เรียกว่าเคราะห์ซ้ำ กรรมซัดคงไม่ผิดนักสำหรับการใช้ชีวิตในช่วงนี้ ทั้งโควิด-19 ที่ทำลายเศรษฐกิจโลกจนป่นปี้ ตอนนี้บ้านเรายังมาเจอกรรมซัดเมื่อราคาสินค้าหลายชนิดขึ้นราคา ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด ไข่ไก่ และอื่น ๆ อีกมากมายที่จ่อขยับขึ้นแบบไม่เกรงใจเงินในกระเป๋าเลยสักนิด
เรียกว่าทุกอย่างขึ้นเอา ๆ ยกเว้นอย่างเดียวคือเงินเดือนที่ไม่ขยับแม้แต่น้อย ทำให้หลายคนหน้ามืด ชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้จ่ายรายวันยังแทบไม่พอ ต่อให้มาตรการล้านแปดก็ยังไม่ทำให้อะไรดีขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้ คงรอให้ใครมาช่วยไม่ไหว! นอกจากเอาตัวรอดด้วยตัวเองไปก่อน ซึ่งวิธีเอาตัวรอดของแต่ละคนก็มีน่าจะหลากหลาย แต่เชื่อเถอะว่า 6 วิธีต่อไปนี้เชื่อถือได้และเห็นผลจริง พิสูจน์มาแล้วว่าเวิร์ก ให้เรา ๆ รอดไปได้จนกว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
1. วางแผนใหม่ ใช้จ่ายอย่างจำเป็น
เมื่อของมันแพงไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คงไม่ใช่การคร่ำครวญ ตกอกชกตัว หรือเลิกกิน เลิกใช้ แต่เป็นการวางแผนการใช้ชีวิต การใช้จ่ายเสียใหม่เพื่อให้อยู่รอด เพราะแม้เงินเดือนเท่าเดิม ค่าแรงเท่าเดิม แต่เราต้องรอด! คนที่วางแผนมาอย่างดีเท่านั้นที่จะไม่เจ็บตัวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างอย่างรวดเร็ว
เริ่มจากการวางแผนการใช้จ่ายก่อนเป็นอันดับแรก เพราะยังไงรายได้ก็เท่าเดิม เจาะไปที่ปัญหาก่อนเป็นทางออกที่ดีกว่า แยกให้ออกว่าอะไรคือความต้องการ อะไรคือความจำเป็น ส่วนไหนตัดได้ต้องรีบตัด จากนั้นอะไรที่ไม่ได้อยู่ในแผนก็รีบออกให้ห่าง แม้ของจะแพงขึ้น แต่ถ้าควบคุมตัวเองตามแผนที่วางไว้อย่างดี รับรองว่ารอดแน่นอน
2. ประหยัดไว้เถิดจะเกิดผล
ทางรอดที่เราคนไทยจะผ่านวิกฤตของแพงทั้งแผ่นดินนี้ไปได้ก็คือการประหยัด แต่พูดน่ะมันง่าย เอาเข้าจริง มันยากเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะบางคนให้ประหยัดกว่านี้ก็กินแกลบแทนข้าวแล้ว ขนาดว่าข้าวของไม่ได้แพงเท่านี้ก็ยังแทบไม่พอกิน พอใช้
ถึงจะเป็นเรื่องพูดง่าย ทำยาก แต่บอกเลยว่าการประหยัดเป็นวิชาบังคับที่ได้รับการรับรองมาแล้วว่าเห็นผลจริงในยุคของแพงทั้งแผ่นดินแบบนี้ แม้การประหยัดจะไม่ได้ทำให้รวย แต่การประหยัดก็ทำให้เราไม่อดตาย และอยู่รอด ดึงสติตัวเองตลอดเวลาว่า “ประหยัดไว้เถิดจะเกิดผล”
3. ลำดับการใช้เงิน
สิ่งหนึ่งที่คนเรามักทำกันไม่ค่อยถูกก็คือการลำดับการใช้เงิน คนส่วนใหญ่พอได้เงินมา มักจะเอาเงินไปซื้อของที่อยากได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นการใช้เงินในแบบที่ต้องเรียกว่าผิดมหันต์โดยเฉพาะในยุคที่ข้าวของขึ้นราคาแบบนี้ ทุกคนควรรู้ลำดับการใช้เงินที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อเอาตัวรอดไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ลำดับการใช้เงินที่ว่านี้ก็คือการจ่ายในเรื่องที่จำเป็นต้องจ่าย อันดับแรกถ้ามีหนี้ ต้องรีบจ่ายหนี้ เพราะหนี้มีดอกเบี้ยพ่วงมาด้วยเสมอ รีบจ่ายให้หมดเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ที่สำคัญอย่าลืมว่าเงินออมก็คือค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่ง อย่าคิดว่าเหลือค่อยเก็บออม เพราะร้อยทั้งร้อยใช้หมดไม่เคยเหลือ ทีนี้ก็ไล่เรียงไปเลยว่าอะไรจำเป็นต้องจ่ายก่อนให้รีบจ่าย ลำดับการใช้เงินให้ดี ปัญหาก็จะไม่เกิด
4. หาส่วนลด เปรียบเทียบราคา
ถึงตอนนี้ข้าวของจะแพงทั้งแผ่นดิน แต่ในวิกฤตก็มีโอกาสเสมอ และไม่ใช่ของถูกไม่มีในโลก จริง ๆ แล้วการได้ของดี ราคาถูกอาจต้องแลกมาด้วยการตามหา และการเสียเวลานิด ๆ หน่อย ๆ เพราะฉะนั้นตั้งสติ บอกตัวเองเลยว่าอะไรไม่ลด ไม่จ่าย ทุกบาท ทุกสตางค์ที่หายไปต้องได้มาซึ่งของดี ราคาถูกเท่านั้น
อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคได้เปรียบที่สุด สินค้าแต่ละชิ้น มีผู้จำหน่ายมากกว่า 1 แห่งอย่างแน่นอน การเสียเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อตามล่าส่วนลด และเปรียบเทียบราคาทำให้ได้ของถูกกว่าก็ย่อมประหยัดได้มากกว่า ที่สำคัญเราเองก็จ่ายน้อยกว่าด้วย
5. จดรายจ่าย
วิธีคลาสสิกแต่ได้ผลจริงในทุกยุค ทุกสมัย เชื่อว่าทุกคนต้องเคยรู้และเคยลองมาแล้วแน่นอนกับการจดรายจ่ายประจำวัน จดไปจดมา เลิกจดไปซะงั้น เพราะจดไปก็เจ็บปวดไป มีแต่รายจ่ายตัวแดงยาวเหยียดทุกเดือน แต่รายได้มาสั้น ๆ ครั้งเดียวจบ เป็นแบบนี้มาก ๆ เข้าก็เลิกจดจะได้เลิกเจ็บปวด
จริง ๆ แล้วการจดรายจ่ายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในช่วงข้าวของแพงแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะยิ่งจด เราจะยิ่งขนลุกกับราคาข้าวของที่มันดีดตัวแบบไม่กลัวใคร ที่สำคัญสามารถวางแผนการเงิน แผนใช้จ่ายทั้งตอนนี้ และในอนาคตได้สะดวกขึ้น เพราะเมื่อรู้แล้วว่าจ่ายอะไรไป เท่าไหร่ ก็เอามาวางแผนให้ดี จะได้ไม่วู่ว่ามใช้และจ่ายในแบบที่ไม่จำเป็น
6. เพิ่มรายได้
แม้จะไม่ใช่ทางรอดสำหรับทุกคน แต่วิธีการเพิ่มรายได้ คือวิธีที่ยั่งยืนและปลอดภัยที่สุดในทุกยุค ทุกสมัย เพราะไม่ว่าของจะแพง เศรษฐกิจจะไร้ทางออก หรือปัญหาอะไรจะเกิดขึ้น การมีรายได้มากกว่าหนึ่งทางเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของความมั่นคงและความปลอดภัย
ส่วนวิธีเพิ่มรายได้แม้ช่วงนี้จะลำบากขึ้น แต่อย่าลืมว่าในวิกฤตก็ย่อมมีโอกาส ลองค้นหาศักยภาพของตัวเอง ประสบการณ์ ความรู้ หรือจุดเด่นอะไรก็ตาม ล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองได้ทั้งนั้น เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองมีดีทางด้านไหนก็พุ่งไปสุด เปลี่ยนวัตถุดิบในตัวให้เป็นรายได้ นี่แหละทางรอดที่ดีที่สุด