ถ้าพูดชานมไข่มุก ตอนนี้ก็คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก เพราะอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่ฟื้นคืนชีพกลับมาฮิตอีกครั้งในเอเชีย โดยเฉพาะไต้หวัน จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวมถึงไทยด้วย เรียกว่าตอนนี้เดินไปทุก 100 เมตรในสยามจะต้องเจอร้านชาไข่มุกอย่างน้อย 1 ร้าน ซึ่งถ้าถามคนในบ้านเราว่า ทำไมถึงดื่มชานมไข่มุกกัน คำตอบง่าย ๆ ที่น่าจะเป็นก็คือ เพราะมันอร่อย ! เออ ก็แน่นอนสิ ของกินถ้าไม่อร่อยแล้วจะกินทำไมฟระ ?
แต่ทว่าในประเทศญี่ปุ่นกลับไม่เป็นอย่างนั้นน่ะสิ …
ที่ญี่ปุ่นเอง แม้จะมีขนม มีของกินสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย แต่พอเจ้าชานมไข่มุกจากไต้หวันนี่เข้ามาในญี่ปุ่นก็กลายเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตของคนญี่ปุ่นไปเรียบร้อยแล้ว โดยเขาเรียกเจ้าเครื่องดื่มที่ใส่ไข่มุกนี้ว่า タピオカドリンク (Tapioca drink) นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะเอาใส่ชานมกินกันตามปกติแล้ว เนื่องจากมันเป็นกระแสในญี่ปุ่น เจ้าไข่มุกก็เลยไปอาละวาดอยู่ในขนมหลายอย่างในญี่ปุ่น เช่น เค้ก พุดดิ้ง ไอศกรีม หนักกว่านั้นคือบางร้านก็ทำเป็นอาหารคาวมันซะเลย ไม่ว่าจะทำเลียนแบบข้าวหน้าไข่แซลมอน หรือเอาไปใส่ราเม็งก็กลายเป็นเมนูที่เรียกเสียงฮือฮาในญี่ปุ่นพอสมควร (คล้าย ๆ กับที่บ้านเราเอาไปผัดกะเพราขายนั่นแหละนะ)
แล้วที่ชานมไข่มุกเป็นกระแสแบบนี้ในญี่ปุ่น มันเป็นเพราะอะไรล่ะ ไม่ใช่เพราะมันอร่อยเหรอ ??
ที่น่าสนใจก็คือจากการทำโพลล์สำรวจโดย atpress.ne.jp เว็บที่รวบรวมข้อมูลของการบริโภคสินค้าชนิดต่าง ๆ ในญี่ปุ่น เขาเปิดเผยผลสำรวจออกมาว่ามีคนญี่ปุ่นเพียง 38% เท่านั้น ที่กินชานมไข่มุกเพราะคิดว่ามันน่ากิน หรืออร่อย และมีถึงเกือบครึ่งคือ 48% ที่บอกว่าเขาซื้อชานมไข่มุกเพราะเป็นกระแสสังคม
จากจุดนี้ทำให้คุณโมเอโกะ โอโนะ นักวิชาการชาวญี่ปุ่น ได้ทำการวิเคราะห์และเจาะลึกลงไปอีก และพบว่าการซื้อชานมไข่มุกของคนญี่ปุ่นนั้น จริง ๆ เป็นเพราะความต้องการที่จะเข้าสังคม และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเท่านั้นเอง เทียบเท่ากับการดื่มเหล้าเพื่อเข้าสังคมนั่นแหละ
เขาบอกว่าคนที่ซื้อชานมไข่มุกส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นก็เป็นเด็กวัยรุ่น ที่กำลังอยู่ในวัยที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อน ๆ การเข้าคิวต่อแถวยาว ๆ เพื่อซื้อชานมไข่มุกเจ้าดัง นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเข้าสังคมที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยที่ได้ทำตามเพื่อน ๆ ไม่แปลกแยกจากเพื่อน แม้ในใจจริงจะไม่ได้อยากดื่มมันเลยก็ตาม
แต่ผลที่ตามมาก็คือ มีการค้นพบว่ามี “ขยะ” จากชานมไข่มุกจำนวนมากที่บางแก้วนั้นดื่มไม่หมด ถูกดื่มไปเพียงแค่นิดเดียว หรือแม้แต่ถูกทิ้งทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เจาะดื่มเลยก็มี นั่นก็เพราะว่าคนที่ทิ้งชานมไข่มุกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ดื่มนี้ เขาไม่ได้ต้องการที่จะดื่มมันแต่แรกอยู่แล้ว แค่ต้องต่อแถวซื้อเพื่อซื้อตามเพื่อน หรือซื้อมาถ่ายรูปลงในโซเชียล เฟซบุ๊ก ไอจี ไม่ก็ดื่มไปแค่นิดเดียวแล้วก็ถือเดินไปเดินมาทั้งวัน ให้มันดูเท่ ๆ ไปอย่างนั้นเอง
ทั้งนี้ก็เพราะว่าเจ้าชานมไข่มุกนี้แม้ว่ามันจะเป็นกระแส แต่มันก็มีแคลอรี่ค่อนข้างสูงครับ ยิ่งสาว ๆ ญี่ปุ่นที่กลัวอ้วน บางทีเขาก็กลัวที่จะต้องดื่มจริง ๆ แค่ซื้อมาถ่ายรูปหรือเดินถือไปทั้งวันก็ให้ความรู้สึกปลอดภัยและพอใจแล้ว พอไม่ต้องการก็โยนทิ้งไปเฉย ๆ ก็เหมือนกับการดื่มเหล้าเพื่อเข้าสังคม ซึ่งจริง ๆ บางคนไม่ได้อยากดื่มก็ไม่ดื่มเลย แต่ก็มักจะถูกคนรอบข้างบังคับให้ดื่ม ก็เลยต้องฝืนดื่มเพื่อให้เข้ากับคนอื่นได้
การทิ้งชานมไข่มุกนี้ นอกจากจะสร้างขยะจำนวนมากแล้วยังเกิดความสิ้นเปลืองอีกด้วย ก็มันน่าเสียดายอะเนาะ ยังไม่ทันกินเลยโยนทิ้งไปแล้ว จะเอาไปให้ใครกินต่อก็ยากเพราะน้ำแข็งมันละลายหมดแล้วรสชาติก็ไม่อร่อยเหมือนเดิม ซึ่งร้านค้าเขาก็ไม่สนใจหรอกนะ ยิ่งคนทิ้งมาก ก็แปลว่าเขายิ่งขายได้มากและได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็คาดกันว่าชานมไข่มุกจะเป็นกระแสในญี่ปุ่นอยู่ได้อีกแค่ไม่เกิน 6 เดือนเท่านั้นแหละ …
หลังจากนั้นเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นก็คงต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งใหม่เอามาไว้ถ่ายรูปลงไอจีกันแล้วล่ะนะ !
ข้อมูลอ้างอิง : atpress.ne.jp, toyokeizai.net
ติดตามบทความใหม่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้และเรื่องแปลก ๆ ของประเทศญี่ปุ่นทาง LINE TODAY: TALK TODAY จากผมได้ทุกวันเสาร์นะครับ
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติม
Facebook: Eak SummerSnow
Youtube: Eak SummerSnow
ความเห็น 17
เพราะคนไทย ติดหวาน จบนะ!
12 ต.ค. 2562 เวลา 01.01 น.
Tickety-Boo!!!🐈
อย่าว่าแต่ที่ญี่ปุ่นเลย..พี่ไทยก็ไม่ต่างกันซะเท่าไหร่หรอก.
ลองเปรียบเทียบ คนถือชานมไข่มุก 2 คน 2 แก้ว. คนแรกซื้อตามร้านข้างทาง แต่อีกคนซื้อออกมาจากห้าง คิดว่าใครเดิน"เท่ห์"กว่ากันล่ะ???
แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่ความพอใจกับเงินในกระเป๋า. ไม่ว่ากัน..นานาจิตตัง.😎
11 ต.ค. 2562 เวลา 19.37 น.
saansol
เม็ดสาคูหรือที่เรียกกันไข่มุกตัวเก็บเชื้อโรคเลย เพราะทำจากแป้ง
12 ต.ค. 2562 เวลา 08.32 น.
Khunkea999
เป็นการเข้าสังคม
ที่ราคาเบาๆมาก555+
แตกต่างจากพี่ไทย
วันไหนเราไม่ได้กิน
นี่ช่างไม่มีแรง
ต้องเต็มเบาหวานใส่ร่างนิ้ว
55+
12 ต.ค. 2562 เวลา 02.44 น.
บางครั้งในความแตกต่างก็ทำให้รู้ถึงในเรื่องของการสิ้นเปลืองได้เหมือนกันนะ.
12 ต.ค. 2562 เวลา 08.54 น.
ดูทั้งหมด