271 วันแห่งขุมนรกของหนูน้อยกำพร้าพ่อแม่ชาวเกาหลีใต้คนนี้..หลับให้สบายนะ 'จองอิน' - พุธนี้คดีสยอง

เราได้รู้จักกับ 'หนูน้อยจองอิน' ครั้งแรกผ่านรูปถ่ายที่ถูกแชร์บนอินเตอร์เนตของเธอ ในภาพเธอมีอายุเพียงแค่ 8 เดือนและสิ่งที่สะกดใจให้ทุกคนต้องตกหลุมรักหนูน้อยคนนี้ก็คือรอยยิ้มอันแสนสดใสและบริสุทธิ์ของเธอ จองอินคือเด็กกำพร้าที่ถูกแม่บังเกิดเกล้านำมาทิ้งไว้หน้าโบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงโซล เมื่อเธอมีอายุได้ 8 วัน ภายใต้การเลี้ยงดูของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอคือเด็กหญิงที่มีสุขภาพกายที่ดีและร่าเริงสดใสเอาเสียมาก ๆ ไม่ว่าใครได้เจอกับจองอินก็ต้องรู้สึกรักและเอ็นดูเด็กคนนี้ รวมไปถึงคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ตกลงใจเซ็นเอกสารรับเลี้ยงเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2019 

ทุกคนหารู้ไม่ว่าการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของจองอินในครอบครัวที่ดูเหมือนจะเพอร์เฟกต์ กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น และพาเธอไปสู่จุดจบของชีวิตในเวลาอันแสนสั้น ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นล้วนเกิดจากน้ำมือของพ่อแม่ที่ทุกคนต่างก็ยกย่องว่าเป็นคนใจบุญทั้งสิ้น

.

.

พ่อบุญธรรม "อัน" และแม่บุญธรรม "จาง" คือคู่สามีภรรยาที่มีหน้ามีตาในสังคมชาวคริสต์ พ่อของทั้งคู่เป็นบาทหลวงและครอบครัวของทั้งสองก็ช่วยเหลืองานในโบสถ์อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาแต่งงานสร้างครอบครัว มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนก่อนที่จะรับจองอินมาเป็นลูกสาวอีกคนของบ้าน  ท่ามกลางคำสรรเสริญเยินยอ ความจริงทั้งหมดก็เริ่มถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อครั้งที่ทั้งคู่พาทั้งครอบครัวไปออกรายการโทรทัศน์เพื่อพูดเกี่ยวกับ 'การอุปการะเด็ก' ภาพของจองอิน เด็กน้อยที่มีแววตาเปล่งประกายไปด้วยความร่าเริง กลับถูกแทนที่ด้วยภาพของเด็กหญิงอายุ 1 ขวบร่างกายซูบผอม หน้าตาอมทุกข์ที่ดูหวาดระแวง และบาดแผลบนใบหน้า 

มีเพื่อนบ้านที่เป็นพยาน บอกว่าพวกเขาเคยเห็นบ่อยครั้งว่าสามีภรรยาคู่นี้ขังจองอินไว้ในรถระหว่างที่ตนเองลงไปซื้อของเป็นเวลาเกือบชั่วโมงกับลูกสาวอีกคน รวมไปถึงคุณครูประจำเนอร์สเซอรี่ของจองอินก็เคยนำเรื่องไปรายงานกับตำรวจพื้นที่ หลังจากที่เธอสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบนหน้า หู ขา คอ และท้องของจองอิน ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือเมื่อส่งเด็กหญิงไปให้คุณหมอตรวจอย่างละเอียด พวกเขาพบว่ากระดูกช่วงต้นคอกับไหปลาร้าของจองอินเริ่มร้าว ในตอนนั้นเป็นเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้นที่เธอเพิ่งได้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวนี้ 

ตำรวจไม่รับฟ้องคดีโดยให้เหตุผลว่าทางคุณครูมีหลักฐานไม่เพียงพอ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ พยายามเดินเรื่องอีกครั้งใน 2 เดือนต่อมา หลังจากที่จองอินขาดเรียนไปสักพักใหญ่ ๆ และกลับมาด้วยสภาพซูบผอม ครูจึงรีบพาจองอินไปหาหมอและหมอก็วินิจฉัยว่าจองอินเป็นโรคขาดสารอาหารขั้นรุนแรง มิหนำซ้ำเธอกำลังถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักหน่วงและหมอก็แนะนำให้คุณครูติดต่อศูนย์รับเลี้ยงเด็กเพื่อแยกจองอินจากครอบครัวและหาบ้านใหม่อย่างเร็วที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยดำเนินเรื่องกลับพาจองอินไปตรวจโรคที่คลินิกอีกแห่ง ที่ ๆ อันและจางมีคอนเนกชั่น สนิทสนมกับเจ้าของ หมอวินิจฉัยเพียงแค่ว่าจองอินมีแผลติดเชื้อในช่องปากทำให้เธอไม่เจริญอาหารและซูบผอม แล้วส่งเธอกลับบ้าน บ้านที่เป็นขุมนรกบนดินของเธออีกครั้ง

ภาพพัฒนาการของจองอิน จากบล็อกของ Shafiqah Othman" data-width="480" data-height="600">

12 ตุลาคม 2020 จองอินถูกส่งไปที่เนอร์สเซอรีตามปกติ แต่คราวนี้ในสภาพที่ย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมคือเธอไม่สามารถเดินได้และดูเหม่อลอย คุณครูคนเดิมสังเกตเห็นว่าบริเวณท้องของเธอบวมออกมาและเด็กหญิงปฏิเสธที่จะทานอาหาร ถึงจะยอมดื่มนมได้ 2-3 คำแต่เมื่อดื่มเสร็จ ร่างกายของเธอกลับสั่นหนักและตามมาด้วยอาการหอบ พ่อบุญธรรมของเธอพยายามพิสูจน์ว่าลูกสาวของเขาปกติดีโดยบังคับให้จองอินเดินให้คุณครูดู แต่ครูก็ยืนยันคำเดิมว่าอาการของเธอค่อนข้างน่าเป็นห่วง ให้รีบพาจองอินไปโรงพยาบาล ยิ่งเร็วที่สุดก็ยิ่งดี

ช่วงสาย ๆ ของวันต่อมา เพื่อนบ้านในอพาร์ตเมนต์เดียวกันได้ยินเสียงจางตะโกนเหมือนกำลังตวาดใครสักคน และมีเสียงวัตถุหนัก ๆ กระทบกับพื้น 4-5 ครั้ง พวกเขารีบวิ่งขึ้นไปดูด้วยความเป็นห่วงแต่จางกลับแง้มประตูแล้วบอกพวกเขาว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างโอเค จากนั้นเธอก็พาลูกสาวไปส่งที่โรงเรียนและไปชอปปิ้งเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนกลับมาที่บ้าน ระหว่างนั้นไม่มีใครรู้ว่าจองอินอยู่ที่ไหนจนถึงช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จางเรียกแท็กซี่เพื่อพาหนูน้อยจองอินไปโรงพยาบาล อาการของเธอในตอนนั้นคือหน้าเริ่มเปลี่ยนสีกลายเป็นสีม่วงและหมดสติไปแล้ว เมื่อไปถึงมือหมอ เธอก็รีบถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในทันที

หมอพยายามช่วยชีวิตของเธอและจองอินก็สู้สุดพลังเช่นกัน แต่ด้วยสภาพที่บอบช้ำและสาหัสมาก ๆ ทำให้จองอินบอกลาโลกในวันที่ 13 ตุลาคม 2020 ด้วยอายุเพียง 16 เดือน

ผลการชันสูตรศพคอนเฟิร์มสาเหตุของการตายว่าจองอินถูกทรมานตั้งแต่ส่วนศีรษะจรดปลายเท้าอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน และจากประสบการณ์กว่า 20 ปีของคุณหมอคนนี้ เคสของจองอินร้ายแรงที่สุด เขาพบว่าตับอ่อนของเธอแตกทำให้เลือดออกในช่องท้อง 80% ของของเหลวที่อยู่ในท้องก่อนที่เธอจะเสียชีวิตคือเลือด ที่น่าแปลกใจคือแม้แต่ในอุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดก็ไม่สามารถทำให้ตับอ่อนฉีกขาดได้ยับเยินขนาดนี้ ระหว่างการสืบสวนคดีนี้ มีรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่ชื่อว่า "Unanswered Questions" ได้ทำการทดลองว่าอะไรจะเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้บ้าง และพวกเขาก็พบว่าวิธีเดียวที่จะทำให้เกิดแรงกระแทกมหาศาลที่จะทำให้ตับอ่อนแตกกระจายได้ก็คือการกระโดดจากโซฟาแล้วกระทืบลงมาที่หุ่นจำลอง

การวางตัวคนร้ายถูกพุ่งเป้าไปยังคู่สามีภรรยา อันและจาง ในทันที ภรรยาถูกแจ้งจับในข้อหาเจตนาฆ่าคนตายและทำร้ายร่างกายเด็ก แต่เธอก็ให้การปฏิเสธและบอกว่านี่คือการเข้าใจผิด สามีให้การปฏิเสธเช่นกันและบอกว่าเขาเองไม่รับรู้และไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำของภรรยา ถึงกระนั้น มีวีดีโอกว่า 800 คลิปที่ถูกใช้เป็นหลักฐานของคดีนี้ ทั้งหมดยืนยันว่าตลอดเวลา 271 วันที่จองอินย้ายมาอยู่กับครอบครัวอันและจาง เธอถูกทรมานด้วยวิธีแปลก ๆ ทุกวัน อย่างเช่น การให้อดอาหารเพราะแม่บุญธรรมไม่อยากจัดการกับอุจจาระที่เหม็นของเธอ การป้อนอาหารอุ่นร้อนที่เพิ่งยกออกมาจากไมโครเวฟในทันที การตบหน้าและเอามือฉีกปากเมื่อเธอร้องไห้ หรือแม้กระทั่งการบังคับให้เธอยกแขนและตีรักแร้เพื่อลงโทษ 

สิ่งที่จองอินเผชิญมาทั้งหมดทั้งมวลเลวร้ายเกินกว่าสิ่งที่เด็กอายุ 1 ขวบคนหนึ่งจะต้องมารับ ชาวเนตพากันติดแฮชแท็ก #SorryJungin เพื่อไว้อาลัยให้กับเธอและทุกคนก็เรียกร้องให้รัฐบาลปรับกฎหมายเรื่อง Child Abuse หรือคดีทำร้ายร่างกายเด็กให้มีโทษที่หนักขึ้น เริ่มต้นจากคดีนี้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องและคาดว่าจะมีการตัดสินคดีอีกทีภายในเดือนพฤษภาคม

ที่แน่ ๆ คือการตายของหนูน้อยจองอินครั้งนี้จะไม่สูญเปล่า และทั้งพ่อและแม่บุญธรรมจะต้องได้รับโทษที่สาสม หมดทุกข์หมดโศกแล้ว ขอให้หนูหลับให้สบายนะจองอิน…

อ้างอิง

เว็บไซต์ Medium

[Wikiepedia](https://en.wikipedia.org/wiki/Jung-in_case#:~:text=Jeong%2Din%20(Korean%3A%20%EC%A0%95%EC%9D%B8,injuries%20on%20October%2013%2C%202020.)