โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รวมเรื่องน่ารู้ของเจ้าหนูครัวซองต์

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 23 ม.ค. 2564 เวลา 17.00 น. • pp.p
Photo by La Miko | pexels.com
Photo by La Miko | pexels.com

เมื่ออยู่ๆ “ครัวซองต์” ก็กลายเป็นอาหารยอดฮิตชนิดที่เบเกอรี่ทุกร้านต้องมี ด้วยเสน่ห์ของรสชาติ และความหอมหวนของแป้งกับเนยที่เข้ากันอย่างลงตัว ทำให้ขายหมดไปอย่างรวดเร็ว ชนิดที่เรียกว่าเช้าเริ่มขาย บ่ายหมดเกลี้ยงเกือบทุกร้าน สัปดาห์นี้เราจึงขอว่าด้วยเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “ครัวซองต์” ที่สายเบเกอรี่ควรต้องรู้..

ประวัติความเป็นมา

ด้วยชื่อของ “ครัวซองต์” ที่สะกดด้วยภาษาฝรั่งเศส “croissant” ทำให้หลายๆ คนเข้าใจว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส แต่อันที่จริงแล้ว ครัวซองต์ มีต้นกำเนิดมาจากเวียนนา ประเทศออสเตรียต่างหาก โดยเชื่อกันว่าเป็นการดัดแปลงจากขนมที่เดิมชื่อว่า ‘kipferl’ (อ่านว่า ‘คิปเฟล’) ซึ่งตั้งชื่อตามรูปทรงที่คล้านพระจันทร์เสี้ยว มีส่วนผสมของถั่วหรือไส้อื่นๆ เนื้อของมันจะมีความหนานแน่นทว่านุ่มอร่อย ซึ่งเจ้าคิปเฟลนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 โดยถูกรู้จักในฐานะของ “ขนมหวาน” จวบจนกระทั่งช่วงกลางศตวรรษที่ 16 ก็ได้ถูกบรรจุเป็นขนมสำหรับทานในช่วงเช้า

หน้าตาของขนม Kipferl | Photo by Pinterest
หน้าตาของขนม Kipferl | Photo by Pinterest

ในช่วงศตวรรษที่ 17 ได้มีการบันทึกสูตรแป้งครัวซองต์สูตรแรกที่ได้รับความนิยม ปรากฏในตำรา “Le Pâtissierfrançois” โดยFrançois Pierre de La Varenne เป็นสูตรของ “Pâte feuilletée” หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อสูตร “แป้งพัฟ”

นอกจากนี้ยังมีตำนานความเป็นมาอื่นๆ อีก 2 เรื่อง หนึ่งในตำนานดังกล่าวระบุว่าสร้างขึ้นในบูดา (เมืองโบราณในประเทศฮังการี) ที่ใช้ขนมชนิดนี้ในการเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม ส่วนอีกตำนานก็ว่าด้วยเรื่องของฝั่งเวียนนาที่ขนมอบแสนอร่อยนี้ถูกทำขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะสงครามเช่นกันในช่วงปี 1683 

และนอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องราวน่ารักๆ ของขนม “ครัวซองต์” จากศตวรรษที่ 18 บอกเล่าเรื่องราวของครัวซองต์ที่มักเป็นของมารี อ็องตัวแน็ต อาร์ชดัชเชสแห่งออสเตรียเป็นที่รู้กันว่าไม่รับประทานอาหารค่ำของราชวงศ์เพียงเพื่อแอบไปกินและดื่มขนมและกาแฟที่มาจากประเทศของเธอ ความรักของเธอที่มีต่อขนม kipferl นำมาสู่การตั้งชื่อ kipferl เป็น "ครัวซองต์" ข่าวลือนี้ได้ถูกแพร่สะพัดออกไปจนกลายเป็นเทรนด์การกินขนมแบบไฮแฟชั่นในสังคมชั้นสูงของฝรั่งเศสในยุคนั้น เนื่องจากขนมเป็นของราคาแพงและถูกสงวนไว้สำหรับสังคมชั้นสูงและราชวงศ์เท่านั้น

มีการพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เล่าว่าครัวซองต์นั้นเป็นฝีมือของทหารชาวออสเตรียชื่อ August Zang และร้านขนมสุดหรูของเขา ‘Boulangerie Viennoise’ ร้านเบเกอรีที่เชี่ยวชาญในการทำขนมจากเวียนนาพื้นเมืองของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง kipferl ทว่า kipferl ของเขาทำด้วยแป้งที่มีเกล็ดมากกว่าขนมแบบดั้งเดิม และคนทำขนมปังชาวฝรั่งเศสชื่อ Sylvain Claudius Goy ได้เขียนสูตรอาหารในปี1915 ซึ่งเทคนิคที่ใช้ได้ถูกสืบทอดเป็นหัวใจสำคัญของการอบครัวซองต์จวบจนปัจจุบัน การใช้ยีสต์ของเขาทำให้ขนมเขาแตกต่างจากขนมพัฟแบบดั้งเดิม และได้ให้กำเนิดครัวซองต์แบบที่รับประทานกันทุกวันนี้

ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ครัวซองต์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย และได้ถูกพัฒนารสชาติให้หลากหลายยิ่งขึ้น ปัจจุบัน วัฒนธรรมครัวซองต์ได้ครองใจคนหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส, ออสเตรีย, อาร์เจนตินา, อิตาลี, โปแลนด์, อเมริกา, ออสเตรเลีย, และประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ประวัติความเป็นมาของครัวซองต์นั้นถูกถ่ายทอดผ่านยุคสมัยต่างๆ ทั้งมีส่วนในสงครามการต่อสู้ และเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญอีกมากมาย อาจนับว่าครัวซองต์ไม่ได้เป็นขนมปังโง่ๆ ทว่าเป็นเมนูแห่งประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้!

Photo from Pinterest
Photo from Pinterest

ในครัวซองต์นั้นมันมีอะไร

ในที่นี้มิได้พูดถึงกรรมวิธีการทำอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าแต่ละร้านก็มีเคล็ดลับที่ต่างกันไป แต่จะพูดโดยรวมว่า “ครัวซองต์” นั้นคือการนำแป้งที่ผ่านการหมักมาเป็นอย่างดีมาวางทับด้วยเนย ทำการพับทบกันเป็นชั้นๆ และรีดให้เป็นแผ่นก่อนจะตัดให้เป็นรูปสามเหลี่ยม ม้วนขึ้นรูปแล้วนำไปเข้าเตาอบ ฟังดูเหมือนไม่ยาก แต่หากลองลงมือทำจะรู้เลยว่าไม่ใช่ง่ายๆ

Photo by cottonbro | pexels.com
Photo by cottonbro | pexels.com

ครัวซองต์ 1 ชั้น มีกี่แคล? 

ในปริมาณ 100กรัม ครัวซองต์จะให้พลังงานมากถึง 406กิโลแคลอรี โดยเป็นไขมันทั้งหมด 21กรัม คอเลสเตอรอล 67 mg โซเดียม 467 mg คาร์โบไฮเดรต 46 g น้ำตาล 11 g

สรุปง่ายๆคือ หากสาวๆ รับประทานครัวซองต์เข้าไป 1 ชิ้นที่มีขนาด 100กรัม จะต้องใช้พลังงานในการเบิร์นออกเทียบเท่ากับการวิ่งลู่ประมาณเกือบ 1ชั่วโมง หรือจะเข้าคลาสเต้น Zumba สักชั่วโมงก็น่าจะพอช่วยได้ และแนะนำให้ยึดตามธรรมเนียมเดิมที่มีมาแต่โบราณ คือทานเป็นมื้อเช้าจะดีที่สุด 

 

รู้หรือไม่.. "ครัวซองต์" ก็มีวันของเขาเหมือนกันนะ

“วันครัวซองต์” หรือ Croissant Day ตรงกับวันที่ 30 มกราคมของทุกปี 

Photo by mahyar motebassem | unsplash.com
Photo by mahyar motebassem | unsplash.com

อ้างอิง

bakersmaison.com / wikipedia / awarenessdays.com / 1000cookbooks.com / USDA

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0