โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สงครามทุเรียนโลก! “มาเลย์” ปลูกทุเรียนแข่ง “ไทย” ใครจะได้กินเนื้อ! ใครจะได้กินหนาม!

Another View

เผยแพร่ 30 พ.ย. 2561 เวลา 01.00 น.

สงครามทุเรียนโลก! “มาเลย์ปลูกทุเรียนแข่งไทยใครจะได้กินเนื้อ! ใครจะได้กินหนาม!

ถ้าพูดถึง “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้ที่ชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่) ติดใจในรสชาติ แน่นอนว่า “ไทย” ครองแชมป์ทุเรียนเบอร์ 1 ของโลกมาโดยตลอด ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับกระแส “ทุเรียนฟีเวอร์” ซึ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่าบนเว็บไซต์ในเครือยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง “อาลีบาบา” สร้างปรากฏการณ์ยอดสั่งซื้อทุเรียนไทย 80,000 ลูก ใน 1 นาที! 

เมื่อมีแชมป์ ก็ย่อมมีคนอยากล้มแชมป์! 

ความเนื้อหอมของ “ทุเรียน” ที่สามารถบุกตลาดจีนได้สำเร็จ ทำให้ “มาเลเซีย” เพื่อนบ้านอาเซียนของเรา เริ่มจะเบนเข็มจากพืชเศรษฐกิจอย่าง “ปาล์ม” หันมาปลูกทุเรียนแข่งกับบ้านเราแล้ว! ในขณะที่เกษตรกรบ้านเราเพิ่งจะเผาปาล์มประท้วง เนื่องจากน้ำมันปาล์มราคาตก เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

จากข้อมูลการนำเข้าทุเรียนในจีน ปี 2016 พบว่า ไทยมีส่วนแบ่งตลาดทุเรียนในประเทศจีนถึง99.59% และเป็นเจ้าตลาดผูกขาดทุเรียนในประเทศจีน คิดเป็นมูลค่า 1.094 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าตลาดทุเรียนในจีนทั้งหมด 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท

แต่หลังจากปีนี้ไป ลมกำลังจะเปลี่ยนทิศ!

สิ่งที่กำลังจะทำให้  “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของทุเรียนไทย”  ต้องสั่นคลอน คือการลงนามในข้อตกลงส่งออกทุเรียนระหว่างมาเลเซียและจีน หลังการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของ "ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด" นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา

ดร.มหาธีร์ ได้แถลงว่า ถ้าในอดีตมาเลเซียเคยพัฒนายางพาราที่มีต้นทางจากอเมริกาใต้ จนตัวเองกลายเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ ต่อมาก็พัฒนาปาล์มน้ำมันที่มีต้นทางมาจากแอฟริกาตะวันตก จนกลายเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกปาล์มน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ แล้วทำไมทุเรียนซึ่งเป็นของมาเลเซียเองจะพัฒนาจนกลายเป็นผู้ส่งออกสำคัญของโลกไม่ได้!

ล่าสุด! กระทรวงเกษตรมาเลเซีย เปิดเผยว่า ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในมาเลเซียได้หันมาปลูกทุเรียนมากขึ้น เนื่องจากให้ผลตอบแทนดีกว่า ทั้งนี้การปลูกทุเรียนพันธุ์ “มูซัง คิง”  ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในจีน บนพื้นที่ 1 เฮคเตอร์ หรือ 1 หมื่นตารางเมตร ให้ผลตอบแทนมากกว่าการปลูกปาล์มน้ำมันถึง 9 เท่า อีกทั้งรัฐบาลมาเลเซียยังตั้งเป้าส่งออกทุเรียนไปยังจีนเพิ่มขึ้น 50% ภายในปี พ.ศ. 2573

ระยะเวลา 10 ปี ไม่ได้นานเกินรอ! และคาดว่าน่าจะคุ้มเกินคุ้ม กับ “กลยุทธ์เบนเข็มพืชเศรษฐกิจ” ของมาเลเซีย เพื่อก้าวสู่บัลลังค์แชมป์ทุเรียน เบอร์ 1 ที่ครองใจชาวจีนและชาวโลก

ศึกพืชเศรษฐกิจครั้งนี้ “พี่ไทย” อาจจะต้องตั้งตัว ตั้งสติใหม่!  เพราะขณะที่กำลังทะเลาะกันเรื่องพืชบ้านเขา “พืชบ้านเรา” ก็อาจจะโดนชิงตลาดไป โดยไม่ทันตั้งตัว

แหล่งข้อมูล :

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/819618

http://www.komchadluek.net/news/local/348422

https://www.the101.world/durian-war/

https://mgronline.com/around/detail/961000011771

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0