เคยมีแบบสอบถามอาชีพในฝันของเด็ก ๆ ญี่ปุ่นว่า “โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร” และคำตอบที่เป็นอันดับ 1 นั้นไม่ใช่การเป็นไอ้มดแดงหรือเซเลอร์มูลแต่อย่างใด แต่คำตอบของเด็ก ๆ ญี่ปุ่นสำหรับอาชีพในฝันนั้นกลับกลายเป็นอาชีพ “ยูทูปเบอร์” นั่นเอง
ถ้าพูดอย่างง่าย ๆ ยูทูปเบอร์ก็คือคนที่ทำวิดีโอลงยูทูปนี่แหละครับ รายได้ก็จะมาจากยอดวิว การลงโฆษณา การจ้างงานของสปอนเซอร์ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่ามีคนเป็นยูทูปเบอร์จำนวนมากในปัจจุบัน แต่มีจำนวนไม่มากนักที่ได้รายได้จากการเป็นยูทูปเบอร์อย่างจริงจังจนสามารถเป็นอาชีพหลักได้
แต่ถึงอย่างนั้นการเป็นยูทูปเบอร์ก็ยังเป็นอาชีพในฝันของเด็ก ๆ ญี่ปุ่น เพราะความเป็นอิสระและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ มากกว่าการฝืนเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือสาวออฟฟิศใส่สูทใส่ส้นสูงเดินถือเอกสารไปวัน ๆ นั่นเอง
และไม่ใช่แต่เด็ก ๆ เท่านั้น ในญี่ปุ่นก็มีผู้ใหญ่วัยทำงานจำนวนหนึ่ง ที่มีความคิดอยากจะลาออกจากงานประจำ ออกมาทำตามความฝันในการเป็นเป็นยูทูปเบอร์อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะอายุเลยเลข 4 แล้วก็ตาม
อย่างในข่าวที่ผมกำลังจะเล่าในวันนี้ เป็นข่าวที่มาจากศาลของจังหวัดโออิตะ จังหวัดในภูมิภาคคิวชู (ภาคใต้) ของญี่ปุ่นครับ สาเหตุมันเริ่มมาจากที่มีพ่อบ้านญี่ปุ่นวัย 44 ปีคนหนึ่ง เขามีความฝันเหมือนกับเด็กญี่ปุ่นคนอื่น ๆ นั่นก็คือการเป็นยูทูปเบอร์นั่นเอง (แต่ตัวลุงไม่เด็กแล้วอะนะ)
แม้จะไม่ได้ลาออกจากงานประจำมาเป็นยูทูปเบอร์เต็มเวลา แต่เขาก็พยายามใช้เวลาว่างในการอัปโหลดวิดีโอพาเที่ยวในจังหวัดโออิตะ ทั้งร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ และถ้าหากมันไปได้สวย วันหนึ่งเขาก็อาจจะตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นยูทูปเบอร์แบบเต็มตัวเลย
แต่มันก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด !
อย่างที่เราก็คงจะรู้กันว่าการทำคลิปอัปโหลดขึ้นยูทูปนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การจะทำให้คนติดตามดูเราเยอะ ๆ ต่างหากที่เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า เช่นเดียวกับคุณพ่อบ้านคนนี้ เพราะนอกจากจะไม่ค่อยมีผู้ติดตาม ไม่ค่อยมีคนมาดูคลิปแล้ว คอมเมนต์ที่ได้รับก็ช่างบั่นทอนกำลังใจของเขาเสียเหลือเกิน โดยจะมีคนเข้ามาด่าเขาในแทบทุกคลิป ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายที่บางทีก็ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาของวิดีโอเลย เช่น “กระจอก”, “กาก”, “อ่อนเอ๊ย” และคำที่รุนแรงที่สุดที่เขารับไม่ได้เลยก็คือ ไอ้หัวล้าน !!
หลังจากที่ถูกทำลายความมั่นใจจนหมดสิ้น คุณพ่อบ้านคนนี้ก็ได้เปลี่ยนความมุ่งมั่นในการทำยูทูปให้กลายเป็นความแค้น เขาได้ตามสืบหาตัวการของเรื่องนี้ ว่าใครกันนะที่บังอาจมาคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำหยาบคายแบบนี้กับเขาได้ในทุก ๆ วิดีโอ อย่าให้รู้ตัวนะ เอ็งโดนกระทืบแน่ !!
แต่แล้วความจริงก็เปิดเผยครับ เมื่อคุณพ่อบ้านสืบไปจนเจอคนที่โพสต์ด่าในยูทูปของเขา แต่ยังไม่ทันที่จะได้รัวหมัดต่อยไอ้เกรียนคีบอร์ดคนนั้นให้สะใจ คุณพ่อบ้านก็ได้ค้นพบความจริงที่น่าตกตะลึงมากขึ้น เมื่อเขาได้รู้ว่า “มีคนจ้างให้เกรียนคีบอร์ดคนนั้นมาโพสต์ด่าเขาอีกต่อหนึ่ง” และคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะผู้จ้างวานก็คือ ภรรยา (วัย 36) ของเขาที่อยู่ด้วยกันทุกวันนั่นเอง !!!!
สาเหตุที่คุณภรรยาต้องจ้างคนให้มาโพสต์ด่าเป็นเพราะคุณภรรยาไม่อยากให้สามีมาฝันลม ๆ แล้ง ๆ อยู่กับการเป็นยูทูปเบอร์ ที่ดูยังไงก็ไม่ได้มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แถมยังอายุปูนนี้ เอาเวลาที่เสียไปนั้น ไปตั้งใจทำมาหากินเอาเงินมาเลี้ยงครอบครัวจะดีกว่า คุณภรรยาก็เลยเลือกใช้วิธีนี้…
ก็อยากให้เรื่องมันจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง สามีภรรยาจับมือกันด้วยความเข้าใจ แล้วกอดกันอย่างมีความสุขอยู่หรอกนะครับ แต่เรื่องนี้มันไม่ได้จบลงแบบนั้น คุณสามีโมโหมาก เพราะที่สุดท้ายแล้ว คนที่ไว้ใจคือคนที่ร้ายที่สุด เขาก็เลยทุบตีต่อยภรรยาด้วยความโกรธ จนคุณภรรยาต้องหนีไปแจ้งความจับสามีของตัวเอง และเรื่องนี้ก็จบลงที่ศาลจังหวัดโออิตะตัดสินให้คุณสามีนั้นติดคุกไปเป็นเวลาถึง 3 ปี !!
สรุปเรื่องนี้ก็จบลงโดยมีแต่ผู้แพ้ คุณสามีก็ไม่สามารถเป็นยูทูปเบอร์อย่างที่ฝันได้ แล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวไม่ได้ด้วยเพราะติดคุก คุณภรรยาก็เสียสามีไปอยู่ในคุกถึง 3 ปี แล้วไม่รู้ว่ากลับออกมาจะยังกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกไหม ชีวิตครอบครัวก็พังพินาศไปทั้งสองคน
จริง ๆ เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเพียงจะรู้จักพูดคุยกันดี ๆ และที่สำคัญก็คือ คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน มีอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรก็รู้จักตักเตือนและให้อภัยกัน ไม่งั้นสุดท้ายเรื่องก็คงจะจบลงด้วยความเจ็บปวดทั้งสองฝ่ายแบบนี้แหละครับ
ข้อมูลอ้างอิง : nishinippon, japantoday
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook: Eak SummerSnow
Youtube: Eak SummerSnow
