อย จะพกมือถือเข้าไปถ่ายเองก็ไม่ได้อีก จึงต้องเลือกจากร้านที่ทางมหาวิทยาลัยผูกขาดมาให้เหล่าบัณฑิตจบใหม่ได้เสียเงินกัน ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจรูปเดี่ยว รูปหมู่ และกรอบที่ต้องการราคาแตกต่างกันหลักร้อยปลายๆ ถึงหลักพันเลยทีเดียว
ค่าเดินทาง-ที่พักชั่วคราว
มหาวิทยาลัยบางแห่งจัดพิธีรับปริญญาบัตรคนละวิทยาเขตกับที่เรียน ทำให้ไกลจากบ้าน อีกทั้งบางคนมาจากต่างจังหวัดทั้งครอบครัวเพื่อร่วมยินดี เกิดเป็นค่าใช้จ่ายที่เลี่ยงไม่ได้เพราะต้องเปิดโรงแรมอยู่กับครอบครัว หรือไปหารรวมกับเพื่อนเพื่อสะดวกในการเดินทาง รองรับการซ้อมที่ต้องตื่นแต่เช้าตรู่
ค่าแต่งหน้า ทำผม
ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้แล้วแต่ความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ที่มี อยากสวยเป๊ะไม่มีโป๊ะก็จ้างช่างทำผมแต่งหน้าราคาอย่างต่ำก็ 1,500 บาทขึ้น มีทั้งโปรช่วงเช้า และโปรเหมาทั้งวันค่อยเติมซับหน้าให้ หรือจะแชร์กันในหมู่เพื่อนๆ ก็ถูกลงหน่อย แต่หากไม่ได้อะไรมากก็แต่งเองสวยง่าย ๆ ตามยูทูบมั่นใจสวยหล่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ค่าช่างภาพ+รูปนอกรอบ
เชื่อว่าทุกคนมีสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปได้ แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากมีรูปสวยเก็บไว้เป็นความประทับใจกับผองเพื่อน และครอบครัวแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี จึงเกิดเป็นค่าใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุหร่าย ทั้งถ่ายนอกรอบในมหาวิทยาลัยแห่งความทรงจำ อีกทั้งวันจริงก็จ้างไปถ่ายในงานอีก รวมๆ แล้วก็ครึ่งหมื่นได้ เพราะช่างจัดเต็มถือแฟลช เปลี่ยนเลนส์ แต่งภาพพร้อมไฟล์ให้สวยเสร็จสรรพ
ค่าบูมน้อง
กองสันทนาการปีหนึ่งพร้อมมาก เจอบัณฑิตที่ไหนต้องตามไปบูมให้เพื่อแสดงความยินดีหาเงินเข้าคณะเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งบัณฑิตก็ปฏิเสธได้ยากในวันสำคัญแบบนี้ก็ต้องเตรียมเงินใส่ซองไว้ให้เพื่อเป็นการขอบคุณ แต่หากถูกใจก็ให้แบงก์เทาหยอดลงกล่องให้น้องได้ชื่นใจ เต้นกันจนหมดแรงเสียงแหบก็ยอม
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ารายจ่ายที่เกิดจากการเข้ารับปริญญานั้นเป็นภาระของเหล่าบัณฑิตจบใหม่ที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ก็ยังเป็นจำนวนเงินที่เยอะพอสมควร เพราะเหตุนี้การเข้ารับปริญญาจึงควรเป็นเรื่องของการตัดสินใจส่วนบุคคล
ซึ่งคนเป็นพ่อแม่ควรภูมิใจกับการที่ลูกเรียนจบ มีงานการที่มั่นคงเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ใช่แค่วันใดวันหนึ่งที่พึงทำตามๆ กันมาเป็นธรรมเนียม
ความเห็น 248
koy
เขียนแบบนี้ได้หลายอัตมั้ย ไม่เคยมีการบังคับมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว🙂
22 ม.ค. 2565 เวลา 14.13 น.
Ms Onion
รับปริญญามานานมากแล้ว
ก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายมากมายอะไร
เสียเฉพาะค่าเช่าชุดครุย
และรูปรับปริญยา
ไม่ได้แต่งหน้า แค่ผัดแป้งเล็กน้อย
ทาลิปมัน รวบผม
ถ่ายรูปภายนอกกันเอง
ได้รับความภูมิใจ จากพ่อแม่
มีความสุขกับครั้งหนึ่งที่ได้
ประสบความสำเร็จรอบแรก
จากนั้นก็ต่อยอดด้วยการทำงาน
ความทรงจำดีๆ มีไว้สร้างกำลังใจ
22 ม.ค. 2565 เวลา 03.32 น.
เอ็ม
บทความนี้เห็นเจตนาคนเขียนชัด ต้องการด้อยค่าและโจมตีประเพณีดีๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน หยุดได้แล้ว
22 ม.ค. 2565 เวลา 00.01 น.
srisuda
แหม เห็นรูปรับปริญญา เขามีรับกันมาแต่ดึกดำบรรพ์
แล้ว มันเป็นความภูมิของตัวเองพ่อแม่พี่น้อง ว่านี่คือ
จุดนึงครั้งนึงของความสำเร็จของชีวิตการเรียน
เขาเต็มใจทำไม่เห็นมีไร มายุคนี้แหละ มากเรื่องพูด
หาเรื่องให้ด่ากัน สังเกตว่าคนแบบนี้แหละความคิดแย่
21 ม.ค. 2565 เวลา 23.32 น.
วิสุทธิ์
ความภาคภูมิใจยังไงก็ตีเป็นราคาไม่ได้.อย่าเสี้ยม!!!
21 ม.ค. 2565 เวลา 16.18 น.
ดูทั้งหมด