โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ดาราไม่ใช่สนามอารมณ์! เมื่อ 'ดารา' โต้กลับเกรียนคีย์บอร์ดด้วยกฎหมาย

LINE TODAY ORIGINAL

เผยแพร่ 16 ก.ย 2563 เวลา 17.00 น. • AJ.
ภาพโดย pikisuperstar / freepik.com
ภาพโดย pikisuperstar / freepik.com

อาชีพดาราต้องอดทนกับอะไรบ้าง?

คนธรรมดาอย่างเราเคยนึกสงสัยในคำถามนี้หลายต่อหลายครั้ง เพราะอาชีพดารานั้นช่างน่าสนุก เป็นที่รัก แถมรายได้ก็น่าจะเย้ายวนใจอยู่เหมือนกัน

แต่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เพราะนอกจากการ "ให้ความบันเทิง" ดารานักแสดงต้องเผชิญกับเหรียญอีกด้านของการเป็นคนดัง นั่นคือการสูญเสียความเป็นส่วนตัว ไปจนถึงการต้องคอยต่อกรกับบรรดาคอมเมนต์ในโลกโซเชียล ซึ่งจะดีหรือร้าย ก็แล้วแต่ชื่อเสียงที่ดาราคนนั้นสั่งสมมา

ดูอย่างข่าวบันเทิงสุดเดือดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อมีการเปิดเผยจากทนายคนดังว่ามีดาราสาวชื่อดังคนหนึ่งกำลังรวบรวมหลักฐานฟ้องร้องชาวเน็ต ที่คอมเมนต์รุนแรง นำมาซึ่งความเสียหายและทำลายชื่อเสียงแก่ตน หลังจากคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา หวยก็มาออกที่"แมท ภีรณีย์" ดาราสาวที่ตกเป็นเป้าของคำพูดเกลียดชัง (Hate Speech) มาพักใหญ่ ๆ จนเจ้าตัวต้องขอออกมาดำเนินคดีกับคนที่มุ่งร้ายกับตน

ไม่ใช่แค่ "แมท" แต่ยังมีนักแสดงและเซเลปหลายคนได้รับคอมเมนต์แย่ ๆ จากชาวเน็ตหนักมาก หลายคนเลือกไม่ทน และรับมือกับเกรียนคีย์บอร์ดด้วยวิธีบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าในบางสถานการณ์ คอมเมนต์เหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหาโรคซึมเศร้า และการทำร้ายตัวเอง

ว่าแต่เขา เราก็อย่าบูลลี่เสียเอง

แน่นอนว่าไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbully) ไม่เข้าใครออกใคร ต่อให้เป็นดาราระดับท็อปของโลกก็ยังหนีไม่พ้นความคิดเห็นของชาวเน็ต เซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez) นักร้องสาวที่เพิ่งออกซิงเกิ้ลใหม่กับ 4 สาว Blackpink เคยออกมาพูดว่าคอมเมนต์เหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตเธอ จนต้องไปบำบัดอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า และกล่าวว่าการกระทำเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการมาชี้หน้าต่อว่ากัน แต่คือการพยายามทำร้ายกันทางจิตวิญญาณสำหรับเธอ

ดูโพสต์นี้บน Instagram

#SELPINK is officially in your area. The song and video for Ice Cream are out now! 🍦 @blackpinkofficial

โพสต์ที่แชร์โดย Selena Gomez (@selenagomez) เมื่อ ส.ค. 27, 2020 เวลา 9:00pm PDT

เซน มาลิค (Zayn Malik) อดีตสมาชิกวงวันไดเรคชั่น (One Direction) เคยถูกคอมเมนต์เหยียดหยามอย่างหนักเนื่องจากเชื้อชาติของเขา เขาเปิดเผยว่าเคยถูกใส่ร้ายหลายเรื่อง ที่รุนแรงที่สุดคือการกล่าวหาว่าเขาเป็นผู้ก่อการร้าย และโจมตีครอบครัวของเขา ซึ่งเขารับไม่ได้และคิดว่าผลลัพธ์จะยังเป็นแบบนี้ไหม ถ้าคนที่พูดสิ่งเหล่านี้มาพูดกับเขาต่อหน้า ไม่ใช่ในโซเชียลมีเดีย

กรณีที่ใกล้ตัวเราเข้ามาหน่อยและกำลังดุเดือดเลยคือ เคสของ "คิม ฮีชอล" (Kim Heechul) สมาชิกวงซูเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) ตัดสินใจฟ้องร้องชาวเน็ตที่คอมเมนต์รุนแรงและประสงค์ร้ายต่อเขา การออกมาฟ้องร้องชาวเน็ตในประเทศที่ชาวเน็ตเป็นใหญ่ถือเป็นเรื่องฮือฮาพอสมควร ล่าสุดในเว็บไซต์ข่าวบันเทิงในเกาหลีใต้ ยังมีฟีเจอร์ปิดคอมเมนต์เพื่อป้องกันคอมเมนต์รุนแรงต่อดารานักร้องเลยทีเดียว

หลังจากเป็นข่าว ชาวเน็ตส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยกับการกระทำของเขา หลายคนสนับสนุนให้มีบทลงโทษจริงจัง โดยคิม ฮีชอลได้การกล่าวถึงเพื่อนสนิทที่อยู่บนฟ้า (หลายคนเดาว่าคือซอลลี่ (Sulli) อดีตไอดอลสาววงเอฟเอ็กซ์ f (X) ซึ่งวันที่ 14 ต.ค.นี้จะเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายของเธอพอดี สมัยที่ยังมีชีวิต ซอลลี่เป็นกระบอกเสียงเรื่องสิทธิสตรี และมักแสดงความคิดเห็นเรื่องความเท่าเทียมอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่อต้านเธอ) พร้อมทั้งยืนยันหนักแน่นว่าจะดำเนินคดี เพราะต้องการเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ และพิสูจน์ว่าเมื่อมาเจอกันที่โรงพัก พวกเขายังจะกล้าพูดอย่างที่พิมพ์ในโลกโซเชียลหรือไม่

ดูโพสต์นี้บน Instagram

จากกรณีที่คุณ พจนีย์ หุ่นน้อย ได้ด่าทรายผ่านคอมเมนต์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และทรายได้ตั้งทนายเพื่อทำการฟ้องร้อง จนศาลประทับรับฟ้องไปเรียบร้อย คุณพจนีย์ได้รับหมายศาลแล้ว จึงติดต่อผ่านทนายเข้ามาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินหกหลักพร้อมกระเช้าของกำนัล เพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคอมเมนต์ของคุณพจนีย์ และเพื่อให้ทางทรายถอนคำฟ้อง เช้าวันนี้(29 กรกฎาคม 2563) คุณพจนีย์พร้อมพี่สาว เดินทางมาพบเพื่อมอบเงินและกระเช้าของขวัญ พร้อมกล่าวขอโทษและยืนยันว่าจะไม่ทำเหตุการณ์เช่นนี้กับใครอีก ลูกได้ห้ามปรามในการเข้าถึงเฟซบุ๊คแล้ว และกล่าวว่าจริงๆชอบทรายมาก แต่วันนั้นด้วยความพลั้งเผลอให้อารมณ์พาไป เลยแสดงความคิดเห็นในเชิงหมิ่นประมาทและให้ร้ายออกมา และพยายามจะเขียนคำขอโทษแต่ถูกลูกจำกัดการเข้าถึงในวันนี้ ซึ่งจะหาทางให้ลูกเขียนเพื่อโพสต์ลงหน้าเฟซบุ๊คส่วนตัวต่อไป ส่วนกระเช้าที่คุณพจนีย์มอบให้ ทรายนำไปมอบให้กับศูนย์ดูแลคนชราLiving Well ทางทรายเห็นว่าคุณพจนีย์พยายามแสดงความรับผิดชอบแล้ว จึงขอถอนฟ้อง และจะนำเงินค่าเสียหายที่คุณพจนีย์มอบให้ หลังจากหักค่าใช้จ่ายด้านทนายและธรรมเนียมศาล ไปส่งต่อให้กับน้องๆนักศึกษา ที่กำลังเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่ในขณะนี้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของน้องๆต่อไป คดีของคุณพจนีย์เป็นคดีแรกที่เคลียร์จบ ยังมีอีก6-7คดีที่ทำการด่าทอหมิ่นประมาททรายในลักษณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการค่ะ ขอให้แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์นี้อย่างสุภาพนะคะ แต่เปิดให้แชร์ได้แบบสาธารณะ และโปรดแชร์โพสต์นี้ไปโดยทั่วกันด้วย ขอบพระคุณค่ะ

โพสต์ที่แชร์โดย ITR Charoenpura (@itr) เมื่อ ก.ค. 29, 2020 เวลา 2:54am PDT

สำหรับวงการบันเทิงไทย ไม่นานมานี้หลายคนคงจำคดีที่ "ทราย เจริญปุระ" ดาราสาวออกมาฟ้องชาวเน็ตที่คอมเมนต์รุนแรงและก่อให้เกิดความเสียหายกับเธอ ซึ่งในกรณีนี้ ทรายยื่นฟ้องร้องในข้อหาดูหมิ่นโดยการโฆษณา รังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย เรื่องจบลงโดยการที่คู่กรณีตกลงแสดงความรับผิดชอบ พร้อมจ่ายค่าเสียหายชดเชย ทำให้ทรายถอนคำฟ้อง โดยคดีนี้นับเป็นเคสตัวอย่างให้ชาวเน็ตสายเกรียนได้เรียนรู้ ว่าในโลกที่ทุกคนไร้ตัวตน การเที่ยวสาดสีเทสีใส่คนมีชื่อเสียงก็อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้เหมือนกัน

สนามอารมณ์ที่พร้อมตอบโต้

เราคุ้นเคยกับการแปะป้ายให้ดาราเป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งทำให้หลายคนถือว่าพวกเขาต้องใช้สถานะ "ดารา" ในการรับมือกับทุกคำวิจารณ์หรือคอมเมนต์ ไม่ว่าประโยคเหล่านั้นจะเลวร้ายหรือบั่นทอนจิตใจแค่ไหน แต่จากความในใจและปฏิกิริยาของดาราหลาย ๆ คนต่อชาวเน็ตแล้ว ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าหรือ "คำวิจารณ์" ของใครหลายคน แท้จริงคือระเบิดเวลาลูกโต ที่รอวันปะทุเมื่อคนได้รับไม่ขออดทนอีกต่อไป

-

อ้างอิง

bbc.co.uk

thestar.com

soompi.com

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0