โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สัมภาษณ์พิเศษกับ Mina Okabe ศิลปินน้องใหม่ลูกครึ่งญี่ปุ่น-เดนมาร์ก กับงานเพลงแสนอบอุ่น อารมณ์ดี

INTERVIEW TODAY

เผยแพร่ 15 ม.ค. 2566 เวลา 06.00 น. • Nisara Sittatikarnvech

จากบทเพลงชวนอารมณ์ดีที่ถูกแต่งขึ้นในห้องนอนของเด็กสาวสู่การเป็นเพลงฮิตที่ทุกคนแชร์ใน Instagram และใช้ประกอบคอนเทนต์ Reels จำนวนนับไม่ถ้วน นี่คือหนึ่งในความสำเร็จขั้นเริ่มต้นของศิลปินสาวน้องใหม่ที่น่าจับตามองคนนี้ Mina Okabe (มีน่า โอกาเบะ)

เธอคือศิลปินลูกครึ่งชาวญี่ปุ่น-เดนมาร์ก จากเมืองโคเปนเฮเกน ที่มาพร้อมกับแนวเพลง Indie Pop ฟังสบายและเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ จากซิงเกิ้ลฮิต Every Second สู่อัลบั้มแรก Better Days วันนี้ LINE TODAY ได้วีดีโอคอลเพื่อคุยกับเธอเกี่ยวกับทั้งงานเพลงรวมไปถึงการอัปเดตชีวิตการเป็นศิลปินของมีน่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง และนี่คือทั้งหมดที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปินหญิงคนนี้ อยากชวนให้ทุกคนมารู้จักเธอไปพร้อม ๆ กัน!

LINE TODAY: จุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินของ Mina Okabe เริ่มขึ้นได้อย่างไร

Mina Okabe: คือตัวฉันเองชอบร้องเพลงมาก ๆ ค่ะ มันเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ฉันทำมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วก็ได้เรียนเปียโนคลาสสิกควบคู่มาด้วย พออายุได้ 13 ฉันก็ลองจับกีต้าร์ดูและเรียนเพิ่มเติม เพราะว่าฉันอยากลองที่จะเล่นแล้วก็ร้องเพลงไปด้วย

พอได้ลองแล้วก็ชอบ ตอนอายุ 15 ปี ฉันก็เลยเริ่มเขียนเพลง ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เคยลองทำเพลง Cover ศิลปินที่ชอบนะ เลยรู้สึกว่าการเขียนเพลงเป็นสเต็ปต่อไปที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติมาก ๆ สำหรับตัวเอง ข้อดีก็คือฉันสามารถเขียนเมโลดี้ที่แมตช์กับเสียงของฉัน แล้วก็ร้องเพลงที่ตัวเองสามารถ Relate กับเนื้อเพลงได้จริง ๆ ฉันก็ลองอัดเพลงแล้วเอาลง Soundcloud (แอปสำหรับการเผยแพร่ไฟล์เสียงและงานเพลงอิสระ) แล้วก็เอาลิงก์ Soundcloud ไปแปะใน Facebook อีกที ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฉันได้แชร์ให้กับเพื่อน ๆ ที่อยู่บนนั้นได้ฟังเพลงของฉัน และก็ทำให้ฉันมีความมั่นใจเกี่ยวกับการเขียนเพลงมากยิ่งขึ้นด้วย

จุดเปลี่ยนก็คือตอนที่คนจากค่ายเพลง Copenhagen Records มาเจอเพลงของฉันบน Soundcloud แล้วพวกเขาก็ยื่นข้อเสนอว่าจะเซ็นฉันเป็นศิลปิน ซึ่งตอนนั้นฉันยังเรียนอยู่ปีสุดท้ายของไฮสคูลอยู่เลย และมันเป็นความรู้สึกที่สมองของฉันยังไม่ได้ประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นศิลปินจริง ๆ ฉันก็ตื่นเต้นแบบมาก ๆ เลย

LINE TODAY: เบื้องหลังการทำงานของอัลบั้มเดี่ยวอัลบั้มแรกเป็นอย่างไรบ้าง

Mina Okabe: จริง ๆ แล้วเพลงที่อยู่ในอัลบั้มทั้งหมดคือเพลงที่ฉันเขียนระหว่าง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ฉันใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการเลือกจะเอาเพลงไหนมาใส่ไว้ในอัลบั้มบ้างและ Arrange ว่าอยากให้เพลงของฉันออกมาเป็นรูปแบบไหนเพราะก่อนหน้านี้จะเป็นแค่กีต้าร์แบบเพียว ๆ เลย ซึ่งฉันก็ลองเอาเปียโนมาใส่ เพิ่มกลอง เพิ่มเบส แล้วก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรกตอนเดือนตุลาคมปีที่แล้วค่ะ

ถ้าจะให้อธิบายแบบสั้นที่สุด Better Days คืออัลบั้มแนว Indie Pop ที่ฉันแอบใส่ความเป็น Jazz ลงไปด้วย ฉันรู้สึกว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเพลงช้าและเพลงที่มีจังหวะสนุก ๆ ขึ้นมาหน่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันอยากลองโฟกัสดูคือการออกแบบประสบการณ์ของการฟังเพลงทั้งอัลบั้มที่ให้ความรู้สึกต่อเนื่อง ทุกอย่างออร์แกนิกมาก ๆ คุณจะได้ยินเสียงเครื่องดนตรีแบบเพียว ๆ และรู้สึกสบายใจกับมู้ดที่อุ่น ๆ ของมัน ตัวเนื้อเพลงก็จะพูดถึงหลากหลายรูปแบบของความรัก ความสัมพันธ์ ซึ่งอัลบั้มนี้ก็เป็นเหมือนตัวแทนของฉันเลย เพราะฉันเขียนทุกเพลงมาจากเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาทั้งหมดของตัวเอง

View this post on Instagram

A post shared by Mina Okabe (@minaokabesings)

LINE TODAY: แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง ๆ หนึ่งขึ้นมาส่วนใหญ่มาจากไหนบ้าง

Mina Okabe: ส่วนใหญ่ก็จะมาจากเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต ซึ่งในวันที่ฉันเขียนเพลง ฉันก็จะนั่งอยู่ในห้องนอน หยิบกีต้าร์มาเล่นคอร์ดที่ฉันรู้สึกอยากเล่นในตอนนั้น เป็นอะไรก็ได้ที่สื่ออารมณ์ของฉันในเวลานั้นออกมาได้อย่างจริงใจที่สุด แล้วฉันก็จะเริ่มร้องเนื้อไปเรื่อย ๆ มันเป็นคำที่ออกมาโดยที่ฉันแทบไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ และฉันก็จะอัดทุกอย่างเอาไว้ในโทรศัพท์เพื่อที่จะได้เปิดฟังอีกรอบ ซึ่งตอนที่ Playback บางทีเราก็จะรู้สึกแบบ เฮ้ย ตรงนี้ดี ตรงนี้เวิร์ก แล้วค่อยจับเอาทุกอย่างมาทำให้ Make Sense มากขึ้นค่ะ

หลาย ๆ ครั้งที่ฉันเขียนเพลงเศร้า อย่างเช่นถ้ามีผู้ชายคนนึงที่เราอยากจะลืมเขา แบบถึงแม้ว่าฉันจะบอกกับเพื่อน ๆ ว่าเราโอเคแล้ว แต่จริง ๆ ข้างในก็ยังคิดถึงเขาอยู่แหละ ในสถานการณ์แบบนั้นมันค่อนข้างว้าวุ่นใจแหละและเป็นความรู้สึกที่ไม่ใครชอบหรอก แต่ฉันก็เอาประสบการณ์ตรงนั้นมาเขียนออกมาเป็นเพลงและบิดให้มันฟังดูแฮปปี้ขึ้นมา เพราะมันช่วยให้ฉันจัดการกับความรู้สึกได้ง่ายขึ้นและทำให้เราไม่ไปตอกย้ำตัวเองมากเกินไป

LINE TODAY: Every Second หนึ่งในซิงเกิ้ลจากอัลบั้ม Better Days ที่ถูกปล่อยออกมาในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา กลายเป็นเพลงดังใน Instagram ไปซะแล้ว คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

Mina Okabe: ฉันรู้สึกดีใจมาก ๆ เลยแหละที่ฉันได้เห็นว่ามีคนฟังเพลง “Every Second” เยอะขนาดไหน แล้วก็มีอีกหลาย ๆ คนที่เอาไปใช้ใน Instagram Reels ฉันตื่นเต้นเวลาที่เลื่อนดูฟีดไอจีแล้วเห็นแต่ละครีเอตวีดีโอที่แตกต่างกันออกไปโดยใช้เพลงนี้ประกอบอยู่ในคลิปของพวกเขา บางคนก็ออกกำลังกาย บางคนทำอาหาร บางคนก็โชว์ให้เห็นกิจกรรมที่เขาทำระหว่างวัน ฉันเองก็รู้สึกตื่นเต้นนะที่จะได้เห็นคอนเทนต์อะไรใหม่ ๆ ซึ่งฉันชอบทุกโพสต์เลย มันเหลือเชื่อมาก ๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเพลง Every Second เป็นสิ่งที่เกินคาดมาก ๆ ค่ะ

LINE TODAY: มีเพลงไหนในอัลบั้มที่คุณชอบเป็นพิเศษอีกไหม

Mina Okabe: จริง ๆ แล้วมันขึ้นอยู่กับอารมณ์ในแต่ละวันเลยว่าวันนี้อยากฟังเพลงไหนเป็นพิเศษ ฉันเลยไม่สามารถตอบได้ว่าตัวเองชอบเพลงไหนมากกว่าเพลงไหน แต่ Let Me Down เป็นเพลงที่มีความพิเศษมาก ๆ สำหรับฉันเพราะว่าเป็นเพลงที่ฉันเขียนก่อนที่จะได้รับการติดต่อจากค่ายเพลง และเป็นเพลงที่ทำให้ฉันถูกค้นพบใน Soundcloud และได้เซ็นเป็นศิลปินด้วย มันเลยมีความหมายต่อใจฉันมาก ๆ เพลงหนึ่งค่ะ

LINE TODAY: เราไปแอบอ่านมาด้วยว่าก่อนหน้านี้คุณเคยได้ใช้ชีวิตอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ อยากรู้ว่าแบ็กกราวด์ตรงนี้มีอิทธิพลต่อเพลงและการเขียนเพลงของคุณมากน้อยอย่างไร

Mina Okabe: ฉันเกิดที่ลอนดอน แล้วก็ได้มีโอกาสย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก มนิลา ส่วนตอนนี้กลับมาอยู่ที่โคเปนเฮเกน คุณแม่เป็นคนญี่ปุ่น คุณพ่อเป็นคนแดนิช ซึ่งการที่ฉันได้อยู่ในหลากหลายวัฒนธรรม ได้เจอผู้คนมากมาย ได้ฟังดนตรีที่แตกต่างออกไปในทุก ๆ ที่ ก็มีอิทธิพลไม่ใช่แค่ในฐานะที่ฉันเป็นนักดนตรีอย่างเดียว แต่ว่าประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านี้มีผลกับรสนิยม สไตล์และความชอบในดนตรีของฉันด้วยค่ะ

LINE TODAY: แล้วถ้าถามถึงบุคคลในวงการดนตรีที่มีอิทธิพลกับตัวคุณ คน ๆ นั้นคือใคร

Mina Okabe: มันยากมากที่จะให้บอกว่าศิลปินที่ชอบที่สุดของฉันคือใคร เพราะว่าฉันได้รับแรงบันดาลใจจากการฟังเพลงในหลาย ๆ แนว แต่ถ้าต้องให้เลือกจริง ๆ ฉันคิดว่า เอมี่ ไวน์เฮาส์ คือคนที่เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับฉัน ถึงแนวดนตรีของเราจะไม่ได้ใกล้กัน แต่สิ่งที่ฉันประทับใจในตัวเธอก็คือเธอมีสไตล์ที่ชัดเจน และมีจุดยืนในทางดนตรีของตัวเองที่สตรองมาก ๆ และที่สำคัญคือเธอเป็นทั้งนักร้องและนักแต่งเพลงด้วย เลยทำให้ฉันรู้สึกชื่นชอบเอมี่มาก ๆ

LINE TODAY: จากคนฟังเพลงกลายมาเป็นศิลปินเต็มตัว สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการเปลี่ยนบทบาทในครั้งนี้คืออะไรบ้าง

Mina Okabe: ทั้งหมดเป็น Learning Process ใหม่สำหรับฉันเลยนะ ที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้ว่าก่อนที่จะปล่อยเพลงออกมา 1 เพลง มันมีขั้นตอนเยอะแยะถึงขนาดนี้เลย ซึ่งตอนที่ฉันเป็นคนฟัง ก็เคยสงสัยว่าทำไมศิลปินถึงไม่ปล่อยเพลงออกมาบ่อย ๆ นะ แต่พอมาทำงานตรงนี้เองแล้วฉันก็เข้าใจเลยว่าเป็นเพราะอะไร (หัวเราะ) มันมีทั้งเรื่องการเรียบเรียง การมิกซ์ การมาสเตอร์ ต้องคิดถึงไดเรกชั่นของภาพที่เราอยากให้ออกมา เลือกปก ทำเอ็มวี มีหลายขั้นตอนมาก ๆ ซึ่งฉันก็ได้เรียนรู้จากการทำอัลบั้มและรู้สึกสนุกไปกับทุกอย่าง

LINE TODAY: สเต็ปต่อไปของศิลปินที่ชื่อว่า Mina Okabe

Mina Okabe: ตอนนี้กำลังจะมีเฟสติวัลที่เดนมาร์ก ที่ฉันจะได้ขึ้นเป็น Headliner ในเดือนพฤศจิกายนนี้ค่ะ และถ้าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ฉันก็อยากเดินทางและทำทัวร์ในประเทศอื่น ๆ ด้วย คงจะดีมาก ๆ ถ้าได้มาเที่ยวประเทศไทย

สุดท้ายนี้ฉันก็ขอขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ฟังเพลงของฉันนะคะ รู้สึกขอบคุณจริง ๆ และตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเจอใครก็ตามทำวีดีโอน่ารัก ๆ และแชร์เพลงของฉัน หวังว่าทุกคนจะเอนจอยกับ Better Days นะคะ

ติดตามผลงานของ Mina Okabe ได้ทางหน้าเฟซบุคเพจ Mina Okabe ทางอินสตาแกรม Mina Okabe และสุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ Universal Music Thailand

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0