เคยสงสัยไหมว่าเวลาแค่ไม่กี่วินาทีตอนที่ถึงจุดสุดยอดระหว่างมีเซ็กซ์ ทำไมมันฟินนักฟินหนา !?
ถ้าตอบตามหลักการแพทย์ก็ต้องบอกว่า เพราะกล้ามเนื้อบริเวณอวัยวะเพศเกิดการบีบตัวในขณะที่หลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟินซึ่งเป็นสารระงับความเจ็บปวดและทำให้เกิดความผ่อนคลายออกมาจากต่อมใต้สมองจนทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เอาง่าย ๆ การถึงจุดสุดยอดก็คือการที่ร่างกายรู้สึกเบาเป็นพิเศษ สมองได้ผ่อนคลายแบบไร้ขีดจำกัด สำหรับผู้หญิงแม้จะเกร็งตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ก็ฟินอย่างบอกไม่ถูก ส่วนผู้ชายก็เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง ซึ่งช่วงเวลาไม่กี่วินาทีนี้ทำให้หลายคนมีความสุขแบบแปลก ๆ จนอธิบายไม่ได้
เห็นเป็นเรื่องแฮปปี้สบายตัวแบบนี้ แต่สำหรับบางคนถึงกับเครียดเพราะไม่เคยได้สัมผัสช่วงเวลาไคล์แมกซ์นี้เลย ได้แต่ถามแล้วก็สงสัยว่าทำไมมันยากเย็น แต่รู้ไหม..การไปไม่ถึงจุดสุดยอดมันก็มีเหตุผลของมัน ซึ่งถ้าไม่ได้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศก็เป็นไปได้ว่าเพราะเหตุผลเหล่านี้ถึงทำให้ไม่เคยเจอเวลาไม่กี่วินาทีนั้นซะที
1. เหนื่อยล้าเกินไป
ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเซ็กซ์คือการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าเหนื่อยมาเต็มที่แล้ว คงจะเกินเหตุไปหน่อยถ้าจะมาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องอีกสักรอบ สองรอบ
ความเหนื่อยที่ว่านี้ไม่ได้เกิดจากการออกแรงเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการเพลีย ความอ่อนล้าของร่างกายที่แม้จิตใจจะเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟราคะ แต่ในเมื่อร่างกายถึงขีดจำกัดแล้ว อะไร ๆ ก็อาจไม่เป็นใจอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะไม่เสร็จ ไม่ถึงก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน
2. อายุหรือโรคประจำตัว
ถึงแม้จะมีคำแนะนำอย่างเปนทางการว่ายิ่งอายุมาก ยิ่งต้องมีเซ็กซ์บ่อย ๆ แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะบางคนอายุก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลงตามไปด้วย แม้จิตใจจะเหมือนไฟสุมทรวง วิบวับกับเรื่องอย่างว่าได้เสมอ แต่ใจสู้อย่างเดียวไม่ได้ อายุและความแข็งแรงของร่างกายก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อะไร ๆ ไม่เป็นอย่างใจได้เหมือนกัน
นอกจากอายุแล้ว การมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต อ้วน โรคหัวใจ ภาวะคอเลสเตอรอลสูง ก็มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศด้วย จากที่เคยปึ๋งปั๋ง ฟิตเปรี๊ยะ ถึงไหนถึงกัน พอมีโรคประจำตัวอะไรที่เคยฟิตก็อาจไม่ฟิตเหมือนเดิม
3. การใช้ยาบางชนิด
ไม่ใช่แค่โรคประจำตัวที่มีผลต่อเซ็กซ์ แต่ยาบางชนิดก็มีผลด้วยเหมือนกัน เช่น ยาแก้เครียด ยากล่อมประสาท ยานอนหลับ ยาลดน้ำมูก ฯลฯ เพราะฉะนั้นถ้าเรื่องอย่างว่าคืออันดับหนึ่งในใจ ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาเอาไว้ด้วย
4. ความเครียดหรือภาวะสุขภาพจิต
เซ็กซ์คือเครื่องมือระบายความเครียดได้ดีอย่างหนึ่ง แต่สำหรับคนที่สะสมความเครียดอยู่เป็นประจำ เซ็กซ์กลับไม่ได้ช่วยผ่อนคลายอะไรเลย แต่กลับทำให้เครียดมากกว่าเดิมเพราะจะผ่อน จะคลายอะไรก็ไม่ได้ เสร็จก็ไม่เสร็จ ฟินก็ไม่ฟิน กลายเป็นยิ่งเครียดกว่าเดิม
5. ไม่มีอารมณ์หรือปัญหาความสัมพันธ์
เซ็กซ์เป็นเรื่องอารมณ์และฮอร์โมน ถ้าไม่มีอารมณ์แต่ทำเพราะต้องทำ หรือทำเพราะอยากจบปัญหาอะไรบางอย่าง บทสรุปก็คงไม่ดี ไม่ฟินจนทำให้อีกฝ่ายขุ่นข้องหมองใจไปเลยก็ได้
เปิดทริคให้กลับมาฟินพร้อมรบได้อีกครั้ง
เซ็กซ์ที่ดีคือเซ็กซ์ที่ฟินด้วยกันทั้งคู่ คงไม่สนุกสักเท่าไหร่ ถ้ามีแค่คนเดียวที่รู้สึกหฤหรรษ์ ส่วนอีกคนค้างเติ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ของแบบนี้มันต้องฟินไปด้วยกันสิถึงจะถูก !
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง ถ้าไม่ถึงจุดสุดยอดเพราะเหตุผลทางกายภาพ เรื่องสุขภาพกาย โรคภัยและสุขภาพจิตที่พูดมาทั้งหมด มีเซ็กซ์ทีไรก็ไม่บรรลุจุดสุดยอดเป็นประจำและสม่ำเสมอ แถมยังไม่ปลื้มการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการพูดกับคู่ของคุณตรง ๆ อย่าปล่อยให้ตัวเองค้างเติ่งบ่อย ๆ เป็นอันขาด เพราะผลกระทบจากการไม่เสร็จมีมากกว่าที่คิดแน่นอน !
ส่วนอีกฝ่ายเมื่อรับรู้ปัญหาแล้วก็ควรต้องช่วยกัน เรื่องนี้ละเอียดอ่อนกว่าที่คิด เซ็กซ์เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรขาดไปสำหรับชีวิตคู่ ซึ่งทางแก้มันอาจจะง่าย ๆ จนคุณเองยังนึกไม่ถึงเลยก็ได้
1. อย่ากดดันตัวเองเกินไป
อย่างที่บอกว่าความเครียดเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนไปไม่ถึงจุดสุดยอด แม้ช่วงเวลาที่กำลังบรรเลงเพลงรักจะทำให้บางคนสมองโล่งไปเลยได้ แต่สำหรับบางคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะความกังวลที่ว่าต้องเสร็จให้ได้ ต้องถึงจุดสุดยอดไปพร้อมกันให้ได้ ยิ่งทำให้ห่างไกลจากประตูแห่งความหฤหรรษ์ไปกันใหญ่เลย
รู้กันอยู่แล้วว่าการคิดอะไรต่าง ๆ มากเกินไประหว่างทำเรื่องอย่างว่า มักมีแนวโน้มที่จะไม่เสร็จมากขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นอย่าไปโฟกัสกับมันให้มาก ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติและให้อารมณ์มันพาไป ในเมื่อเรื่องนี้อีกฝ่ายรับรู้และพร้อมช่วยกันอยู่แล้ว คุณก็ต้องอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ยังมีวิธีอื่น ๆ อีกล้านแปดที่จะช่วยพาเราสองไปถึงจุดสุดยอดแบบพร้อม ๆ กัน
2. เล้าโลมให้มากขึ้นอีกนิด
ในกรณีที่คุณผู้หญิงเป็นฝ่ายที่ไม่ถึงจุดสุดยอดก็อย่าเพิ่งน้อยเนื้อต่ำใจไป เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นนั่นแหละ จากผลวิจัยในต่างประเทศระบุว่ามีผู้หญิงเพียงร้อยละ 20 เท่านั้นที่ ‘ถึง’ ขณะนั้นมีการสอดใส่ ส่วนผู้หญิงคนอื่น ๆ มักทำตัวให้สมกับรางวัลออสการ์เพราะพวกเธอมักจะเล่นละครพร้อมใส่เสียงเอฟเฟกต์ที่เกินจริงว่า ‘ถึง’ ทั้งนั้น
สิ่งที่จะทำให้ไปถึงจุด ๆ นั้นหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากการเล้าโลมที่ทำให้อารมณ์กระเจิดกระเจิง เพราะไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย การได้รับการกระตุ้นซ้ำ ๆ ในจุดยุทธศาสตร์ก็ฟินเหมือนกันหมด ดังนั้นเวลาอยู่ในสนามรบอย่าเพิ่งสนใจแต่จะรบพุ่ง เอามีดแทงกันเพียงอย่างเดียว ในทางปฏิบัติแล้ว การสัมผัสอย่างแผ่วเบาและช้า ๆ อย่างน้อย 10 นาทีจะทำให้อารมณ์แตกพ่านจนมือไม้อ่อน และสุดท้ายก็อาจฟินจนถึงจุดสุดยอดเอาได้ง่าย ๆ ด้วยเหมือนกัน
3. ตัวช่วยต้องมาแล้วตอนนี้
ถ้าลองทั้งสองอย่างที่ว่ามาแล้วยังไม่เวิร์ก ไม่เสร็จ ไม่ถึงสักที ใครสักคนต้องขอตัวช่วยได้แล้ว ตัวช่วยสำหรับเรื่องอย่างว่ามีด้วยกันหลากหลาย ขึ้นอยู่กับรสนิยมเฉพาะบุคคล แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คืออย่าลืมถามไถ่อีกคนด้วยว่าโอเคไหมกับเรื่องแบบนี้
ขนาดความอร่อยของแต่ละคนยังไม่เหมือนกัน เรื่องอย่างว่าก็ใช่ว่าจะอะไรก็ได้ ตัวช่วยที่ว่านี้อาจเป็นอะไรง่าย ๆ อย่างการเปลี่ยนท่า เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนสถานที่ ไปจนถึงของเล่นอะไรบางอย่างที่ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศให้ถาโถมรุนแรงมากยิ่งขึ้น แต่อย่างที่บอกว่ารสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องเซ็กซ์ที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ ถ้าอีกฝ่ายไม่ปลื้มหรือไม่เห็นด้วย แทนที่จะเป็นตัวช่วยอาจกลายเป็นตัวทำลายล้างไปเลยก็ได้
4. ปรึกษาแพทย์
ถ้าทำทุกวิถีทางที่ว่ามาแล้วยังไม่ได้ผล ไม่ได้แปลว่าคุณมีปัญหาทางเพศจนถึงขั้นแก้ไขไม่ได้ และอย่าใช้ยากระตุ้นทางเพศใด ๆ โดยที่ยังไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์เด็ดขาด
วิธีที่ดี ปลอดภัย และได้ผลแน่นอนที่สุดก็คือการไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาอย่างเป็นทางการ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้คนใดคนหนึ่งต้องแบกเรื่องนี้ไว้คนเดียว การจับมือกันไปพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องผิดหรือแปลกอะไรเลย การต้องเผชิญอะไรแบบนี้คนเดียวสิน่ากลัวกว่า
ทั้งหมดนี้ไม่ได้จะบอกว่าเซ็กซ์สำคัญ ในโลกนี้มีคนมากมายที่รักกัน มีความสุขด้วยกันโดยไม่ต้องมีเซ็กซ์ ยังไงซะความสัมพันธ์ทางกายก็คือมีหลายรูปแบบ การสัมผัส จูบ กอด หรือตบบ่าให้กำลังใจกันก็เป็นการเชื่อมโยงความรู้สึกได้ดีไม่แพ้กัน เผลอ ๆ จะมากและความหมายยิ่งกว่าการมีเซ็กซ์ซะอีก
อ้างอิง:
