แนะนำศาลเจ้าโอยามะ สถานที่แห่งจิตวิญญาณและความศรัทธา
ท่ามกลางม่านหมอกและเสียงลมที่พัดผ่านยอดเขาทาเตยามะอย่างแผ่วเบา มีสถานที่หนึ่งที่เหมือนหลุดออกมาจากตำนาน “ศาลเจ้าโอยามะ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งธรรมชาติและศรัทธาอันลึกซึ้ง ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ รายล้อมด้วยภูเขาสูงและป่าซีดาร์อายุนับร้อยปี ราวกับเป็นอาณาเขตของเทพเจ้าที่เฝ้ามองผู้คนจากฟากฟ้า สำหรับผู้ที่กำลังมองหาความสงบในใจ ศาลเจ้าโอยามะคือสถานที่ที่ธรรมชาติและจิตวิญญาณได้หลอมรวมกันอย่างงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
1. เสน่ห์ทางจิตวิญญาณของศาลเจ้าโอยามะ
“ศาลเจ้าโอยามะ” ไม่ใช่เพียงศาลเจ้าธรรมดา แต่คือ “สถานที่แห่งการตื่นรู้” ที่สะท้อนความศรัทธาของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อธรรมชาติและเทพเจ้า ภายในศาลเจ้าประกอบด้วยศาลเจ้าหลักสามแห่ง ได้แก่ “ศาลเจ้ามิเนะฮอนฉะ” บนยอดเขาสูง 3,003 เมตร, “หอสวดมนต์ชูกู” ที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา และ “ศาลเจ้าโอยามะมาเอตะเตชะดัน” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “ประตูแห่งศรัทธา” ที่เปิดต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน
เริ่มต้นที่ “ศาลเจ้ามิเนะฮอนฉะ” บนยอดภูเขาทาเตยามะ ซึ่งเปิดให้ผู้คนขึ้นไปสักการะได้เพียงในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น (กรกฎาคม–กันยายน) เส้นทางขึ้นเขาแห่งนี้เปรียบเสมือนการเดินทางภายในใจ การปีนขึ้นไปยังยอดเขาไม่เพียงเป็นการเผชิญหน้ากับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการทดสอบความศรัทธาในตัวเอง เมื่อถึงจุดหมายและได้เห็นศาลเจ้าตั้งตระหง่านเหนือเมฆ หลายคนกล่าวว่ารู้สึกเหมือนได้รับ “การชำระล้างทางจิตวิญญาณ” อย่างแท้จริง
ส่วน “หอสวดมนต์ชูกู” ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าซีดาร์อายุกว่า 500 ปี เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับสตรีในยุคที่ผู้หญิงยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นภูเขา แม้เวลาจะผ่านไปหลายร้อยปี แต่บรรยากาศของความศรัทธายังคงชัดเจนในทุกลมหายใจ เสียงระฆังที่ดังแว่วท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาได้หยุดนิ่ง
ในขณะที่ “ศาลเจ้ามาเอตะเตชะดัน” ซึ่งตั้งอยู่ใกล้พื้นราบที่สุด ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งทาเตยามะ อาคารไม้เก่าแก่ที่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยมุโรมาจิไว้อย่างงดงาม บอกเล่าเรื่องราวของการบูชาธรรมชาติและความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาหลายศตวรรษ
ศาลเจ้าทั้งสามแห่งนี้ไม่ได้แยกขาดจากกัน แต่เชื่อมโยงกันเป็น “หนึ่งเดียวแห่งศรัทธา” ราวกับเป็นสะพานที่เชื่อมโลกของมนุษย์กับโลกของเทพเจ้า ภูมิประเทศที่แบ่งออกเป็นสามระดับ—ยอดเขา เชิงเขา และพื้นราบ—จึงไม่ใช่แค่ภูมิศาสตร์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางจิตวิญญาณจากพื้นดินสู่สวรรค์
2. เทพเจ้าผู้ประดิษฐานและพลังแห่งการชำระล้าง
ภายในศาลเจ้าโอยามะมีเทพเจ้าสององค์ประดิษฐานอยู่ ได้แก่ “อิซานางิโนะคามิ” และ “อาเมะโนะทาจิคาราโอโนะคามิ” ทั้งสององค์ปรากฏในตำนานญี่ปุ่นโบราณและเป็นตัวแทนของพลังที่แตกต่างกันอย่างงดงาม
“อิซานางิโนะคามิ” คือเทพผู้สร้างโลกและต้นกำเนิดของพิธี “มิโซงิ” หรือพิธีชำระล้างร่างกาย พระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์ของ “การเกิดใหม่และความบริสุทธิ์” จึงเป็นที่เคารพของผู้คนที่ต้องการขจัดเคราะห์ร้ายและเริ่มต้นสิ่งใหม่ในชีวิต ส่วน “อาเมะโนะทาจิคาราโอโนะคามิ” เป็นเทพเจ้าแห่งพละกำลังและแสงสว่าง ผู้ที่เปิดถ้ำเพื่อปลดปล่อยดวงอาทิตย์กลับสู่โลกหลังจากที่ “เทพีอมะเทระสึ” หลบซ่อนอยู่ในความมืด เทพองค์นี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของ “การเอาชนะอุปสรรค” และ “การนำทางสู่ความสำเร็จ”
เมื่อเทพทั้งสององค์ถูกบูชาในศาลเจ้าเดียวกัน จึงถือเป็นการรวมกันของพลัง “การเริ่มต้นใหม่” และ “การก้าวไปข้างหน้า” ผู้มาเยือนหลายคนเชื่อว่าการสักการะที่ศาลเจ้าโอยามะจะช่วยให้จิตใจสงบลง และได้รับพลังใจในการเริ่มต้นสิ่งใหม่อีกครั้ง
นอกจากเทพเจ้าผู้ประดิษฐานแล้ว ที่ศาลเจ้าโอยามะยังมีพิธีกรรมชำระล้างร่างกายและจิตใจที่เรียกว่า “โอฮาราเอะ” ซึ่งผู้ศรัทธาสามารถเข้าร่วมได้ทั้งที่เชิงเขาและบนยอดเขา โดยนักบวชชินโตจะสวดมนต์และใช้ระฆังศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่สิ่งไม่ดีออกจากตัวผู้ร่วมพิธี พิธีชำระล้างบนยอดเขาถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจยิ่ง เพราะนอกจากได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังรู้สึกได้ถึงพลังแห่งธรรมชาติที่ห้อมล้อมอยู่ทุกทิศทาง
และแน่นอนว่า เมื่อกล่าวถึงศาลเจ้า ย่อมไม่อาจละเลย “โกชูอิน” หรือแสตมป์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหลักฐานแห่งการแสวงบุญ ศาลเจ้าโอยามะมีโกชูอินที่แตกต่างกันในแต่ละศาลเจ้าทั้งสามแห่ง โดยเฉพาะตราประทับจากศาลเจ้ามิเนะฮอนฉะซึ่งเขียนว่า “ศาลเจ้าโอยามะ ซัมมิต ทาเตยามะ” ถือเป็นของที่ระลึกอันทรงคุณค่าที่ระลึกถึงความพยายามและศรัทธาที่พาขึ้นมาถึงยอดเขาได้สำเร็จ
นอกจากนี้ ภายในศาลเจ้ายังมีเครื่องรางให้เลือกหลากหลาย ทั้ง เครื่องรางความรัก ความสำเร็จ สุขภาพ ความปลอดภัยในการเดินทาง และ เครื่องรางแห่งชัยชนะ ทุกชิ้นผ่านการอธิษฐานจากนักบวช และมีดีไซน์ที่สื่อถึงเทพเจ้าผู้สถิตอยู่บนภูเขาทาเตยามะ บางชิ้นมีลวดลายเหยี่ยวขาว—สัญลักษณ์แห่งการคุ้มครองและการเริ่มต้นใหม่
3. เส้นทางแห่งศรัทธาและการเดินทางไปยังศาลเจ้าโอยามะ
การเดินทางไปยังศาลเจ้าโอยามะก็เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมทางจิตวิญญาณเช่นกัน เพราะแต่ละเส้นทางต่างให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ทั้งทางกายและทางใจ
“ศาลเจ้ามาเอตะเตชะดัน” สามารถเดินทางได้สะดวกที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากสถานีอิวาคุระจิ บนรถไฟ Toyama Chiho Railway เส้นทางร่มรื่นและมีที่จอดรถสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ ส่วน “หอสวดมนต์ชูกู” อยู่ห่างจากทางด่วน Hokuriku ประมาณ 25 นาที และตั้งอยู่ใกล้พิพิธภัณฑ์ Tateyama ซึ่งสามารถเที่ยวชมควบคู่กันได้
แต่หากต้องการสัมผัสจิตวิญญาณของศาลเจ้าโอยามะอย่างแท้จริง การปีนขึ้นสู่ “ศาลเจ้ามิเนะฮอนฉะ” บนยอดเขาทาเตยามะคือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เส้นทางนี้เริ่มต้นจากสถานี Tateyama โดยใช้เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route ต่อด้วยกระเช้าลอยฟ้าและรถบัสไฮแลนด์ไปยังจุดมุโรโด จากนั้นเดินเท้าประมาณสองชั่วโมงสู่ยอดเขา
แม้เส้นทางจะเต็มไปด้วยหินและทางลาดชัน แต่ทุกย่างก้าวคือการสนทนากับธรรมชาติ เสียงลม เสียงรองเท้าที่กระทบพื้นหิน และลมหายใจของตนเอง ล้วนเป็นจังหวะของการภาวนาในแบบฉบับของภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ผู้ที่ได้มายืนอยู่บนยอดเขาจะได้เห็นท้องฟ้าที่เปิดกว้างสุดสายตา และศาลเจ้าเล็กๆ ที่ตั้งตระหง่านราวกับเฝ้ามองมนุษย์จากแดนสวรรค์
บริเวณเชิงเขายังมี “ป่าซีดาร์แห่งอาชิคุระจิ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่มีต้นซีดาร์อายุกว่า 400–500 ปี จำนวนกว่า 120 ต้น เรียงรายราวกับผู้พิทักษ์แห่งป่า บรรยากาศร่มเย็นและเงียบสงบเหมาะแก่การทำสมาธิหรือเพียงแค่หลับตาฟังเสียงลมพัดผ่านใบไม้ หลายคนเชื่อว่าการเดินในป่าแห่งนี้ช่วยชำระล้างจิตใจให้กลับมาสงบและเบาสบาย
ข้อมูลศาลเจ้าโอยามะ
ที่อยู่ Maki, Toyama, 930-1465, Japan วันเวลาเปิด-ปิด 9:00 AM – 5:00 PM การเดินทาง เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Iwakuraji บนรถไฟ Toyama Chiho หรือขับรถประมาณ 20 นาทีจาก Tateyama IC บนทางด่วน Hokuriku
ศาลเจ้าโอยามะไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากแต่เป็น “เส้นทางแห่งหัวใจ” ที่พาผู้มาเยือนย้อนกลับไปสู่ความเรียบง่ายของการเชื่อในธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกอาคาร ทุกต้นไม้ และทุกก้าวย่างล้วนสื่อสารถึงความศรัทธาที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี สำหรับผู้ที่กำลังแสวงหาความสงบ หรือแรงบันดาลใจใหม่ในชีวิต การได้มาเยือนศาลเจ้าโอยามะเพียงสักครั้ง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางจิตวิญญาณที่ทุกคนจะจดจำไปตลอดกาล
สรุปเนื้อหาจาก pureenergypath.com