ท่ามกลางช่วงฤดูร้อนของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีค.ศ. 1988 ครอบครัวคนโนะประกาศตามหาลูกสาววัย 4 ขวบที่หายตัวไป ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาได้รับกล่องพัสดุปริศนาส่งมาจากบุคคลนิรนาม เมื่อเปิดออก สิ่งที่พวกเขาพบก็คือเศษผงสีขาว ด้านบนกองผงนั้นคือรูปถ่ายเสื้อผ้าของเด็กหญิงที่ใส่ครั้งสุดท้ายในวันที่เธอหายตัวไป มีฟันจำนวนหลายซี่อยู่ด้านในกล่อง และโปสการ์ดที่บรรจุข้อความว่า
"มาริ เผา กระดูก สอบสวน พิสูจน์"
เธอคือหนึ่งในเด็กหญิงที่กลายเป็นเหยื่อของ'สึโตมุ มิยาซากิ' ฆาตกรโรคจิตที่ออกป้วนเปี้ยนก่อคดีในเขตโตเกียวและไซตามะระหว่างปี 1988 ถึง1989 เขาคือฝันร้ายของพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีลูกสาวตัวน้อย ๆ เพราะเป้าหมายของเหยื่อที่สึโตมุเล็งไว้คือเด็กหญิงอายุไม่เกิน 7 ขวบ และแผนการในแต่ละครั้งของเขาก็ช่างพิสดารยิ่งนัก จนไม่มีใครสามารถไล่ตามได้ว่าการลงมือครั้งต่อไปของนักฆ่าคนนี้จะเป็นที่ไหน อย่างไร และเมื่อไร
กำเนิดฆาตกร
'สึโตมุ มิยาซากิ'เกิดในปี 1962 แม่ของเขาให้กำเนิดก่อนกำหนด ทำให้สึโตมุเกิดมาพร้อมกับปัญหาที่ข้อมือที่ไม่สามารถงอได้ตามปกติ จุดนี้กลายเป็นปมด้อยที่ทำให้เขาถูกแกล้ง ถูกเพื่อน ๆ รังแกตั้งแต่เด็ก และทำให้เขากลายเป็นคนที่เงียบขรึม ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว อยู่ในโลกส่วนตัวของเขาที่มีแต่เกมและหนังสือการ์ตูนในที่สุด
ครอบครัวของสึโตมุเป็นครอบครัวที่ทรงอิทธิพลในเขตอิสึไคชิของกรุงโตเกียว คุณพ่อของเขาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและทุกคนก็คาดหวังให้เขาสืบทอดกิจการนี้ในฐานะที่เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ซึ่งสึโตมุก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการตำแหน่งหรือหน้าที่การงานใด ๆ นั่นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อเป็นไปอย่างขรุขระ เขาเคยให้การกับตำรวจว่า "ทุกครั้งที่ผมพยายามจะเล่าปัญหาของตัวเองให้พ่อกับแม่ฟัง พวกเขาก็ทำท่ารำคาญและปัดผมออกไป" และในความเห็นของสึโตมุ พ่อกับแม่ก็มองเห็นแค่เพียงความสำเร็จทางวัตถุแต่ไม่เคยให้ความสำคัญหรือความอบอุ่นกับเขาแม้แต่น้อย
จากปมในวัยเด็กที่สั่งสมมา สึโตมุเริ่มสนใจและคลั่งไคล้ในเรื่องเพศ เขาเคยแอบถ่ายรูปใต้กระโปรงของเหล่านักเทนนิสหญิงที่สนาม แต่ก็เริ่มหมดความตื่นเต้นกับการได้เห็นเรือนร่างของหญิงสาวและหันมาเสพติดการดูหนังโป๊ที่มีเด็กเป็นผู้แสดงแทน มีเหตุการณ์ที่เขาแอบถ้ำมองน้องสาวตนเองขณะที่เธอกำลังอาบน้ำด้วย และเมื่อถูกจับได้เขาก็ลงมือทำร้ายเธอ ซึ่งความผิดปกติทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณปู่ผู้เป็นที่รักและเพื่อนสนิทคนเดียวในชีวิตของสึโตมุจากไป เขาเคยบอกว่าตนรู้สึกเหงาและเคว้งคว้างมาก ๆ หลังจากที่ไม่มีปู่แล้ว และแอบกินเถ้ากระดูกของปู่เข้าไปเพื่อที่จะได้รู้สึกอุ่นใจขึ้น
ออกล่าเหยื่อ
สึโตมุให้การกับตำรวจหลังถูกจับกุมว่า เขารู้สึกเดียวดายและเมื่อไรมองเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีเพื่อนเล่นด้วย เขาเหมือนได้มองเห็นตัวเอง นั่นอาจจะเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่ทำให้เขาเล็งเป้าไปที่กลุ่มของเด็กหญิงเหล่านี้
วันที่ 22 สิงหาคม 1988 สึโตมุลงมือลักพาตัว 'มาริ คนโนะ' เด็กหญิงอายุ 4 ขวบจากบ้านของเพื่อนเธอ เขาอุ้มเธอขึ้นรถแล้วขับไปจอดยังใต้สะพานแห่งหนึ่งทางตะวันตกของโตเกียว หลังจากที่นั่งเงียบ ๆ กับหนูน้อยเกือบครึ่งชั่วโมง เขาค่อยลงมือฆ่าเธอ ร่วมเพศกับร่างไร้วิญญาณของมาริ แล้วนำศพไปทิ้งที่เชิงเขาไม่ไกลจากบ้านของตัวเอง สึโตมุเก็บเสื้อผ้าของเด็กหญิงกลับบ้านไป เขาปล่อยให้ศพของเธอเน่าเปื่อยไปสักระยะก่อนจะหวนกลับไปตัดมือและเท้ากลับมาเก็บเอาไว้ที่บ้าน เผาร่างที่เหลือ บดเถ้ากระดูกจนกลายเป็นผงละเอียดก่อนที่จะส่งกลับไปยังบ้านของเธอพร้อมกับข้อความปริศนา
วันที่ 3 ตุลาคมในปีเดียวกัน สึโตมุก่อเหตุครั้งที่ 2 โดยเหยื่อของเขาในครั้งนี้เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ เธอถูกลักพาตัวเธอขึ้นรถเหมือนกับมาริก่อนที่เขาจะฆ่า กระทำชำเราศพ และเก็บเสื้อผ้าของเหยื่อกลับบ้าน…
คดีที่ 3 เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใน 2 เดือนให้หลังการเสียชีวิตของเหยื่อรายก่อนหน้าเพียงเท่านั้น สึโตมุเริ่มต้นแผนของเขาตามเดิม เขาบังคับให้ 'เด็กหญิงเอริกะ นัมบะ' อายุ 4 ขวบ ถอดเสื้อผ้าแล้วถ่ายรูปนู้ดของเธอเก็บไว้ก่อนที่จะลงมือฆ่าอย่างเลือดเย็น ในครั้งนี้ฆาตกรได้ส่งโปสการ์ดที่ตัดแปะตัวอักษรต่าง ๆ จากนิตยสารเป็นข้อความระบุว่า "เอริกะ เป็นไข้ ไอ คอ พักผ่อน ตาย" กลับไปหาพ่อแม่ของเธอ พร้อมกับโทรศัพท์ไปหาที่บ้านของเอริกะโดยไม่พูดอะไร แต่กลับส่งเสียงหายใจแรง ๆ ใส่ปลายสาย
วิตถาร
นอกจากการเลือกเป้าหมายเป็นเด็กหญิงผู้ใสซื่อแล้ว สิ่งที่ทำให้คดีฆาตกรรมต่อเนื่องคดีใหญ่ของญี่ปุ่นนี้น่าสะอิดสะเอียนไปมากกว่าเดิมคือความวิตถารและพิสดารของตัวผู้ฆ่า สึโตมุได้ถ่ายภาพโป๊ของศพเก็บเอาไว้และมีบางรูปที่โชว์เห็นว่าเขากำลังร่วมเพศอยู่กับศพของเด็กน้อย เขาตัดชิ้นส่วนของร่างกายเก็บเป็นที่ระลึก และในบางครั้งก็ดื่มเลือดและกินเนื้อของเหยื่อทั้งหลายเป็นอาหารด้วย
สึโตมุบอกกับตำรวจในภายหลังว่าเขาชอบดูหนังสยองขวัญ และเจ้าหน้าที่ก็สันนิษฐานว่ารูปแบบการก่อคดีของเขาได้เลียนแบบบางส่วนจากภาพยนตร์มา
การจับกุม
สึโตมุ มิยาซากิ วางแผนที่จะก่อเหตุครั้งที่ 5 ในเดือนกรกฎาคมของปี 1989 คราวนี้เขาเล็งเด็กหญิงพี่น้อง 2 คนที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่หน้าบ้าน สึโตมุแยกตัวน้องสาวออกมาแล้วพาขึ้นรถ แต่ระหว่างที่เขากำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพของร่างอันเปลือยเปล่าของเด็กหญิง พ่อของเด็กก็ไล่ตามมาทันและเข้าทำร้ายเขาในทันทีเพื่อช่วยชีวิตลูกสาวเอาไว้
สึโตมุหนีรอดไปได้ เขาวิ่งไปอย่างไร้ทิศทางและหลังจากที่ผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง สึโตมุก็กลับไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อเอารถของตัวเองแต่ก็สายไปเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล้อมตัวเขาเอาไว้และจับกุมเขาได้ในที่สุด
บทสรุป
ตำรวจพบวีดีโอโป๊มากกว่า 5,000 เทป รวมไปถึงภาพโป๊ของเหยื่อ ชิ้นส่วนของศพ และอีกหลาย ๆ อย่างที่ชวนให้ขนลุก สึโตมุอ้างว่า Rat-Man หรือร่างในจินตนาการคือคนที่บงการทั้งหมด ไม่ใช่ตัวเขา แต่หลังจากที่ถูกสอบสวนอย่างถี่ถ้วนโดยทีมจิตแพทย์ ทุกคนลงความเห็นว่าเขารับรู้และมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนระหว่างที่ลงมือก่อเหตุทั้งหมด
พ่อของสึโตมุปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือลูกชายเพื่อสู้คดีทุกกรณี และได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายในปี 2004 ระหว่างที่สึโตมุยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคดี
ศาลใช้เวลากว่า 7 ปีในการตัดสินคดีนี้ และได้ข้อสรุปลงโทษเขาด้วยการประหารชีวิต ซึ่งนำมาสู่การแขวนคอ 'สึโตมุ มิยาซากิ' ในวันที่ 17 มิถุนายน 2008 จบชีวิตฆาตกรโรคจิตในตำนานของประเทศญี่ปุ่นผู้นี้ในวัย 45 ปี
อ้างอิง
ความเห็น 45
💞Pink magic 👑👑
น้องคนสุดท้าย โชคดีมาก พ่อตามมาทัน
01 เม.ย. 2564 เวลา 03.30 น.
🔴⭕🔴⭕🔴⭕🔴⭕🔴⭕
รับด่วน!! เรียนหรือทำงานสามารถทำคู่กันได้
เป็นงาuรับออเดอร์ ตอuแชท ตอuไลน์ลูกค้า
รายได้อาทิตย์ละ 3-4 พัuบาท
รัUอายุ 20 ปีขึ้นไป
สuใจงาuแอo Line ID : @489evmfv (ใส่ @ ด้วยครัu)
30 มี.ค. 2564 เวลา 08.09 น.
ใช้เวลาตั้ง7ปีกว่าจะตัดสินประหาร..
*สำหรับเรา คนมีลูกสาวตัวน้อย ถือว่ามันช่างยาวนานมาก ถึงแม้ว่า มันจะถูกแขวนคอตายก็เถอะ..*อยากให้ประเทศไทย มีกฏหมายแขวนคอบ้าง ไม่ใช่อ้างแต่ว่า.."การประหารชีวิตนักโทษ ในแต่ละครั้งมันสิ้นเปลืองมาก"..🙏
28 มี.ค. 2564 เวลา 20.56 น.
ประวิทย์ ตั้งกระจ่าง
เริ่มเรื่องสิ่งที่มาก่อนจะเกิดเรื่อง..คือ...การเกิดมาเป็นมนุษย์(คน)...การเจริญเติบโตตามกาลสะสมสิ่งต่างๆไว้ในจิตเรื่องไม่ดีมากกว่า(เพราะมีปัญหาเกิด)..นี้แหละเรื่องที่สะสมไว้มากจนไม่รู้เรื่องว่า...๑.นี้คือทุกข์..๒.นี้เหตุให้เกิดทุกข์...๓...นี้คือดับทุกข์...๔.นี้คือ..ข้อปฏิบัติให้พ้นทุกข์....เพราะเป็นคนมี...กายใจ..ที่สร้างให้มีทุกข์...คนปฏิเสธ...เข้าใจไหม...สาธุ...
27 มี.ค. 2564 เวลา 11.43 น.
Thunyapon^V^
ประเทศที่พัฒนาแล้วมีการประหารเยี่ยมเลย
26 มี.ค. 2564 เวลา 23.43 น.
ดูทั้งหมด