รวมเพื่อนบ้าน-คนข้างห้อง ที่ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้

ที่เขาว่า “มีเพื่อนบ้านดี ก็เหมือนถูกหวย” นั้นคงไม่เกินจริงไปนัก เพราะก่อนซื้อบ้านหรือย้ายเข้าห้องพักสักห้อง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะได้ ’เพื่อนบ้าน’ แบบไหน การพบปะพูดคุยแนะนำตัวเป็นเพียงความประทับใจแรกพบ แต่เมื่อย้ายเข้าไปอยู่จริง นั่นจึงเป็นเรื่องจริงที่ต้องเจอ ‘เพื่อนบ้าน’ จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถล่วงรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะได้อยู่ใกล้กับคนแบบไหน เข้ากันได้หรือไม่ และยิ่งสถานการณ์โควิดที่ทำให้เราต้องอยู่แต่ในบ้าน ก็เหมือนการใช้ชีวิต ‘อยู่ข้างๆ’ กับเพื่อนบ้านแทบตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งอยู่นานยิ่งได้เห็นมุมที่อาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน สัปดาห์นี้เราได้รวมเอา 6สไตล์เพื่อนบ้านที่พบบ่อยๆ และวิธีรับมือกับเพื่อนบ้านผู้น่ารักเหล่านั้น เพราะเราต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนานแสนนาน

1. เพื่อนบ้านสายเซอร์

ลองนึกภาพสนามหญ้ารกๆ ต้นไม้เขียวขจีแต่ไม่มีระเบียบ อาจเป็นหญ้าขึ้นสูงน่าหวาดเสียวจะมีตัวอะไรอาศัยอยู่ในนั้น รวมไปถึงไม้ใหญ่-ไม้เลื้อยที่แผ่กิ่งก้านใบพาดมาเกะกะยังพื้นที่สาธารณะ หรือบ้านข้างๆ และที่สำคัญคือเป็นบ้านของคุณ

วิธีรับมือ: การเจรจาพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นที่จะแก้ปัญหานี้ได้ อาจเริ่มต้นด้วยการแนะนำเบอร์โทรร้านรับตัดหญ้า รับจัดสวน ราคามิตรภาพ หรือขออนุญาตจัดการกับกิ่งก้านที่ข้ามส่วนมาในบ้านของคุณเพื่อระเบียบเรียบร้อยในส่วนที่เป็น ‘พื้นที่ของคุณ’

2. เพื่อนบ้านอันตราย

ในที่นี้นับรวมหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ร้าย ส่งเสียงโวยวาย ทะเลาะกันเองในบ้านบ่อยๆ หรือจะเป็นการเลี้ยงสัตว์ดุร้ายน่ากลัว อย่าทำเป็นเล่นไป หากคุณเพิ่งรู้ว่าห้องข้างๆ หรือเพื่อนบ้านเลี้ยงงู แมลงป่อง หรือเป็นหมาร็อตไวเลอร์สุดดุสักตัว คุณจะไม่เอะใจกลัวสักนิดเลยจริงๆ เหรอ

วิธีรับมือ : สิ่งแรกที่ทำได้คงเป็นเพียงการนิ่งเฉยก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารมณ์ร้ายของเพื่อนบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงชวนขนลุก ทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ ‘ในบ้าน’ ของเขา แต่หากเกิดมีลูกหลงข้ามฝั่งมายังบ้านของคุณ ก็กดโทรศัพท์หา รปภ., หน่วยกู้ภัย หรือโทรหาคุณตำรวจให้ไวเลย

3. เพื่อนบ้านผู้มั่งมี และ … ขี้อวด

เชื่อว่าหลายคนคงเคยเจอเพื่อนบ้านผู้แสนดี เพียบพร้อมไปหมดทั้งทรัพย์สินศฤงคาร สามีแสนดีมีภรรยาน่ารักและลูกน้อยเรียนเก่งเป็นอัจฉริยะดุจไอน์สไตน์ และทั้งหมดนี้คุณจะรู้ได้อย่างไรกันหากเขาไม่มาเล่าให้ฟังอยู่เป็นนิจ จนไม่รู้จะรู้สึกอิจฉาหรือว่ารำคาญก่อนดี

วิธีรับมือ : อย่าได้เก็บเอาสิ่งเหล่านั้นมากดดันจนชีวิตครอบครัวของคุณจนหมดความสุข ชีวิตครอบครัวของใครของมัน แค่ดูแลซึ่งกันและกัน สมาชิกในบ้านเข้าอกเข้าใจกัน นั่นก็น่าจะเพียงพอแล้วกับการเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องของเพื่อนบ้าน หากเขาอยากจะเล่าสู่กันฟังก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เขาอยากแบ่งปัน แค่ยิ้มและยินดีไปกับเขาไปก็แล้วกัน

4. เพื่อนบ้านจอมตีเนียน

เพื่อนบ้านที่เป็นกันเองกับเราเสียเหลือเกิน จนบางทีก็ล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว ยกตัวอย่างเช่นการถือวิสาสะเดินเข้ามาหาคุณถึงในบ้าน อาจเข้ามาเพื่อมาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของคุณ หรือมาขอยืมของใช้บ้านคุณไปบ่อยๆ แล้วทำเป็นลืม และคุณเองก็เขินที่จะเอ่ยปากทวงบ่อย ๆ

วิธีรับมือ : ลองมองในแง่ดี เขาอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้นะว่ากำลังล้ำเส้นความเป็นเพื่อนบ้านที่(ไม่)น่ารักเข้าให้แล้ว คุณเองต้องใจเย็นๆ อาจเริ่มจากการปรับพฤติกรรมของคุณเอง หันมาล็อกประตู/รั้วบ้านให้ชินมือ และหากต้องทวงของที่ยืมลืมไปก็ลองใช้การ ‘ถามถึง’ เพราะคุณมีความจำเป็นต้องใช้เข้าให้แล้ว แต่หากเพื่อนบ้านของคุณเข้าใจอะไรยาก ก็คงต้องพูดตรงๆ กันสักที แต่ก็อย่าใช้อารมณ์เชียวล่ะ

5. เพื่อนบ้านที่อยู่กันด้วยความสงบยากเสียเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็นเสียงของงานปาร์ตี้ที่ครึกครื้น, เสียงของสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก รวมถึงเสียงกิจกรรมต่างๆ ทุกชนิดที่ดังจนคุณไม่สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตอย่างสงบได้ บางทีคุณก็อยากนอนหัวค่ำ หรืออยากตื่นมาสัมผัสความสงบบยามเช้าเพื่อชาร์ตแบตก่อนทำงาน แย่ไปกว่านั้นคือการส่งเสียงแทรกในขณะที่คุณกำลังประชุมออนไลน์

วิธีรับมือ : อย่าลืมว่า ‘เพื่อนบ้าน’ ส่วนใหญ่จะต้องอยู่กับเราไปอีกนานแสนนาน ดังนั้นอย่าเพิ่งต่อว่าต่อขานด้วยอารมณ์แห่งความหงุดหงิดรำคาญใจ เพราะคงไม่ดีแน่ๆ ถ้าหากไปสะกิดความรู้สึกขุ่นเคืองด้วยถ้อยคำที่มาจากอารมณ์ที่หงุดหงิด เพราะอาจนำไปสูการทะเลาะวิวาทได้ หากเป็นกรณีเล็กน้อยลองพูดคุยกันดีๆ แต่ถหากไม่สามารณติดต่อเจรจาได้ แนะนำให้หาคนกลางอย่างทีมรักษาความปลอดภัย หรือไม่ก็คงต้องถึงมือเจ้าหนี้าที่กันแล้วล่ะ

6. เพื่อนบ้านช่างเม้าท์

เพื่อนบ้านที่มีความเป็น‘ผู้รอบรู้’ ที่รู้จัก รู้ลึก รู้เรื่องของทุกคนในระยะรัศมีหลายกิโลเมตรรอบๆ บ้าน เป็นคนที่มีความช่างสังเกต และเป็นนักประชาสัมพันธ์ชั้นดี มีอะไรก็อยากอัปเดตเล่าสู่กันฟัง… และคิดว่าเรื่องของคุณจะหลุดหูรอดตาของเขาไปได้เหรอ

วิธีรับมือ : อย่าพยายามแก้ความถนัดของเพื่อนบ้านเพราะนั่นเป็นการเสียแรงเปล่า ลองหันมารักษาความเป็นส่วนตัวของคุณไว้ให้มากที่สุด อย่าได้หลุดบ่นเรื่องส่วนตัวในบ้านให้ถึงหูเพื่อนบ้านได้รู้เป็นอันขาด ส่วนเรื่องของบ้านอื่นนั้น ฟังผ่านๆไปก็แล้วกันถ้าเลี่ยงไม่ได้

แล้วคุณล่ะ มีเพื่อนบ้านน่ารักขนาดไหน ลองเล่าสู่กันฟังได้สนุกๆ ในคอมเมนต์กันได้เลย

ข้อมูลบางส่วนจาก hgtv.com