ก้าวเข้าสู่มิถุนายนเดือนแห่ง ‘Pride Month’ ช่วงเวลาที่ชาว LGBT แสดงออกถึงสิทธิและความเท่าเทียมทางเพศตลอดทั้งเดือน มิ.ย. ของทุกปี มาพร้อมด้วยสัญลักษณ์ ‘ธงสีรุ้ง’ ที่สดใส ถือเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนอย่างเป็นสากล
ซึ่งปัจจุบันในทุกสายงาน ทุกอาชีพ ไม่ได้มีเพียงแค่‘ชายจริงหรือหญิงแท้’ ที่ขับเคลื่อนธุรกิจ,เศรษฐกิจหรือสังคมให้เดินไปข้างหน้า แต่เป็นเราทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยโดยที่ไม่มีการแบ่งแยกหรือยึดติดเรื่องเพศ
‘ทหารเกณฑ์' ถือเป็นหนึ่งสัญลักษณ์ที่ถูกตีตราเป็นหน้าที่ชายไทย ที่ต้องผ่านการตรวจเลือกทหาร ตามกฎหมายกำหนดโดยต้องมีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป เว้นกลุ่มสาวประเภทสองที่ทำหน้าอกหรือผ่าตัดแปลงเพศแล้วสามารถขอใบรับรองแพทย์เพื่อได้รับการยกเว้นในการรับราชการด้วยเหตุผล “เพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด”
ทว่ากลุ่มคนที่เพศกำเนิดเป็นชาย ใจเป็นหญิง ยังต้องเผชิญกับการเกณฑ์ทหาร ซึ่งบางรายอาจคิดว่าถ้าเราเคราะห์ดีก็ได้ใบดำ แต่ถ้าจับได้ ‘ใบแดง’ ก็ย่อมทำใจเข้ากรมทหาร รวมถึงบางคนเลือกที่ปิดบังตัวตนเพื่อจะได้เข้าสังคมภายในและความหวาดกลัวที่ครอบงำจิตใจจากข่าวในโลกออนไลน์
INTERVIEW TODAY สัปดาห์นี้จะพาไปรู้จักพลทหารราเชนทร์ เสาเวียง จากค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ทหารเกณฑ์สายหวาน ผู้เล่าเรื่องราวชีวิตผ่านติ๊กต๊อกกับมุมมองในค่ายทหาร แถมได้ใจลูกสาวที่เตรียมเข้ากรม
‘ก่อนเข้ากรม’
เป็นที่ทราบกันดีที่ว่า หากชายใดไม่ได้เรียน รด. จะต้องเข้ารับเลือกการเกณ์ทหาร ซึ่งการจับใบดำ-ใบแดง เป็นเหมือนดั่งการวัดดวง แต่กลับแปลกใจตัวเองที่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น แถมเอ็นจอยมากกว่า ซึ่งก่อนถึงเวลาก็ได้พูดคุยกับแม่ว่า “ถ้าจับได้ทหารเรือ จริงๆ จะเป็นอย่างไร”
จุดนี้เองที่ทำให้เราเชื่อว่าวาจาของแม่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เพราะเมื่อถึงนาทีจับใบดำ-ใบแดง ผลออกมาเป็นดังหวังไว้ คือ ‘ทหารเรือ ผลัด 1’
ซึ่งเราก็เตรียมใจไปเต็มที่ เพราะคิดว่าการที่จะมาเป็นทหารเกณฑ์ได้จะต้องมีใจล้วนๆ ถ้าใจไม่เกินร้อยคิดว่ายังไงก็อยู่ไม่ได้ ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นชิน
อย่างที่เผยไปข้างต้นว่า ถึงจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับการเป็นทหารเกณฑ์ แต่แล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจ เปรียบดั่งพระราหูอมชั่วขณะที่ว่า จะเข้าสังคมในค่ายทหารได้หรือไม่ แถมแอบกังวลกลัวจะโดนแกล้งตามคลิปที่เผยแพร่ในครั้งอดีต ที่ทหารเกณฑ์โดนแก้ผ้า แล้วให้จับอวัยวะเพศซึ่งกันและกัน เพราะเปรียบเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
“ถึงใจจะเป็นสาว แต่กายยังคงเป็นชาย ”
วินาทีที่ก้าวขาเข้ากรมทหารครั้งแรก เรามาด้วยลุคมาดแมนผู้ชายเต็ม 100 เพื่อที่จะได้เข้ากับเพื่อนฝูงได้ง่ายขึ้น รวมถึงเราก็ยังไม่รู้ว่าคนอื่นๆ มีทัศนคติต่อ LGBT อย่างไร ซึ่งถ้าเราเฉิดฉายความเป็นดาวตั้งแต่แรก ก็หวั่นจะเข้ากับคนอื่นๆไม่ได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาในการฝึกนานนับเดือนเพื่อนผู้ชายในแก๊งก็จับโป๊ะไม่ได้ แต่กลับทำให้ตัวเรารู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวเอง
แต่แน่นอนว่าความลับไม่ในโลก (ถ้าเราเก็บมันดีพอ) จู่ๆ เพื่อนสาวที่เป็นทหารเกณฑ์ก็มาแฉปล่อยโป๊ะกันเอง โดยลักษณะท่าทางของเรามันออกเองโดยอัตโนมัติ ถึงจะแอ๊บแมนแค่ไหนมันก็ออกเอง
หลังจากนั้น เลยเปิดเผยตัวเองเฉิดฉายความเป็นดาว แถมทำให้เรารู้สึกเป็นตัวเองมากขึ้นใช้ชีวิตในค่ายได้อย่างสบายใจ จาก ‘พลทหารราเชนทร์’ สู่ฉายา ลูกสาว,พอลล่า และอีกมากมาย จนบางครั้งงงเองว่าเรียกเราเหรอ
LGBT กับการยอมรับในค่ายทหารที่ดีขึ้น ?
หลังจากที่ไม่แอ๊บแมนและเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อนผู้ชายในแก๊งก็ต่างตกใจ บางคนที่รับได้ แถมเอ็นจอยสนุกไปกับเรา แต่บางคนรับในสิ่งที่เราเป็นไม่ได้ก็เลือกที่จะตีตัวออกหากก็มีบ้าง
ปัจจุบันสังคมในค่ายทหารก็เปิดกว้างกับชาว LGBT มากขึ้นทั้งครูฝึก ข้าราชการ เพื่อนฝูง แต่จะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ยังคงยึดติดกับโลกนี้ต้องมีเพียงชายจริงหญิงแท้เท่านั้น และไม่ยอมเผชิญกับความเป็นจริงในปัจจุบัน
แต่ถ้ามีโอกาสสามารถพูดคุยกับคนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ยังคงปิดกลั้นกับเพศทางเลือก ก็ขอเลือกที่จะไม่พูดคุยหรือบอกให้เปลี่ยนใจมายอมรับ เพียงแค่เราต้องทำตัวเองให้อยู่ในบรรทัดฐานที่ดี และทำให้คนเหล่านั้นเห็นกับตาและยอมรับในสิ่งที่เราเป็น
‘จุดเริ่มต้นของการรีวิวในค่าย’
อันดับแรกเราเห็นจากรุ่นพี่ที่ทำคลิปเกี่ยวกับการแนะนำ การเตรียมตัวของการเข้าเป็นทหารใหม่ แล้วพอเราได้มาอยู่ในจุดที่เป็นทหารเอง ก็อยากจะเล่าประสบการณ์ในฉบับของตัวเราเอง อย่างน้อยเรื่องราวที่เจอมาก็ยังมีประโยชน์กับคนรุ่นหลังให้ได้ศึกษา ซึ่งข้อมูลที่นำมาพูดนั้นล้วนแล้วอ้างอิงจากประสบการณ์ที่เราเคยเจอทั้งหมด
หลังจากที่ปล่อยคลิปไปก็มีคอมเมนต์ทั้งชอบและไม่ชอบ เพราะถ้าในแง่ลบก็จะมีคนว่าเราเอาเรื่องราวของทหารมาพูดเพื่อโปรโมทตัวเอง ซึ่งก็ยอมรับว่าจริง แต่สิ่งที่เราเอามาเสนอนั้นเป็นข้อมูลที่คนอยากรับรู้และรับไป ซึ่งมองว่าเป็นการแลกเปลี่ยนมากกว่า
ส่วนการตอบรับในทางบวกก็มีเข้ามาบอกว่าได้นำข้อมูลเพื่อเตรียมตัว รวมถึงบางคนกลัวที่จะเป็นทหารอย่างพวกลูกสาว ที่จะมาเป็นทหารก็บอกว่าเห็นคลิปพี่แล้วรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจ
“คำถามยอดฮิต ทหารเกณฑ์น่ากลัวมั้ย”
ถ้าปัจจุบันการเป็นทหารเกณฑ์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าเปรียบกับแต่ก่อนที่มักเป็นข่าว แต่พอเข้ามาจริงๆ มันก็ไม่ได้น่ากลัว ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการเกณฑ์ทหาร มันไม่มีคำว่าสบาย มันมีแต่ฝึกหนักมากหรือฝึกหนักน้อย พร้อมย้ำไม่มีอะไรน่ากลัว
“แต่ส่วนตัวในช่วงที่ฝึกหนักมาก ๆ ก็เคยแอบไปร้องไห้ ซึ่งความรู้สึกขณะนั้นมันอยู่ในจุดที่จะรับได้ แต่เราก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ก็ถือว่าตัวเองสุดยอดจริงๆ (หัวเราะ)“
ชีวิตหลังจากปลดทหารเกณฑ์
ถ้าถึงเวลาปลดทหารก็จะขอเลือกเดินสายงานของตัวเองจะดีกว่าคือการการแต่งหน้า เพราะในความรู้สึกของเรา จิตใต้สำนึกแล้วก็ไม่ได้อยากเป็นทหาร แต่ด้วยความที่เราจับได้ใบแดง เราก็เออมาทำหน้าที่ของเราไปครั้งหนึ่งในชีวิต นับเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ
ส่วนเรื่องราวก็อาจจะไม่ได้พูดถึงเรื่องราวทหาร ด้วยความที่เราปลดจากทหาร ซึ่งถ้าเราจะเอาเรื่องราวของทหารมาพูด เดี๋ยวจะโดนหาว่ารู้ไม่จริง และหาคอนเทนต์ใหม่ๆให้คนได้ชมจะดีกว่า
‘กฎที่อยากให้ปรับเปลี่ยน’
อยากให้เปิดโอกาส “ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร” เพราะบางคนไม่พร้อมที่จะเข้ามาอยู่ในกรมทหาร ด้วยความที่เป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูครอบครัว ถ้ามาอยู่ในจุดนี้ครอบครัวจะอยู่ได้อย่างไร เพราะว่าเงินเดือนทหารเกณฑ์ไม่ได้สูง ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มีการเกณฑ์ทหาร
‘ทิ้งท้ายกับพลทหารราเชนทร์’
ถึงลูกสาวที่จะเข้ากรมทหาร ขออย่าปิดบังตัวตนของเองตัวเอง เราอาจจะพลาดโอกาส อย่ารอให้ใครถามว่า ใช่…ใช่ไหม ? (เพราะบางทีไม่มีใครถาม) ฟูลเทิร์นเข้าไปในค่ายสวยๆ แล้วจะเจอกับโอกาสที่เหมาะสมกับตัวเรา
“การเป็นทหารไม่ได้ฝึกหนักและไม่ได้ฝึกเบา ซึ่งจะมีช่วงเวลาที่ฝึกหนักและเบาสลับกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าใจเราไหวหรือป่าว ถ้าใจเราไหวแม้จะหนักแค่ไหนเราก็ผ่านมันไปได้"
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ s.rachen