โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“ฮอร์มุซ” สำคัญแค่ไหน? หากปิดทางลำเลียงน้ำมัน-ก๊าซ โลกสะเทือน ไทยส่อวิกฤตพลังงาน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 23 มิ.ย. เวลา 04.15 น. • เผยแพร่ 23 มิ.ย. เวลา 04.12 น. • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ในอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการยกระดับความขัดแย้งในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ

ด้าน รัฐบาลอิหร่าน ได้ตอบโต้ทันที โดยประกาศเตรียมใช้มาตรการเชิงยุทธศาสตร์ด้วยการ ปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางเดินเรือสำคัญที่เป็นจุดผ่านของน้ำมันดิบมากกว่า 20% ของปริมาณการค้าพลังงานทางทะเลทั่วโลก สร้างความหวั่นวิตกต่อเสถียรภาพด้านพลังงานและการขนส่งระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สภาความมั่นคงสูงสุดแห่งชาติอิหร่าน (SNSC) ซึ่งจะเป็นผู้ชี้ขาดว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้หรือไม่

สถานการณ์นี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นอย่างรุนแรง ขณะที่ตลาดหุ้นในกลุ่มพลังงานทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย รวมถึงไทย ได้รับแรงหนุนจากความกังวลด้านอุปทานที่อาจตึงตัว หากการปิดช่องแคบฮอร์มุซเกิดขึ้นจริง

  • ช่องแคบฮอร์มุซ เส้นเลือดพลังงานโลก

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์หลักในการลำเลียงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของโลก แต่ลึก ๆ แล้วยังมีความสำคัญอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ

โดยศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน และอดีตคณะกรรมการการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก “Praipol Koomsup” (22 มิ.ย.68) อธิบายความสำคัญของช่องแคบฮอร์มุซ ดังนี้

ช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) คือจุดยุทธศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะเป็น “ประตูทางออก” เพียงช่องเดียวของอ่าวเปอร์เซีย สู่ทะเลอาหรับและมหาสมุทรอินเดีย แม้มีความกว้างที่สุดเพียง 33-39 กิโลเมตร แต่เส้นทางเดินเรือที่ใช้จริงกลับแคบเพียง 3 กิโลเมตรในแต่ละทิศทาง โดยมี “เขตกันชน” คั่นกลางเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ช่องแคบมีความลึก สูงสุดมากราว 200 เมตร ใกล้ฝั่งโอมาน ทำให้รองรับเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างสบาย

ที่สำคัญกว่านั้นคือ ประมาณ 1 ใน 5 ของน้ำมันโลก ประมาณ 17-18 ล้านบาร์เรลต่อวันของน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน และ LNG จำนวนมาก โดยเฉพาะจากกาตาร์ ถูกขนส่งผ่านช่องแคบนี้

แต่ในความสะดวกกลับแฝงความเปราะบาง เพราะเส้นทางนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของอิหร่าน ซึ่งมีทั้งเกาะยุทธศาสตร์ ฐานทัพ และศักยภาพทางทหารที่พร้อมจะสกัดกั้นการเดินเรือได้ทุกเมื่อ

ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ มีกองเรือที่ 5 ประจำการอยู่ในประเทศบาห์เรน ที่มีความรับผิดชอบหลัก คุ้มครองการจราจรทางทะเลในภูมิภาค และเน้นความสําคัญของช่องแคบฮอร์มุซ ที่มีต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของโลก

ศ.ดร.พรายพล ให้ข้อมูลว่า เท่าที่ผ่านมาอิหร่านได้ใช้ข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และกองกำลังในน่านน้ำ เพื่อขัดขวางหรือปิดกั้นการเดินเรือในช่องแคบเป็นเวลาสั้น ๆ โดยอาวุธยุทโปกรณ์สำคัญ ได้แก่ ทุ่นระเบิดในน้ำ, จรวดและโดรน, เรือเร็ว, เรือดําน้ำ และกองทัพเรือชายฝั่ง

  • ประเทศไทย กับ ช่องแคบฮอร์มุซ

จากการปิดช่องแคบฮอร์มุซนั้นกระทบกับพลังงานไทยอย่างมากเช่นเดียวกับทั่วโลก ศ.ดร.พรายพล ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยใช้พลังงานจากน้ำมันเป็นสัดส่วนประมาณเกือบ 40% ของพลังงานทั้งหมด และใช้ก๊าซธรรมชาติ ประมาณเกือบ 30% ของทั้งหมด

ขณะที่ไทยต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศประมาณ 85% ของน้ำมันที่ใช้ทั้งหมด และต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติประมาณ 40% ของก๊าซที่ใช้ทั้งหมด โดย 25% เป็น LNG และอีก 15% เป็นก๊าซผ่านท่อจากเมียนมาร์ ไทยต้องพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากต่างชาติในสัดส่วนมากถึง 46% ของการใช้พลังงานทุกชนิดรวมกัน เป็นน้ำมันนำเข้า 34% และก๊าซนำเข้า 12% ส่วนใหญ่เป็นน้ำมันจากภูมิภาคตะวันออกกลาง จากแหล่งสำคัญคือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย และโอมาน และเป็นน้ำมันที่ขนส่งมาทางเรือผ่านช่องแคบฮอร์มุซ

ส่วนของก๊าซธรรมชาติ ไทยนำเข้า LNG จากตะวันออกกลาง ประมาณ 30% ของการนำเข้า LNG ทั้งหมด โดย 25% จากกาตาร์ 5% จากโอมาน โดยเกือบทั้งหมดต้องขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ สรุปได้ว่า อย่างน้อย 1 ใน 3 ของพลังงานที่ใช้ในประเทศไทยคือ น้ำมันและก๊าซที่ขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ

“ดังนั้นการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะทำให้ไทยขาดพลังงานไปเป็นจำนวนหนึ่งในสามของพลังงานทั้งหมด ที่จะขาดแคลนมากที่สุดคือน้ำมันเพราะมีสัดส่วนที่ลดลงมากที่สุด แต่ปัญหาคงไม่ใช่เฉพาะไม่มีน้ำมันและก๊าซให้ใช้ได้อย่างเพียงพอเท่านั้น เชื่อกันว่าการปิดช่องแคบนี้จะก่อให้เกิดราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะจะเกิดการขาดแคลนน้ำมันทั่วโลก (supply ลดลงไป 20%) วงการน้ำมันคาดว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาเรลอย่างแน่นอน และอาจขึ้นไปสูงถึง 200 ดอลลาร์ก็เป็นได้” ศ.ดร.พรายพล ระบุ

คำถามคือ… ถ้าเกิดขึ้นจริง ไทยจะมีแผนสำรองนอกตะวันออกกลางเพียงพอหรือไม่?

นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน ระบุด้วยว่า หากการปิดช่องแคบมีผลเป็นเวลาไม่นานเกิน 1 เดือน ไทยก็ยังคงมีน้ำมันเหลือใช้อย่างเพียงพอ โดยอาศัยสต๊อกน้ำมันสำรอง ซึ่งกระทรวงพลังงานประเมินว่ามีสต๊อกให้ใช้ได้เป็นเวลา 60 วัน อีกทั้งยังสามารถซื้อน้ำมันจากแหล่งผลิตในประเทศอื่น ๆ นอกพื้นที่ตะวันออกกลางได้บ้าง แต่ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือราคาน้ำมันที่แพงขึ้นมากและจะทำให้ต้นทุนน้ำมันนำเข้าสูงขึ้นมากเช่นกัน

“หากรัฐบาลไม่ใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาขายปลีกของน้ำมันก็จะสูงขึ้น และจะทำให้ค่าขนส่งและราคาสินค้าต่าง ๆ สูงขึ้นด้วย จนกลายเป็นปัญหาภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งก็จะเป็นปัญหาที่รุมเร้าซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันอยู่แล้ว หากรัฐบาลเลือกใช้การอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก็ยิ่งจะทำให้กองทุนฯ ติดลบและเป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก จากในปัจจุบันที่ติดลบอยู่ประมาณ 36,000 ล้านบาท การปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นระยะเวลาหนึ่งก็จะทำให้ปริมาณ LNG จากตะวันออกกลางที่ขนส่งมาไทยขาดแคลนและแพงขึ้นได้เช่นกัน และก็จะมีผลกระทบต่อต้นทุนเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นได้” ศ.ดร.พรายพล ระบุ

ด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (23 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรียกประชุมด่วน ที่กระทรวงพลังงาน เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการจ่อปิดช่องแคบฮอร์มุซ ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า ไทยมีพลังงานสำรองไปถึง 60 วัน ซึ่งถ้าเกิดการปิดช่องแคบฮอร์มุซจริง ต้องกำหนดมาตรการรับมือ เช่น ประหยัดพลังงานในประเทศ รวมถึงหาพลังงานทดแทน

แม้ไทยจะอยู่ห่างไกลจากจุดปะทุในตะวันออกกลาง แต่โลกพลังงานไม่มีพรมแดน

การปิดช่องแคบฮอร์มุซอาจจุดชนวนให้ตลาดโลกสั่นสะเทือน และเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญบททดสอบใหม่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

“รมว.วัฒนธรรม” เปิดงานแห่เทียนโคราช 68 ชู Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

48 นาทีที่แล้ว

เปิดเบื้องหลัง! “ทรัมป์” หักหน้า “โต เลิม” ปรับภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ไม่ทันตั้งตัว

50 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต. กล่าวโทษ อดีตผู้บริหาร GIFT สั่งปรับเกือบล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“มาริษ” ดับข่าวลือ! จีนไม่เสนอช่วยไกล่เกลี่ย “ไทย-กัมพูชา” แค่หวังเห็นสันติภาพ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

EXIM BANK หารือ ธนาคารแห่ง สปป.ลาว สนับสนุนการค้าการลงทุนไทย-สปป.ลาว

สยามรัฐ

PTG หุ้นคุณภาพดี ครบเครื่อง!

สยามรัฐ

“รมว.วัฒนธรรม” เปิดงานแห่เทียนโคราช 68 ชู Soft Power ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เปิดเบื้องหลัง! “ทรัมป์” หักหน้า “โต เลิม” ปรับภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ไม่ทันตั้งตัว

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ อดีตผู้บริหาร GIFT สั่งปรับเกือบล้าน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

Baby Shark Dance ตำนาน YouTube วิวสูงสุด ในโลกนี้จะมีคลิปไหนล้มสถิติได้

SpringNews

“ดาวโจนส์” ร่วง 224 จุด ผวา “ทรัมป์” เดินหน้าขึ้นภาษีคู่ค้า

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เวียดนามยังไม่พอใจดีลภาษีอเมริกา 20% ต้องการอัตรา 10-15% แต่ Trump ทำเซอร์ไพรส์เพิ่มนาทีสุดท้าย

Finnomena

ข่าวและบทความยอดนิยม

หุ้นพลังงานวิ่งแรง! รับน้ำมันดิบพุ่ง เซ่นตึงเครียดตะวันออกกลาง – อิหร่านขู่ปิดฮอร์มุซ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

SET เช้าร่วง 9 จุด วิตกสงคราม “อิสราเอล-อิหร่าน” ตึงเครียด จับตาปิดช่องแคบ “ฮอร์มุซ”

ข่าวหุ้นธุรกิจ

โบรกแนะซื้อ PTT ชูเป้า 31 บาท รับ “น้ำมันดิบ” พุ่ง กำไรปีนี้โต 44%

ข่าวหุ้นธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...