เราเป็นคนนึงที่ค่อนข้างเปิดกว้างกับโลกของภาพยนตร์…
ทุกครั้งเวลาคนรู้จักหรือใครวิจารณ์เรื่องนั้นเรื่องนี้เราไม่ค่อยรู้สึกว่าโดนสปอยหรือว่าชักจูงไปในทางชอบหรือไม่ชอบอคติกับตัวละครนี้เรื่องนั้นไม่น่านำเสนอหรืออะไรพวกนั้น
หนังที่นำเสนอเรื่องเพศที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม หรือการแปลงเพศถือเป็นเรื่องที่เราตั้งใจอยากเรียนรู้ให้มากขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยความที่มันมีความซับซ้อนของความรู้สึกอารมณ์และมีตัวแปรหลักคือสังคมรอบข้าง
ในครั้งนี้เราขอนำเสนอหนัง 5 เรื่องที่พูดถึงเรื่องราวความรักไร้เพศสภาพ(LGBT Movies) และเรื่องที่ถ่ายทอดการแปรเปลี่ยนของสภาพจิตใจตั้งแต่กำเนิดเป็นเหตุให้ต้องเปลี่ยนเพศ(Transgender Movies) 5 หนังชวนดู เพื่อรับรู้ถึงพลังด้านบวกของความรักที่จะทำให้ทุกคนลืม ‘เพศต้นกำเนิด’ ไปเสียหมดสิ้น;-)
CALL ME BY YOUR NAME (2017)
*‘Call me by your name and I’ll call you by mine’ *
*เรียกฉันด้วยชื่อของคุณ และฉันจะเรียกคุณด้วยชื่อของฉันเช่นกัน *
เป็นธรรมเนียมของหนังสัญชาติอิตาลี ที่พร้อมจะเรียกน้ำตาซึมๆจากผู้ชม และทำให้คิดถึงความรู้สึกกับตัวละครในเรื่องนี้อยู่หลายหนหลังจากดูจบ
เป็นหนังที่มองข้ามความ LGBT ไปได้อย่างหมดสิ้นจริงๆ อาจเพราะความไม่ขัดตาขัดใจของหนุ่มน้อยเอลิโอ (ฉันรักเค้า) และอีกทั้งคงเป็นฤดูรักในฤดูร้อนที่ปล่อยใจไปกับความรักที่เกิด ไม่รู้ว่าจะจบลงเช่นไร…
A Single Man (2009)
*‘Sometimes awful things have their own kind of beauty’ *
*ในบางครั้งสิ่งแย่ๆ ก็มีความสวยงามในแบบของมัน *
จากเรื่อง Nocturnal Animals (คืนทมิฬ) ที่ทำให้เรารู้จักดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ผันตัวมาทำหนังอย่าง ‘Tom Ford’ ที่ทุกครั้งเขาจะลงสลักลายเซ็นตัวเองไว้ในหนังของตนทุกเรื่องด้วยตัวละครหลักที่ใส่ ‘แว่นตา’ ที่เขาดีไซน์เอง(ลองสังเกตดูหนังทุกเรื่องของเขาได้)และ Mood-Tone ภาพ,คอสตูมทุกชุดในทุกฉาก ที่ผ่านการคิดมาแล้วอย่างลงตัว
เรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นการแสดงที่ทำให้เราชอบ Colin Firth (พระเอก) เรื่องราวที่พูดถึงความเจ็บปวดและทรมานจากการสูญเสียคนรักหนุ่มของตน ชูด้วยเส้นเรื่องการเรียกร้องสิทธิของชายรักชาย ‘เมื่อสูญเสีย จึงได้เรียนรู้อย่างเข้าใจ’
The Way He Looks (2004)
*‘You’re still very young. There’s no point in forcing things. So much is going to happen in your life. So much will change.’ *
*เธอยังเด็กนัก ไม่มีประโยชน์ที่จะบังคับอะไร ยังมีอีกหลายอย่างที่จะเข้ามาในชีวิตและมันจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปอย่างมาก *
เมื่อ ‘การมองเห็น’ รูปลักษณ์ภายนอก ไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อ ‘(ความเข้า)ใจ’ ที่พร้อมเดินไปด้วยกันอย่างไม่เคอะเขิน เป็นสิ่งที่พิเศษที่ควรค่าต่อการเก็บไว้ Leo เด็กชายผู้ซึ่งตาบอดแต่กำเนิด ที่มีเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง Giovana เดินพาไปโรงเรียนในทุกวันและปฏิบัติต่อเขาเหมือนคนปกติ แต่แล้ว Gabriel นักเรียนใหม่ที่เข้ามา และเปลี่ยนแปลงช่วงชีวิตนึงของ Leo และเพื่อนสาวของเขาไป
ในความรักที่บริสุทธิ์ที่ผู้กำกับพยายามจะสื่อนั้น ก็ยังมีเรื่อง ‘การยอมรับความแตกต่าง’ ของการอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีบุคคลทุพพลภาพอยู่ด้วย และคำถามที่สะกิดใจเราตอนที่ดู ตอนพระเอกพูดถึงอนาคตว่า ‘เมื่อโตขึ้น เราจะเปลี่ยนไปเป็นผู้ใหญ่แบบไหน?’ ไม่มีใครให้คำตอบได้ แต่จะมีแค่บางคนที่พร้อมลุยไปกับการเติบโตครั้งนี้ด้วยกัน
Carol (2015)
*‘Do people always fall in love with things they can't have?' *
*'Always' *
*‘ผู้คนมักตกหลุมรักกับสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมีมันได้ใช่มั้ย’ *
*‘เสมอ…’ *
นิยามรักที่ ใครสักคนเข้ามาช่วยให้เรามีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนมากขึ้น… กับความรักของทั้งคู่ที่ทำให้ใจเต้นรัวเหมือนรักแรก Carol หญิงสาวสวยสง่าแต่มีชีวิตแต่งงานที่ไม่เป็นดังหวัง มาพบกับ Therese ที่มีความฝันอยากเป็นช่างภาพที่หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นแคชเชียร์ที่ห้างแห่งหนึ่ง จุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักต้องปกปิดจึงเริ่มต้นขึ้น
ความสวยงามที่ดึงดูดเข้าหากันด้วยแรงปรารถนา ‘มันยากที่จะปฏิเสธสิ่งที่ใช่ และสิ่งไหนที่ไม่ใช่ จนแล้วจนรอดก็ยังคงไม่ใช่อยู่ดี’ จำได้ว่าดูเรื่องนี้ที่ลิโด้ ด้วยจอฉายที่วินเทจ(ไม่ค่อยชัดอย่าง IMAX เขา) ให้อารมณ์ดูหนังย้อนไปในยุคนั้นจริงๆ บุคลิกของตัวละคร,สีภาพ เหมือนดูงานศิลปะ(ที่รู้เรื่อง)อยู่เลย
The Danish Girl (2015)
*‘I love you, because you are the only person who made sense of me. And made me, possible.’ *
*‘ฉันรักคุณเพราะคุณคือคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึก สร้างความเป็นตัวฉันจริงๆ ให้เกิดขึ้นและเป็นไปได้’ *
เรื่องนี้เห็นทีจะแตกต่างออกไปจาก 4 เรื่องที่เล่ามา เพราะเป็นเรื่องจริงจากชีวิตของ Einar Wegener จิตรกรชาวเดนมาร์ก ผู้ซึ่งผ่าตัดแปลงเพศเป็นคนแรกของโลก เรื่องราวความรักที่เป็นใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
Lilli (ตอนเป็นชายคือ Einar) สับสนกับสิ่งที่เขาเป็นเมื่อภรรยาขอให้เขาเป็นแบบผู้หญิงเพื่อให้ตนวาดภาพ ในเรื่องเห็นถึงความกระอักกระอ่วนในการใช้ชีวิต ความยากลำบากในสมัยนั้นกับการเป็นรักร่วมเพศ ที่สำคัญภรรยาของ Lilli แสดงให้เห็นคุณค่าของความรักที่แท้ เราต้องยอมปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเอง มีฉากนึงที่ Lilli พูดขึ้นว่า ‘พระเจ้าสร้างฉันมาเป็นผู้หญิง แต่ร่างกายนี้ไม่ใช่ของฉัน’ แค่ต้องการใครที่จะยอมรับในวันที่ตัวตนเริ่มเผยออกกมา
ความเห็น 34
💚 PumPuy 789 💚
BEST
อย่าแบ่งแยกเพศ ความรักไม่มีจำกัดค่ะ
06 มิ.ย. 2562 เวลา 15.53 น.
ไร้เพศไม่มีจริง..ตามหลักพันธุ์กรรม..ฟันธง..ทุกเพศอยู่ในสังคมได้หมด..
09 มิ.ย. 2562 เวลา 09.02 น.
m@gnum
ความรักไร้เพศสภาพ นี่เป็นคำนิยามของ Oliver ใน Call Me By Your Name คือรักใครก็ได้ รักได้ทั้งญ.ทั้ง ช.
ปล. อีกเรื่องคือ From Beginning to End ของบราซิล นี่นอกจากจะเป็นความรักไร้เพศสภาพแล้ว ยังก้าวไปอีกระดับ 555
27 มิ.ย. 2563 เวลา 09.51 น.
สงสัยผู้เขียนลืมเรื่อง Tusk อีกเรื่อง
05 มิ.ย. 2562 เวลา 02.47 น.
ต้องให้รัฐบาลดู เพราะจะได้ช่วยแก้กฏหมายการแต่งงานเพศที่สามได้
08 มิ.ย. 2562 เวลา 11.24 น.
ดูทั้งหมด