ไฮไลต์
- ทุกชุดที่ได้รังสรรค์นั้นสามารถสื่อสารให้กับสังคมเกิดการตระหนักและสามารถเรียกรอยยิ้ม พร้อมสร้างพลังบวกให้กับผู้ที่พบเจอ
- ส่วนตัวก็ไม่ค่อยภูมิใจกับคำว่า 'เน็ตไอดอล' แต่แท้จริงเราเป็นบุคคลหนึ่งที่มีผู้ติดตามเยอะในโลกโซเชียลที่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกคนได้
- ถ้ามีพลังพิเศษจริง…ก็อยากจะให้ทุกคนมีความเท่าเทียม เพราะถ้ามีความเท่าเทียมก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น
โลกออนไลน์นอกจากอัปเดตข่าวสารที่รวดเร็วถึงใจแล้ว ก็ยังสามารถสร้างชื่อเสียงให้เหล่าผู้สร้างคอนเทนต์ ซึ่งหนึ่งในรายชื่อผู้ที่โด่งดังในโซเชียลมีเดียต้องมีคนนี้อย่างแน่นอน 'ทราย เบญจพร' จากเพจ Framsook Lek Lek สาวน้อยสุดครีเอทีฟ ที่ได้รังสรรค์ผลงานผ่านการออกแบบชุดต่าง ๆ ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวและเทรนฮิตที่ไม่เคยพลาด
INTERVIEW TODAY สัปดาห์นี้จะพาไปเจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังการทำคอนเทนต์ 'ทราย เบญจพร' กับไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่แฝงไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ ที่หลายคนต้องร้องว๊าว
จุดเริ่มต้นของ Framsook Lek Lek
ทุกอย่างล้วนมีจุดเริ่มต้น…เพจ Framsook Lek Lek ก็เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามมากกว่า 200,000 คน และเชื่อว่าจะพุ่งทะยานอย่างไม่มีวันจบอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะโพสต์คอนเทนต์อะไรก็ปัง ยอดไลก์ ยอดแชร์ถล่มทลายเสมอ
"จุดเริ่มต้นของเพจ Framsook Lek Lek จริง ๆ แล้วเกิดจากการเปิดร้านขายเสื้อผ้าสำหรับสาวอวบและอยากโปรโมทร้าน ก็เลยพยายามคิดคอนเทนต์ จึงได้หยิบการคอสเพลย์มาเป็นตัวโปรโมทโดยหยิบเสื้อผ้าของร้านตัวเองมาดัดแปลง ซึ่งในช่วงนั้นยังไม่ได้หยิบพวกวัตถุดิบของกินเสริมชุดแต่อย่างใด
แต่ทว่าเมื่อทำไปเรื่อย ๆ จึงพยายามสร้างคอนเทนต์การแต่งตัวให้เพิ่มขึ้นไปอีก จึงหยิบสิ่งที่เราชอบมาเสริมทัพนั้นก็คือ ‘การกิน’ (แท้จริงแล้วก็ชอบทำอะไรไม่กี่อย่าง ฮ่า ๆ) ครั้งแรกก็นำไส้กรอกอีสานมาทำเป็นสร้อย ก่อนที่จะเพิ่มเลเวลอย่างที่ทุกคนได้เห็นในปัจจุบัน ซึ่งเสียงตอบรับในช่วงแรกก็ค่อยข้างดีพอสมควร แต่ท่าเกิดผลตอบรับไม่ได้ดี ก็ถือว่าเราซื้อขนมมาทานละกัน"
จาก (ชุด) เล็ก ๆ สู่ (ชุด) ใหญ่โต
"อย่างที่เผยในข้างต้นเราได้หยิบ 2 สิ่งที่เราชอบทำมารวมกันนั้นก็คือ ‘การกินและการแต่งตัว’ ซึ่งทั้งหมดคือความสนุกจากตัวของเรา โดยโจทย์ที่เราตั้งไว้คือคอนเทนต์ต้องแปลกใหม่ ทำแล้วต้องคิดว่าคนจะต้องสนใจจนต้องร้อง ว๊าววววว ทำได้อย่างไร!!
‘ใหม่ ดาวิกา’ นางเอกที่ถูกเราคอสเพลย์บ่อยที่สุด ครั้งแรกเราก็ได้หยิบชุดเดรสสีดำที่คิดว่าเหมือนกับใหม่ พร้อมทำตามโจทย์ที่ตั้ง โดยนำไส้กรอกอีสานมาทำเป็นสร้อยคอ เมื่อโพสต์ไปนั้นมันก็ทำให้คนร้องว๊าวตามอย่างที่เราหวังไว้จริง ๆ ซึ่งชาวเน็ตก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย อาทิ “ร้อนไหมคะ” (ฮ่าๆ) ซึ่งจุดนี้เปรียบเสมือนเป็นจุดกำเนิดที่นำอาหารมาเป็นส่วนประกอบของชุด
แต่ที่ทำให้หลายคนรู้จักทรายและมีชื่อเสียงนั้นคือ ‘ชุดข้าวเกรียบกุ้ง’ ที่คอสเพลย์เป็น ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต จากเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2016 เบื้องหน้าที่หลายคนได้เห็นว่าสวยงามดั่งไปเดินพรมแดงแทนแม่ชมได้นั้น แต่เบื้องหลังคือเราต้องมาทอดข้าวเกรียบและกรอกใส่ถุงเอง ซึ่งทุกกระบวนการที่เราทำนั้นคือทำด้วยตัวเองทั้งหมด (ฮ่า ๆ)
ทั้งนี้ขอยอมรับเลยว่าวันนั้นเหนื่อยมาก ๆ ซึ่งหลังจากโพสต์รูปเราก็ยังไม่ได้เช็กเสียงตอบรับในครั้งนั้นทันที ด้วยความหิวจึงไปกินหมูกระทะ (ฮ่า ๆ) แต่ระหว่างทานโทรศัพท์ก็สั่นไม่หยุด ด้วยจากการแจ้งเตือนที่คนเข้ามาคอมเมนต์และแชร์ ช่วงเวลานั้นคือตกใจมากกก นับเป็นชุดสร้างกระแสจนชาวต่างชาติเริ่มรู้จักตัวเรามากขึ้น"
ชุดที่ชอบที่สุดแถมดังไกลในต่างแดน
"ตลอดเวลาที่ได้ทำเพจนั้นก็มีอยู่หนึ่งชุดที่เราชื่นชอบมาก ๆ นั้นคือคอสเพลย์เป็น 'ฟ่าน ปิงปิง' ซุปตาร์สาวชาวจีนที่ทั่วโลกต่างรู้จัก เราได้หยิบชุดครั้งที่ ฟ่าน ปิงปิง ไปร่วมงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 71 มาเป็นไอเดียโดยดึงจุดเด่นของชุดนั้นคือสีเขียว จึงคว้า 'ผักกาดหอม' มาทำชุด ซึ่งกระแสตอบรับก็ดีดังเดิมเหมือนทุกครั้ง
แต่ทว่าฝันที่ไม่คาดฝันก็ปรากฏนั้นคือ ฟ่าน ปิงปิงได้โพสต์ภาพของเราลงในในอินสตาร์แกรมพร้อมแคปชั่นว่า ‘So Cute’ ซึ่งในเวลานั้นดีใจเป็นอย่างมาก และเปรียบเป็นใบเบิกทางที่ได้ร่วมงานในต่างประเทศทั้ง ฮ่องกง ไต้หวัน และจีน
ทุกครั้งที่ทำงานต่างแดนเราก็จะซื้อพวกวัตถุพื้นเมืองจากแหล่งนั้น ๆ แต่ต้องไปล่วงหน้า 2-3 วัน เพื่อทำชุดสำหรับ 1 งาน ซึ่งตอนนี้เราก็มีแฟนคลับที่ต่างแดนเช่นกันทุกครั้งที่ไปก็จะเจอตามงานและถ่ายรูปเป็นโมเมนต์ที่ประทับใจมาก ๆ
ลงทุนเพื่อผู้ติดตาม
อย่างที่ทราบกันที่ว่าคุณทราย เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ทำผลงานออกมาปังจนต้องร้องว้าว แต่ว่าในทุกชุดที่ได้โพสต์ในโลกออนไลน์นอกจากที่จะต้องลงแรงอย่างเดียวก็คงไม่พอ จะต้องมาพร้อมกับการลงทุนเสมอ
“นอกจาก ใหม่ ดาวิกา ก็ แม่ชมนี่ละที่คอสเพลย์บ่อยสุด (ฮ่าๆ ) ถ้าหากยังจำกันได้ครั้งที่ชมพู่เดินเฉิดฉายบนพรมแดงในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ ด้วยเดรสสีเหลืองฟูฟ่อง เราเองก็ไม่พลาดจัดทุเรียนมาเต็ม ๆ
ครั้งนั้นเป็นชุดที่ลงทุนสูงเกือบ 20,000 บาท กับทุเรียนที่ยังไม่ได้แกะ 30 ลูก และเป็นการทำชุดที่ยากมาก ๆ เริ่มจากการที่ต้องช่วยกันแกะทุเรียนใส่แพ็ค และต้องพิถีพิถันเป็นอย่างมากเพราะต้องเชื่อมชุดในแต่ละจุดเข้าหากัน แถมมาพร้อมกับความหนักที่เราต้องแบกไว้ ซึ่งครั้งแรกที่ภาพออกมานั้นสีของทุเรียนก็ยังไม่ได้เหลืองอร่ามตามที่ต้องการ ก็ต้องหาวิธีแก้ไขซึ่งชุดนี้ใช้เวลาถึง 2 วัน สำหรับชุดนี้ ซึ่งหลังจากที่ถ่ายภาพแล้วทุเรียนที่นำมาใช้ก็แช่ตู้เย็นไว้กินเอง รวมถึงแจกญาติ ”
ชุดที่สามารถตีความได้!
ไม่ว่าจะแต่งชุดไหนก็เป็นกระแสเสมอสำหรับคุณทราย แต่ทว่าชุดที่เราจะไม่พูดถึงก็เป็นไปไม่ได้ สำหรับการแต่งกายไปฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่ที่แขนนั้นเต็มไปด้วยเข็มฉีดยา จนเกิดกระแสดราม่า
"จุดเริ่มต้นของชุดนี้เกิดจากเห็นหลายคนเวลาไปฉีดวัคซีนจะชอบถ่ายรูปลงโลกออนไลน์เพื่อให้รู้ว่าฉันมาฉีดวัคซีนแล้วนะ จึงได้จุดประกายความคิดว่าถ้าเราได้ไปฉีดก็จะต้องมีคอนเทนต์มาฝากแฟนคลับ
โดยตอนแรกเราได้คิวฉีดวัคซีนในกรกฎาคม แต่โดนเลื่อนเป็น 18 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงคิดว่าถ้าไปฉีดวัคซีนจะนึกถึงอะไร สิ่งแรกที่คิดถึงคือ ‘เข็มฉีดยา’ เพราะทุกคนต้องโดนจิ้มแน่นอน (ฮ่าๆ) จึงได้นำเข็มฉีดยามาทำเป็นเครื่องประดับปลอกแขน พอมาสวมจริงก็เอาเรื่องอยู่นะ (ฮ่าๆ)
จริง ๆ ชุดนี้มันก็สามารถสื่อสารและสะท้อนกับคำพูดของผู้ใหญ่บางท่านที่ว่า ‘วัคซีนจะเต็มแขนคนไทย’ ซึ่งเราก็ไปตามนั้นเลย ซึ่งวลีดังกล่าวจะออกมาลักษณะใดเต็มแขนก็จริง แต่เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพไหม ซึ่งตอนที่ไปฉีดก็พบปะผู้คนมากมาย บางท่านถึงกับเอ่ยปากถามว่าฉีดยี่ห้อนั้นหมดเลยหรือเปล่า (ฮ่าๆ)
นอกจากสามารถสื่อสารได้แล้ว ยังเป็นการเอ็นเตอร์เทนผู้คนที่ไปฉีดวัคซีน รวมถึงคุณหมอและพยาบาลทุกคนต่างยิ้มแย้ม ขอถ่ายรูป นับเป็นการให้พลังบวกสำหรับทุก ๆ คนที่ได้พบเจอในวันนั้น
ชุดฉีดวัคซีนเต็มแขน เราก็ยอมรับว่าเป็นการเสียดสีสังคมในลักษณะหนึ่ง ซึ่งคนที่ถูกใจก็แชร์ กดไลก์ แถมแซวว่าทำขายไหมจะสวมไปฉีดวัคซีนเช่นกัน แต่ทว่าเราก็เจอดราม่าจากชุดนี้เช่นกันเพราะบางคนคิดว่าเราเป็น VVIP ว่าทำไมคุณได้ฉีดเยอะขนาดนี้ หลายคนยังไม่ได้สักเข็ม บางคนอาจไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ ซึ่งต้องบอกว่าไม่มีใครสามารถฉีดวัคซีนได้ 50 เข็ม ตามชุดที่สวมไป"
ชื่อเสียงบนโลกออนไลน์!!
"ส่วนตัวแล้วเราก็ไม่ได้เป็น ‘เน็ตไอดอล’ ซึ่งคำหนึ่งคำมันก็มีความหมายที่สองแง่สองง่าม มีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวของมัน
ข้อดีคือ สามารถที่จะสนับสนุนตัวเรา เพิ่มโอกาสในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการขายของก็อาจจะขายดีขึ้น หรืออาจจะมีคนจ้างรีวิว มันก็สามารถเพิ่มช่องทางในการหารายได้ให้กับตัวคุณ
ข้อเสียคือ บางที่คำว่าเน็ตไอดอลมันก็อาจจะไม่ได้มีแต่เรื่องดีเสมอ บางคนเลือกจำภาพลักษณ์ที่มันไม่ดี ซึ่งในปัจจุบันอย่างที่เห็นได้ชัดคือผู้ที่กระทำความผิด จู่ ๆ มีชื่อเสียงและถูกเรียกว่าเน็ตไอดอล ทั้งที่ไม่มีผลงาน
ทั้งนี้ส่วนตัวก็ไม่ค่อยภาคภูมิใจกับคำว่าเน็ตไอดอลสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเราก็ถูกนิยามหลายรูปแบบทั้ง อินฟลูเอนเซอร์ บิวตี้บล็อกเกอร์ ครีเอเตอร์ ฯลฯ เนื่องด้วยเราทำคอนเทนต์หลายรูปแบบ แต่จริง ๆ แล้ว เราเป็นบุคคลหนึ่งที่มีผู้ติดตามเยอะในโลกโซเชียลเพียงเท่านั้นเอง "
ผู้ติดตามเยอะสู่เสียงสะท้อนให้สังคม
"จากที่เผยในข้างต้นที่ว่า เราเป็นบุคคลหนึ่งที่มีผู้ติดตามเยอะในโลกโซเชียล ซึ่งเพจ Framsook Lek Lek ของทรายก็เป็นกระบอกเสียงให้กับสังคมเช่นกัน เนื่องด้วยเรามีชื่อเสียงจากผู้คนที่ติดตามผลงาน แล้วทำไมเราจะไม่หยิบสิ่งนี้มาใช้เป็นประโยชน์กับเรื่องสำคัญของทุกคนไม่ได้ ซึ่งทุกคอนเทนต์ของเพจก็มีแนวคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซ้อนอยู่เสมอ
ทว่าบางคนที่มีผู้ติดตามเยอะมาก ๆ แต่กลับไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ติดตามของคุณเองที่คอยซัพพอร์ตผลงาน แต่เลือกที่จะกลับปล่อยให้เจอปัญหาอย่างเดียวดาย
พลังพิเศษ จาก Framsook Lek Lek
"ถ้าเกิดว่าเรามีพลังพิเศษจริง ๆ ก็อยากจะให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะถ้าเกิดมีความเท่าเทียม ก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต เรื่องความเป็นอยู่ เรื่องการเมือง หรือการบูลลี่กันในสังคม และเชื่อว่าถ้าบ้านเมืองดี ก็จะไม่มีการเอาเปรียบ
พลังบวกที่อยากมอบให้
เพจ Framsook Lek Lek ตอนนี้ก็เดินทางมาถึง 6 ปี เรียกได้ว่าเติบโตและก้าวมาพร้อม ๆ กับตัวเรา ซึ่งคอนเทนต์ก็จะมีการสลับปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ แต่ก็จะไม่ทิ้งกระแสบ้านเมืองในปัจจุบัน
นอกจากนี้ก็ขอเป็นแรงบรรดาใจให้กับสาวอวบที่ขาดความมั่นใจ ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีน้ำหนักมากกว่า 80 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ลดน้ำหนักเหลือ 62 กิโลกรัม ซึ่งการที่เรากลับมาดูแลตัวเองนอกจากร่างกายที่แข็งแรงแล้ว เป้าหมายหลักคืออยากสวมใส่ชุดสวย ๆ นั้นเอง " (ฮ่าๆ)
ทิ้งท้ายกับ Framsook Lek Lek
"ขอบคุณผู้ติดตามทุกคนที่อยู่ด้วยกันถึง 6 ปี ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน และจงเชื่อมั่นในตนเองอยากทำอะไรทำ อยากแต่งตัวแบบไหนก็แต่งเลย แต่ขอให้ถูกกาลเทศะก็เป็นพอ หรือทำในสิ่งที่เราชอบพยายามทำมันอย่างสม่ำเสมอสักวันผลตอบรับก็จะดีขึ้นเอง"
ถ้าเกิดยังไม่จุใจสามารถติดตามเรื่องราวต่าง ๆ ของ 'ทราย เบญจพร' ได้ในเพจFramsook Lek Lek หรือใน YouTube ช่องframsook lek lek และมารอลุ้นชุดไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 กันว่าจะปังขนาดไหน
