มุมมองผ่านเลนส์กล้องส่องสงขลาของ “โต้-วิรุนันท์ ชิตเดชะ” สู่งานศิลปะจากหาดสมิหลา ‘Samila Odyssey สมิหลาเชิงซ้อน’
การถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกของใครหลาย ๆ คน รวมถึงการสร้างสรรค์งานศิลปะก็เช่นกัน แต่จะเป็นอย่างไร หากเราสามารถนำภาพถ่ายมาร้อยเรียงใหม่ สร้างสีสันและมิติตื้นลึกในมุมมองที่อาจไม่เคยมีใครเห็น และจะน่าสนใจขนาดไหนหากเราได้เห็นระนาบเวลาใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจากการทับซ้อนของภาพถ่าย จากการถ่ายทอดของชายผู้เชื่อว่า “พลังของภาพถ่ายคือการหยุดเวลา”
“คิด” อยากชวนมาจับเข่านั่งคุยกับ ‘โต้-วิรุนันท์ ชิตเดชะ’ หนึ่งในผู้จัดงานนิทรรศการภาพถ่ายที่ร้อยเรียงเรื่องราวแห่งเมืองสงขลาผ่านศิลปะภาพซ้อนระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตแห่งเมืองสงขลา “Samila Odyssey สมิหลาเชิงซ้อน” ในเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2567 (Pakk Taii Design Week 2024) ระหว่างวันที่ 17-25 สิงหาคม 2567 นี้ ซึ่งจะจัดแสดงที่โรงเรียนสตรีวชิรานุกูล จังหวัดสงขลา
‘โต้-วิรุนันท์’ กับหลากหลายบทบาทของชายผู้หลงรักในภาพถ่าย
สวัสดีครับ ชื่อโต้ วิรุนันท์ ชิตเดชะครับ ปัจจุบันเป็นช่างภาพ แล้วก็เป็นอาจารย์สอนที่คณะสถาปัตยกรรม และคณะนิเทศศิลป์ สาขาการถ่ายภาพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เคยเปิดสถาบันสอนถ่ายภาพกับเพื่อน ๆ สามคนชื่อว่า ‘สังเคราะห์แสง’ มีสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ จัดอีเวนต์เกี่ยวกับการถ่ายภาพและศิลปะที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพชื่อว่า ‘D1839’ และมีโปรดักชันเฮาส์โฆษณาทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวชื่อว่า ‘เลอ โฟโตกราฟ’ (Le Photographe) ตอนนี้ก็เป็นนักออกแบบนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องสังคมและชุมชนผ่านการถ่ายภาพด้วยครับ ในส่วนการทำงานพวกนี้ เพราะผมเชื่อว่าภาพถ่ายเป็นนวัตกรรมเดียวในโลกใบนี้ที่สามารถหยุดและฉกฉวยเสี้ยวเวลาหนึ่งในโลกใบนี้ให้มันอยู่กับเราไปตลอดกาลได้ มันไม่มีนวัตกรรมไหนที่ทำสิ่งนี้ได้ มันจึงมีเสน่ห์บางอย่าง
โต้ วิรุนันท์ ชิตเดชะ
จุดเริ่มต้นของ Samila Odyssey กับ Pakk Taii Design Week 2024
ถ้าจำไม่ผิดในปี 2019 ผมเคยทำโปรเจ็กต์ ‘Portrait of Songkla’ เป็นครั้งแรกที่ได้ลงไปทำงานศิลปะที่สงขลาอย่างจริงจัง ซึ่งทำให้ได้เข้ามาทำความรู้จักกับคนในพื้นที่หลากหลายคนมาก ทั้งในกระบวนการค้นคว้าข้อมูล ทั้งได้ลงไปทำเวิร์กช็อปกับคนในพื้นที่บ่อย ๆ ทำให้ได้รู้จักความเป็นสงขลาและรู้สึกผูกพันกับพื้นที่มากขึ้น ส่วนในปีนี้ ต้องขอบคุณพี่เอ๋-ปกรณ์ รุจิระวิไล จาก a.e.y studio ที่ชวนมาทำงาน Pakk Taii Design Week 2024 ในหมวด Art & Craft เนื่องจากได้ไปเจอ Archive หนึ่ง คือการทำภาพเชิงซ้อนในสมัยก่อน ประมาณปีพ.ศ. 2500 (ร้านถ่ายภาพทันใจ) ซึ่งผมสนใจจริง ๆ จึงตอบตกลงร่วมกันทำโปรเจ็กต์นี้
ภาพถ่ายเชิงซ้อน (combination printing) เป็นจุดเริ่มต้นของงานนี้ คือเป็นการนำภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยฟิล์มสองเฟรมมาซ้อนกัน เช่น ภาพเก่า ๆ ที่มีคนบินอยู่บนหาดสมิหลา มีคนอยู่ในขวดโหลแก้ว เป็นกระบวนการที่ใช้ในดาร์กรูม โดยการเอาเฟรมสองเฟรมมาซ้อนกัน ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์ที่มีความแฟนตาซีและเหนือจริง ซึ่งพอได้ดูภาพชุดนี้แล้ว จึงได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและรู้ว่า ที่หาดสมิหลามีการทำธุรกิจรับถ่ายรูปแบบนี้น่าจะเป็นที่แรกของประเทศไทย และอาจจะเป็นที่แรกในเอเชียอาคเนย์เลยก็ว่าได้ ทำให้หาดสมิหลาน่าสนใจในแง่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของงานฝีมือแขนงนี้ในประเทศ
เวลาเราลงภาพถ่ายชุดนี้ในโซเชียลมีเดีย ก็จะมีคนมาคอมเมนต์ว่า “ที่บ้านก็มีภาพแบบนี้เหมือนกัน” มันจึงเป็นสิ่งย้ำเตือนว่า หลักฐานการมีอยู่ของภาพถ่ายเชิงซ้อนกับหาดสมิหลานั้นเป็นของคู่กัน นอกจากจะเป็น ‘เชิงซ้อน’ ในภาพถ่ายเหล่านั้น มันยังเป็น ‘เชิงซ้อน’ ในเรื่องของประวัติศาสตร์ด้วย เพราะเมื่อหลาย ๆ คนต่างมี ‘ประสบการณ์เชิงซ้อน’ แบบนี้ร่วมกัน นี่จึงเป็นที่มาของ Samila Odyssey คือเป็นการผจญภัยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากหาดสมิหลา ณ ตรงนั้นครับ
‘Old is Cool’ ความเก่ามันเท่ยังไง ความคูลแบบไหนที่ทำให้ Samila Odyssey มีตัวตน
อย่างที่บอกว่าภาพถ่ายนี่มันมีพลังมาก คือมันสามารถฟรีซหรือหยุดช่วงเวลาหนึ่งให้อยู่กับเราตลอดไปได้ และยังเป็นหลักฐานการมีอยู่หรือไม่มีอยู่ของอะไรหลาย ๆ อย่างบนโลกใบนี้ ภาพถ่ายเชิงซ้อนก็เป็นหนึ่งในนั้น ว่าช่วงหนึ่งเราเคยมียอดฝีมือที่ทำงานศิลปะเหล่านี้ในยุคปี 2500-2520 ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคดิจิทัลและมีภาพสีเข้ามา ทำให้กลายเป็นว่า ทุกวันนี้มันเป็นแรร์ไอเท็มไปเลย ไม่มีภาพแบบนี้อีกแล้ว จากวันนั้นที่เคยเป็นของฝากที่ป็อปปูลาร์มาก ๆ แม้แต่ดาราดังอย่างมิตร ชัยบัญชาก็เคยถ่ายภาพเชิงซ้อนเช่นเดียวกัน ทำให้เราได้เห็นว่าบางทีความเก่ามันไม่ใช่ความล้าสมัยเสมอไป แต่มันก็มีความ Cool ในแบบของมัน เหมือนกับไวน์ที่ยิ่งบ่มนานก็ยิ่งมีมูลค่า คิดว่างานนี้ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เพราะทุกวันนี้ไม่มีใครทำสิ่งนี้แล้ว
สร้างระนาบเวลาและพื้นที่ใหม่ด้วย Photo Montage
ศิลปะภาพถ่ายเชิงซ้อนหรือ Photo Montage เป็นการทลาย Time and Space (เวลาและสถานที่) เป็นการทลายระนาบนั้นและสร้างเส้นระนาบเวลาใหม่ขึ้นมา ทำให้เกิดความแฟนตาซีและเหนือจริง ภาพถ่ายจึงอาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริงอีกต่อไป นี่จึงเป็นเสน่ห์ของงาน Photo Montage ที่น่าสนใจ เวลาและสถานที่ เป็นสิ่งที่ทุกคนมีประสบการณ์ร่วมกัน ทุกคนบนโลกใบนี้มีเวลาเท่ากัน และไม่ว่าจะมีเงินเท่าไรก็ซื้อเวลาไม่ได้ การหยุดเวลาด้วยภาพถ่ายหรือศิลปะแบบ Photo Montage ที่สามารถเล่นกับเวลาและพื้นที่เหล่านี้ได้เต็มที่ อาจจะทำให้เกิดคำถามว่าภาพคุ้นชินที่เราเคยเห็นของระนาบเวลาและพื้นที่นี้ ถูกทลายและสร้างขึ้นมาใหม่อย่างไรบ้าง
ความยากของงานคือการหาจุดที่เหมาะสมมากกว่าว่าจะทำยังไงให้งานนี้มันพอดี ยังเป็นงานที่สามารถบอกเล่าเรื่องราว Old is Cool ของภาพถ่ายเชิงซ้อน บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของภาพถ่ายและการเติบโตของอุตสาหกรรมถ่ายภาพ และสะท้อนเรื่องราวของสงขลาผ่านภาพถ่ายด้วย จะทำอย่างไรให้ส่วนผสมเหล่านี้พอดี เหมือนเราเป็นเชฟที่มีวัตถุดิบดีมาก แต่ถ้าทำออกมารสชาติไม่ได้เรื่อง จะทำอย่างไร
เราอยากจะสื่อสารว่า ของที่อยู่ในอดีตก็ยังสามารถนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานชิ้นใหม่ ๆ ให้ผู้ชมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของทั้งพื้นที่แหลมสมิหลาและศิลปะภาพถ่ายเชิงซ้อนผ่านงาน Samila Odyssey นอกจากนี้ ยังอยากให้เห็นว่า ภาพถ่ายหากนำมาผสมกับเทคโนโลยี AI ก็สามารถเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการทำงานศิลปะได้เช่นกัน เพราะทุกวันนี้มีคนพูดถึง AI ในเชิงที่เข้ามาทำลายอุตสาหกรรม แล้วคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้จะไปต่ออย่างไร จึงอยากให้นิทรรศการนี้แสดงให้เห็นการอยู่ร่วมของสิ่งเหล่านี้ เลยเลือกใช้กิมมิกของคำว่าภาพถ่ายเชิงซ้อนซ้อนมันไปทุกอย่างเลย ทั้งในเรื่องเทคนิคในการบอกเล่า ซ้อนในเรื่องภาพถ่ายกับ AI รวมทั้งการจัดเรียงและนำเสนอผลงาน จุดประสงค์หลักของเราจึงเป็นการทำให้ผู้ชมได้รับสิ่งเหล่านี้ และแน่นอนว่าเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ต่อไป
เปิดประสบการณ์เดินทางเชิงซ้อนกับ Samila Odyssey
นอกจากเรื่องการกระตุ้นการท่องเที่ยว เราอยากให้งานชิ้นนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่มาดู ไม่ใช่แค่กับศิลปินหรือผู้ที่สร้างผลงาน แต่เมื่อเราได้ทำงานในพื้นที่สงขลา ได้ทำงานกับคนในพื้นที่ สำหรับคนดูนิทรรศการคนอื่น ๆ เราก็อยากให้เขาได้รับแรงบันดาลใจกลับไป ว่าในพื้นที่ของเขามีอะไรบ้างที่เป็นเสน่ห์และความน่าสนใจ ให้เกิดคิดและความรู้สึกว่า ‘บ้านเรามันมีของดีแบบนี้ด้วย’ และอยากให้นิทรรศการนี้มีส่วนช่วยในการพัฒนาพื้นที่และเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ในอนาคต หากจะต่อยอด อาจจะนำเทคนิคภาพถ่ายเชิงซ้อนมาต่อยอด หรือจัดแสดงที่กรุงเทพฯ เพื่อนำเสนอว่ามีเทคนิคนี้อยู่ด้วย ส่วนในเชิงพื้นที่ สงขลายังมีความน่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งในความเป็นพหุวัฒนธรรม ที่ชาวไทยพุทธ ไทยจีน ไทยมุสลิม อยู่ร่วมพื้นที่เดียวกันอย่างสมานฉันท์กลมเกลียวมาก หรือในเรื่องของสถาปัตยกรรมและเรื่องราวอีกมากให้เรานำไปต่อยอดในแง่อื่นต่อไป
ผมเชื่อว่าทุกสถานที่ในประเทศไทย หรือในโลกใบนี้มันมีเสน่ห์ในตัวมันเองอยู่แล้ว ทุกที่มีประวัติศาสตร์ มีความเป็นมา ทุกจังหวัดในประเทศไทยหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมันไม่ได้เกิดมาในเวลาเพียงแค่ 1-3 ปี ทุกที่มีรากเหง้าของบรรพบุรุษและเสน่ห์เฉพาะตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นในการทำงานในแต่ละพื้นที่คือ หลาย ๆ ครั้งเรามีของดีอยู่กับตัวเองแต่เราไม่ค่อยสังเกตเห็นหรือไม่ค่อยรู้ หรืออาจจะรู้แต่ไม่คิดว่ามันพิเศษเพราะเราอาจจะเห็นมันจนชินตา หลาย ๆ ครั้งจึงกลายเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ข้อมูลหรือประเด็นที่พิเศษในพื้นที่ไม่ได้ถูกหยิบยกมาเล่าให้กับทั้งคนในพื้นที่เองและนักเดินทางที่ผ่านไปผ่านมา
ผมย้ำเสมอว่า ‘ไม่มีใครที่จะบอกเล่าเรื่องราวของบ้านตัวเองได้ดีไปกว่าเจ้าของบ้าน’ ผมจึงอยากเชิญชวนนักสร้างสรรค์และคนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ลองดูว่าเรามีของดีอะไรบ้างในพื้นที่ของตัวเอง และจะหยิบยกออกไปเล่าได้ยังไง เพราะมันสามารถสร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดออกไปเป็นสินค้า เป็นผลิตภัณฑ์ และอาจมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาชุมชน รวมถึงพื้นที่นั้น ๆ ได้ในอนาคต”
พลังแห่งภาพถ่าย รักษาความทรงจำให้ยังคงมีชีวิต ผ่านลายเส้นแห่งกาลเวลา
ในบทความ “The Power of Pictures: Using Photographs for Stimulating Memories” โดย Oak Senior Living ระบุว่า ภาพถ่ายมีพลังทำให้เรารู้สึกได้ถึงอารมณ์บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขหรือช่วงเวลาที่คุณเคยรู้สึกกระอักกระอ่วนกับมัน การมองภาพถ่ายจะทำให้คุณนึกได้ถึงช่วงเวลาเหล่านั้น พลังแห่งภาพถ่ายที่ว่านี้แหละ ที่จะช่วยในการคงสภาพความทรงจำ และป้องกันการสูญเสียความทรงจำ หรือโรคอัลไซเมอร์
สัญญาณแห่งโรคอัลไซเมอร์ที่พบได้ง่ายที่สุดคือการสูญเสียความทรงจำ ซึ่งสามารถนำไปสู่ความสับสนเรื่องเวลาและสถานที่ ทำให้การทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นไปได้ยากขึ้น บางคนอาจจะลืมแม้กระทั่งครอบครัวของตัวเอง เพื่อน หรือแม้แต่คนที่รัก
ในการบำบัดผู้ป่วยอัลไซเมอร์ พบว่าการฟื้นฟูความทรงจำระยะยาวนั้นเป็นไปได้มากกว่าความทรงจำระยะสั้น โดยในช่วงระยะแรกของโรคอัลไซเมอร์นั้นมักจะส่งผลต่อความทรงจำระยะสั้นก่อน เช่น ผู้ป่วยมักจะลืมว่าเมื่อเช้าตนเองรับประทานอะไร หรือวกกลับมาพูดประโยคเดิม ๆ ที่เคยพูดไปแล้วซ้ำไปซ้ำมาในระหว่างการสนทนา
เพราะการฟื้นฟูความทรงจำระยะยาวนั้นง่ายกว่า ดังนั้นเราจึงควรนึกย้อนถึงความทรงจำเก่า ๆ และเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นอยู่เสมอ เพื่อรักษาความทรงจำให้คงอยู่กับเรา การใช้ภาพถ่ายช่วยเก็บความทรงจำเหล่านั้นไว้ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทรงพลังมากเช่นกัน
ประโยชน์ของภาพถ่าย นอกจากจะช่วยให้โมเมนต์เก่า ๆ ที่เคยเกิดขึ้นยังคงมีชีวิตในความทรงจำ ยังเป็นสิ่งที่ช่วยย้ำเตือนให้เราอยู่กับปัจจุบัน เมื่อได้นึกถึงช่วงเวลาในอดีตหลังจากได้ดูภาพถ่ายเหล่านั้น สิ่งนี้จะช่วยรักษาความทรงจำและทำให้เราตระหนักรู้ถึงช่วงเวลาในปัจจุบันเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน ไม่ใช่เพียงแค่ภาพความหลังครั้งเก่าที่มีประโยชน์ต่อเราเท่านั้น ภาพถ่ายใหม่ ๆ ในสมัยปัจจุบันก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรายังคงอยู่กับ ณ ช่วงเวลานี้ เพราะความทรงจำระยะสั้นที่หายไป เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รูปภาพพวกนี้จะช่วยย้ำเตือนให้พวกเขาเข้าใจเหตุการณ์ในปัจจุบันด้วย อย่างเช่นภาพถ่ายอาหารเช้า ภาพถ่ายเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ภาพถ่ายท้องฟ้าในแต่ละวัน เป็นต้น
5 เคล็ด (ไม่) ลับ กุญแจสู่การกระตุ้นความทรงจำผ่านภาพถ่าย
การกระตุ้นความทรงจำของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์และผู้ที่มีอาการความจำเสื่อมนั้นมีความจำเป็นมาก เพราะประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราเคยได้ผ่านมาในการใช้ชีวิตจะช่วยหล่อหลอมให้เราเป็นเรา เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มสูญเสียความทรงจำเหล่านี้ไป นั่นหมายถึงการรับรู้ถึงตัวตนที่ค่อย ๆ หายไปด้วยเช่นกัน เมื่อเรียนรู้ทริกในการกระตุ้นความทรงจำผ่านภาพถ่าย 5 วิธีนี้ จะช่วยให้การกระตุ้นความทรงจำของคนที่คุณรักเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น
- การทำอัลบั้มภาพถ่ายส่วนตัวให้กับคนที่คุณรัก
อาจเป็นการตั้งชื่ออัลบั้มภาพหรือสแคร็ปบุ๊กเป็นชื่อของคนคนนั้น หรือใช้คำให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความเป็นครอบครัว เช่น เรื่องราวชีวิตของคุณแม่พิมพร เป็นต้น ในอัลบั้มภาพนี้ควรมีภาพของคนในครอบครัว เพื่อน หรือคนใกล้ชิด ทั้งในอดีตและปัจจุบัน หากเป็นไปได้อาจใช้รูปของเจ้าของอัลบั้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเอาไว้ในหน้าแรกสุด เพราะเมื่อผู้ป่วยได้เห็นภาพของตนเองที่กำลังยิ้มแย้ม จะทำให้พวกเขายิ้มตามโดยสัญชาตญาณ ซึ่งจะดึงความรู้สึกแห่งความสุขออกมาได้ตั้งแต่หน้าแรกของการเปิดดู - ทำภาพให้ใหญ่และใส่คำอธิบาย
ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุ ดังนั้นจึงอาจมีสายตาฝ้าฟางบ้างเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นการใช้รูปและตัวอักษรขนาดใหญ่ ใช้คำที่เข้าใจง่าย จะทำให้คนที่คุณรักประมวลผลรูปภาพเหล่านี้ได้ง่ายมากขึ้น - ใช้กล้องถ่ายรูปและสมุดบันทึกเพื่อจารึกความทรงจำ
การเชิญชวนให้คนที่คุณรักบันทึกความทรงจำผ่านสมุดไดอารี่หรือสแคร็ปบุ๊กควบคู่กับการใช้กล้องถ่ายรูป จะทำให้พวกเขาได้บันทึกความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันหรือผู้คนที่ได้พบเจอด้วยตัวเขาเอง ส่วนจะใช้กล้องถ่ายรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของอาการความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ของผู้ป่วยเอง แต่ไม่ว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตัล หรือกล้องโพลารอยด์ ก็สามารถบันทึกความทรงจำไว้ได้ทั้งนั้น - อัปโหลดความทรงจำให้คงทนบนคลาวด์ พื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์
ความทรงจำเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ละคนก็จะมีประสบการณ์และการดำเนินชีวิตในแต่ละวันที่แตกต่างกันออกไป ในปัจจุบันจึงมีหลากหลายแอพพลิเคชันที่มีฟังก์ชันในการจัดเก็บข้อมูล และจัดเรียงตามการปรับแต่งของผู้ใช้ การจัดเก็บความทรงจำลงบนคลาวด์ ยังเป็นหลักประกันว่ามันจะคงทน ไม่สูญสลายไปตามกาลเวลา อีกทั้งค่อนข้างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวอีกด้วย - ย้อนกลับมาดูภาพถ่าย เพื่อฉายความทรงจำที่ถูกบันทึกซ้ำอีกบ่อย ๆ
ใจความสำคัญในการช่วยผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในการระลึกถึงความทรงจำ คือการทำให้เขาได้นึกถึงมันบ่อย ๆ การย้อนดูรูปถ่ายเพียงแค่ครั้งเดียวและไม่เปิดดูอีกเลยนั้นไม่ช่วยอะไร เราควรจะให้เวลากับเขา นั่งดูภาพถ่ายในวันวาน และนั่งย้อนนึกถึงความหลังเหล่านั้นด้วยกันบ่อย ๆ
เตรียมพบกับพลังของภาพถ่าย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่ช่วยบันทึกความทรงจำให้คงทน และช่วย ‘หยุดเวลา’ แต่ยังมีพลังในเชิงของศิลปะกับงาน “Samila Odyssey สมิหลาเชิงซ้อน” พร้อมสำรวจแนวคิด “The South’s Turn ถึงทีใต้ ได้แรงอก!” กับประสบการณ์ “ปักษ์ใต้มีดีไม่เหมือนใคร” ใน “เทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ 2567” ระหว่างวันที่ 17 - 25 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00 - 21.00 น. ณ ย่านเมืองเก่าสงขลา หาดสมิหลา หาดใหญ่ จะนะ จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakktaiidesignweek.com และ FB/IG: pakktaiidesignweek
ที่มา : บทความ “The Power of Pictures: Using Photographs for Stimulating Memories” โดย Oak Senior Living
บทความ “6 Best Ways to Stimulate Memories Through Photos” โดย Mark Huntsman
เฟซบุ๊ก "D1839"
ภาพ : วิรุนันท์ ชิตเดชะ, นิทรรศการ Samila Odyssey สมิหลาเชิงซ้อน, Pakk Taii Design Week
เรื่อง : ชลธิชา แสงสีดา