โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"ม.มหิดล" เร่งสร้าง ขุมพลังยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 27 ม.ค. 2566 เวลา 08.39 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. 2566 เวลา 08.38 น.

รุกรับมือโรคอุบัติใหม่ "ม.มหิดล" เร่งสร้างขุมพลังยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนเชื้อตายและวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ คาดว่าจะสร้างเสร็จ-เปิดใช้ภายในปลายปี2566 จะนำสู่การสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ

เมื่อโรคอุบัติใหม่ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง ในการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยและงานวิชาการ ที่ตอบโจทย์เพื่อให้สามารถเข้าใจกับปัญหาและพร้อมรับกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเกิดความเข้มแข็งอันจะนำไปสู่การสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ

ศ.ดร.นพ.นรัตถพล เจริญพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เมื่อกล่าวถึงเรื่องความมั่นคงของประเทศในปัจจุบันความมั่นคงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องการรักษาอธิปไตยแต่ยังหมายถึงการเชื่อมั่นได้ถึงความปลอดภัยห่างไกลโรครวมถึงการตอบสนองต่อโรคระบาดได้อย่างทันท่วงที

นับเป็นเวลาเกือบครึ่งศตวรรษแล้วที่ “ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุลมหาวิทยาลัยมหิดล” เป็นดังขุมพลังสำคัญของการเตรียมพร้อมเพื่อสนองรับยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ

ปัจจัยสำคัญที่จะมาเกื้อหนุน การสร้างขุมพลังด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ คือการพัฒนาด้าน“Regulatory science”หรือวิทยาการด้านการกำกับดูแลควบคุมเพื่อสนับสนุนให้การบริหารจัดการด้านวัคซีนของประเทศชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นแนวโน้มการผลิตบัณฑิตเพื่อสนองต่อความต้องการของประเทศในด้านดังกล่าวต่อไป

นอกจากนี้สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ยังได้มุ่งเน้นวิชาการด้าน Systems biosciences ครอบคลุมการดูแลและใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่(Big Data)ทางชีววิทยาศาสตร์ทั้งระบบเพื่อมุ่งผลิตกำลังทรัพยากรบุคคลสู่การปฏิรูปประเทศไทยด้านดังกล่าวทั้งองคาพยพ

อาจารย์ ดร.พร้อมสิน มาศรีนวล หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า ให้ความเชื่อมั่นในฐานะหัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนสถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุลมหาวิทยาลัยมหิดลถึงภารกิจของศูนย์ฯในการวิจัยด้านวัคซีน โดยขณะนี้ทางสถาบันฯกำลังปรับปรุงห้องปฏิบัติการวิจัยอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนและห้องปฏิบัติการชีวนิรภัยระดับ3 (Biosafety Laboratory Level 3 - BSL 3)เพื่อรองรับงานวิจัยและพัฒนาวัคซีน

สำหรับโรคติดต่อร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้ภายในปลายปีพ.ศ. 2566นี้

ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสนองยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการผลิตวัคซีนชนิดcell-based technologyซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของหน่วยงานเช่นวัคซีนเชื้อตายและวัคซีนเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์(Live Attenuated Vaccine)ที่สามารถพัฒนาเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยและป้องกันการเกิดโรคได้ซึ่งจะต้องทำในสภาวะแวดล้อม(Ecosystem)ที่มีความปลอดภัยในระดับสูงไม่เป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานหรือประชาชนทั่วไป

ตราบใดที่เชื้อโรคมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาวัคซีนก็ไม่อาจหยุดนิ่งและต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของชาติ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...