ห้ามพลาด! 5 สถานที่สุดฮิตขอแฟนให้ทัน“วันวาเลนไทน์” ใครโสดคลิกด่วน!
ใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามาทุกที หลาย ๆ คนก็ยังรอใครสักคนมานานจนเริ่มรำคาญว่าจะมีวันแห่งความรักนี้ไปเพื่อ ??? บางคนก็มีมาแต่ว่าไม่ถูกใจ คบกันไปก็มีแต่แย่ลง บางคนที่ความรักเหมือนจะมั่นคงก็โดนเทลงซะอย่างนั้น วันนี้ ถึงแม้คุณผู้อ่าน จะมี - ไม่มีความรัก หรือมีความรักไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เราก็ขอแนะนำสถานที่ให้ไปขอพรเรื่องความรักรับวันวาเลนไทน์ กับ 5 สถานที่ไหว้เสริมดวงความรักสายมูมีคู่หรือไม่มีคู่ก็ต้องไปโดน! รอบกรุงเทพฯ ให้อุ่นใจ ไม่ต้องเสียสตางค์ไปหาหวังต้าเซียนไกลถึงประเทศนอก เพราะของแบบนี้อยู่ที่กำลังใจนี่นะ และเขาก็ว่า คู่กันมันต้องสมพงษ์กันทุกอย่างแม้กระทั่งดวงกันด้วย ไม่แน่ว่าไปไหว้แล้ว ความรักจะสดใสซาบซ่าเพราะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หรือคนโสดก็จะได้เจอคู่กันตรงสถานที่ไหว้นี่ล่ะ !
พระตรีมูรติ
พระตรีมูรติ เป็นภาคที่เกิดจากการรวมองค์ของ 3 มหาเทพ ในศาสนาพราหมณ์ ได้แก่ "พระพรหม" ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่ง "พระนารายณ์" ผู้รักษาความดีงาม และ "พระศิวะ" ผู้ทำลายความชั่วร้ายทั้งปวง ทำให้การรวมตัวเป็นพระตรีมูรตินั้นทรงพลานุภาพยิ่งขึ้นในทุกด้าน รวมทั้งด้านประทานความรักอีกด้วย ซึ่งการที่พระองค์ได้รับการขนานนามให้เป็นเทพเจ้าผู้ประทานความรักอีกองค์หนึ่งนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะ “ความรัก” คือสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในโลก ทั้งในด้านการสร้างสรรค์ หรือการทำลายก็เช่นกัน
ที่สำคัญคือกระแสปากต่อปาก ที่ Confirm จากผู้คนที่มาทดลองกราบไหว้ขอพระเรื่องความรัก ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (เช่น เป็นความรักต้องห้าม ผิดคู่ผิดตัวแย่งแฟนชาวบ้าน) ก็มักจะประสบความสำเร็จเสมอ ส่วนจุดสักการะสำคัญ ก็คงหนีไม่พ้น พระตรีมูรติ เซ็นทรัลเวิลด์
สถานที่: บริเวณหัวมุมด้านซ้ายของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงข้ามกับพระพรหม โรงแรมเอราวัณ
เวลาที่ควรไปขอพร: สามารถเดินทางไปสักการะได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่เวลาที่ดีที่สุด ควรไปบูชาในวันพฤหัสบดี เวลา 9.30 น. และ 21.30 น. เพราะเชื่อกันว่าเป็นฤกษ์ยามที่มหาเทพจะเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อรับคำอธิษฐาน
ของไหว้: ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 1-2 เล่ม กุหลาบแดงและผลไม้สีแดง
โดยผู้ที่ยังโสดให้ไหว้ด้วยเทียน 1 เล่ม เพื่อเป็นการขอพรให้พบคู่โดยพลัน
ส่วนผู้ที่มีคู่อยู่แล้วให้ไหว้ด้วยเทียน 2 เล่ม โดยประกบให้เทียนคู่แนบชิดกัน
พระลักษมี
พระลักษมี เป็นชายาของพระนารายณ์ โดยกำเนิดในดอกบัวที่เกิดขึ้นจากการกวนเกษียรสมุทรทำน้ำอมฤตของเหล่าเทวดาและอสูร ซึ่งเป็นเหตุแห่งการกำเนิดสรรพสิ่งมากมายตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ โดยพระนางได้รับยกย่องเป็นเทพีแห่งความรักองค์หนึ่ง เนื่องจากทุกภพทุกชาติที่พระนารายณ์จะต้องอวตารไปปราบยุคเข็ญนั้น พระนางก็ได้อวตารตามลงไปปรนนิบัติรับใช้โดยไม่ย่อท้อ นอกจากนี้พระนางยังเป็นเทพีแห่งความร่ำรวย โชคชะตา ความงามและความอุดมสมบูรณ์ จึงเชื่อกันว่าการบูชาพระองค์นั้นจะนำความรัก ความสมบูรณ์ให้ชีวิตครอบครัวอีกด้วย และใครที่ยังไม่มีคู่ก็จะได้พบกับ “รักแท้”
ด้วยเหตุที่พระลักษมีเป็นเทวีแห่งความงาม ช่างศิลป์ต่าง ๆ จึงมักทำรูปพระนางให้เป็นหญิงที่งดงามที่สุด ตามตำนานกล่าวกันว่า พระนางมีพระวรกายเป็นสีทอง ทรงพัสตราภรณ์สีเหลือง แดง หรือ ชมพู ประทับนั่งหรือยืนบนดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ บางครั้งก็ประทับบนหลังช้าง ทรงมี 4 พระกรเมื่ออยู่โดยลำพัง รัศมีของพระลักษมีสุกปลั่งเป็นประกายอย่างสายฟ้าแลบ กลิ่นหอมจากพระวรกายเหมือนกลิ่นดอกบัว ซึ่งหอมไกลไปทั่วทุกสารทิศ สถานที่บูชายอดนิยมของพระองค์ ก็คือที่ เกษรวิลเลจ
สถานที่: บนดาดฟ้าชั้น 4 เกษรวิลเลจ ( Gaysorn Village )
เวลาที่ควรไปขอพร: สักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 -18.00 น.
ของไหว้: ธูป 9 ดอก และที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ ดอกบัวสีชมพู
ภาพประกอบ pantip.com/topic/37920922
พระอุมาเทวี
พระแม่อุมาเทวีนั้น ทรงมีศรัทธาและรักมั่นคงต่อองค์พระศิวะ โดยมีตำนานว่า เมื่อครั้งอดีต พระนางได้กำเนิดเป็นธิดากษัตริย์ นามว่า “พระสตี” ในคราวที่พระศิวะ อวตารลงมาในภาคของ “มุนีภพ” เพื่อเสริมสร้างบารมี ด้วยการบำเพ็ญตน บำเพ็ญตบะ ในชุดนุ่งห่มแบบปอน ๆ ไว้ผมหนวดเครารุงรัง ชอบนอนตามป่าช้า ร่างกายมีกลิ่นตัวเหม็นสาบ ด้วยบุญกรรมที่สร้างสมกันมาแต่ก่อน ทำให้พระนางสตีมองเห็นรูปกายที่แท้จริงว่าพระมุนีภพองค์นี้ก็คือภาค พระนางสตีจึงตกลงใจอยู่คอยรับใช้ดูแลในฐานะชายา แต่มาเมื่อพระบิดาของพระองค์ตรัสวาจาหยามหมิ่นพระสวามีต่อที่ประชุมทวยเทพในพิธีบูชายัญ พระนางจึงแสดงความภักดีต่อสวามีโดยการเผาองค์เอง จนแม้ในชาติที่พระองค์อุบัติมาใหม่ ก็ยังได้ถวายรับใช้พระศิวะ ดังนั้นการบูชาพระอุมาเทวีจึงบันดาลผลให้ มีคู่ครองแบบมั่นคง ต้องเชิญแนะนำมาสักการะพระแม่อุมาเทวี โดยเฉพาะที่ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี
สถานที่: วัดแขก สีลม และหรือจะบูชาที่สี่แยกราชประสงค์ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ ก็ได้
เวลาที่ควรไปขอพร: สำหรับวัดแขก สีลม เปิดให้สักการะใน วันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 06.00 - 20.00 น.
ของไหว้: ดอกไม้สีเหลืองและสีแดง เช่น ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ ควรมีธูปหอมหรือกำยานจุดให้ส่งกลิ่นหอม หรือเครื่องหอมอื่น ๆ ก็ได้ ขนมลาดู โมทกะ ผลไม้ และธัญพืช
ภาพประกอบ https://thedeskgram.com
พระกฤษณะวัดเทพมณเฑียร(เสาชิงช้า)
เป็นอวตารของพระนารายณ์ปางหนึ่ง ทั้งยังทรงเป็นต้นกำเนิดของคัมภีร์ "ภควัทคีตา" หนึ่งในคัมภีร์สำคัญของคัมภีร์พระเวททั้งเป็นพระเจ้าสูงสุดของนิกายฮเรกฤษณะอีกด้วย โดยเมื่อพระกฤษณะนั้นเกิดในวงศ์กษัตริย์ จึงไม่น่าแปลกใจที่พระองค์จะมีสนมมากถึง 10,000 คน แต่ถึงอย่างไรท่านก็มีจิตใจรักมั่นต่อพระนางราธา หรือ “พระแม่ราธาราณี” อวตารของพระลักษมี เป็นหญิงเลี้ยงวัว รักแรกของพระกฤษณะ และรักครั้งนั้นประทับในใจของพระกฤษณะตลอดจนชั่วอายุขัย
สำหรับสถานที่บูชาพระกฤษณะที่นิยมนั้น ก็ที่วัดเทพมณเฑียร บริเวณเทวาลัย ชั้น 3 ข้างโรงเรียนเบญจมราชาลัย ซึ่งความรักที่มั่นคงของพระกฤษณะนั้น ทำให้ผู้มีคู่ครองส่วนใหญ่จะมาขอพรให้ความรักของตนมั่นคงเหมือนพระกฤษณะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยพบพานความรักก็มักจะมาขอให้พบรักแรกที่จะติดตรึงใจไปตลอดกาล
สถานที่: โบสถ์เทพมณเฑียร ใกล้กับเสาชิงช้า ฝั่งตรงข้ามวัดสุทัศน์เทพวราราม
เวลาที่ควรไปขอพร: ถ้าอยากได้รับพลังสายมูเต็มที่ แนะนำให้ไปในช่วงที่มี “พิธีอารตี” คือพิธีถวายไฟแก่เทยเทพในช่วงเช้า 6.00 – 8.00 น. (ในวันอาทิตย์ มีจนถึง 10.00 น. หรือ 11.30 น.) และตอนเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลา 18.30-19.30 น.
หรือถ้าใครไม่สะดวกก็ไปในช่วงที่เทวาลัยเปิดให้เข้าสักการะก็ได้คือ
- วันจันทร์ถึงวันพฤหัส ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 – 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.30 น.
- วันศุกร์ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8.30 – 12.00 น. ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 17.00 – 20.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ รวมทั้งวันหยุดต่างๆ เปิดให้เข้าได้ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 8.30 – 20.30 น.
ของไหว้: ดอกไม้ ผลไม้ ธัญพืช และเครื่องหอมเบื้องต้นเช่นเดียวการถวายทวยเทพฮึนดูทั่วไป แต่ต้องเตรียมไปเองเพราะที่วัดไม่มีจำหน่ายนะจ๊ะ นอกจากนี้พราหมณ์และเจ้าหน้าที่ภายในวัด ยังยินดีเบิกเนตรเจิมองค์พระให้เรากลับไปบูชาอีกด้วย
ภาพประกอบ http://inthailand-mag.blogspot.com
ศาลย่านาควัดมหาบุศย์
ถ้าพูดถึงเรื่องตำนานความรักอมตะของไทยแล้วล่ะก็ เรื่องราวของ “แม่นาคพระโขนง” ย่อมติดอันดับต้น ๆ ซึ่งหลายคนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่า จากการศึกษาค้นคว้าของ “เอนกนาวิกมูล” นักประวัติศาสตร์อิสระนั้น ได้พบหลักฐานว่า เรื่องราวของ "อำแดงนาค" นั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 3 ทว่าสามีของอำแดงนาคนั้น ชื่อ “นายชุ่ม”
แต่ต่อมาเมื่อมีการนำเรื่องราวความรักอมตะ ที่แม้ตัวตายแต่ความรักยังคงอยู่นั้น มาแสดงเป็นละครในชั้นหลัง ๆ จึงได้ปรับให้ใช้ชื่อสามีของอำแดงนาก ว่า “มาก” เพื่อการร้องที่คล้องจองกัน และสืบเนื่องจากตำนานเก่าแก่นี้ ทำให้มีศาลของ “อำแดงนาค” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ย่านาค” อยู่ที่ วัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง โดยมีความเชื่อว่าใครที่มาขอพรเรื่องความรักมักจะสมหวัง เนื่องจากตัวย่านาคเองเป็นผู้มีความรักมั่นคง ทว่าไม่ได้ครองรักกันกับสามียาวนาน จึงมักให้พรด้านความรักผู้ที่ไปกราบไหว้ให้ยืนยงยาวนาน นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องผ่อนผันทหาร ใครอยากจะได้ใบดำไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารก็มักจะมาขอกันที่นี่ และสมหวังกันไปหลายราย
การสักการะบูชาให้จุดธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย โดยอาจจะซื้อผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกมาพันรอบต้นไม้ บางคนถวายของไหว้ เช่น ชุดไทย สำหรับแม่นาค หรือชุดเด็กและของเล่นเด็กสำหรับลูกแม่นาค บางคนก็เอารูปวาดที่จินตนาการว่าเป็นแม่นาคมาถวาย รูปแบบของการบูชาก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน
สถานที่: วัดมหาบุศย์ เดินทางโดยใช้ BTS ลงสถานีอ่อนนุช เข้าซอยสุขุมวิท 77/1
เวลาที่ควรไปขอพร: ศาลย่านาค จะเปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 17.00 น แต่ถ้าวันที่ 15 กับวันที่ 30 ของเดือน จะเปิดทั้งคืน
ของไหว้: การสักการะด้วยธูป 2 ดอก พร้อมดอกไม้หรือพวงมาลัย โดยอาจจะซื้อผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกมาพันรอบต้นไม้ด้วยก็ได้ หรือถ้าจะจัดเต็มก็ถวายของไหว้ พร้อมผ้านุ่งสำหรับย่านาค หรือชุดเด็กและของเล่นเด็กอ่อนด้วยก็ได้
*******************
ข้อมูลเพิ่มเติม:
https://travel.kapook.com/view165597.html
http://travel.trueid.net/detail/0l8RYGM9BN0
https://www.sanook.com/horoscope/58645/