โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ไหว้ 9 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ใน 8 วัดดังทั่วกรุงเทพฯ

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พระแก้วมรกต (ภาพโดย วรวิทย์ พานิชนันท์)

ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ การได้สักการะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หรือพระพุทธรูปองค์สำคัญ ย่อมเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ และช่วยให้จิตใจสงบ ผ่องใส ก่อนเริ่มศักราชใหม่ด้วยความสุข

“ศิลปวัฒนธรรม” จึงรวบรวม 9 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ จาก 8 วัดดัง พระอารามหลวงในกรุงเทพมหานครที่ควรกราบไหว้ หรือขอพรตามความปรารถนา ซึ่งล้วนเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ยาวนาน ควรค่าแก่การไปสักการบูชาสักครั้งในชีวิต ดังนี้

1. พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ “พระแก้วมรกต” วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

พระแก้วมรกต คือพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นพระประธานปางสมาธิ ทำด้วยรัตนะสีเขียวเนื้อเดียวกันทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ ณ วัดพระศรีรัตนศาสนาดาราม ในพระบรมมหาราชวัง

พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศไทยมาตั้งแต่ พ.ศ. 2321 เป็นที่มาของชื่อ “กรุงรัตนโกสินทร์”ซึ่งมีความหมายถึงองค์พระแก้ว คือ แก้วของพระอินทร์และมีความเชื่อว่า พระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่ ณ ที่แห่งใด ที่นั้นจะมีแต่ความสุขเจริญรุ่งเรือง

2. พระพุทธชินราช วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ จำลองแบบจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จังหวัดพิษณุโลก ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เขตดุสิต

พระพุทธชินราชจำลองนี้หล่อด้วยทองคำหนักถึง 3,940 ชั่ง เป็นพระพุทธรูปในศิลปะแบบสุโขทัย มีเรือนแก้ว และประทับนั่งเหนือรัตนบัลลังก์หินอ่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5มีพระราชดำริให้หล่อเป็นพระประธานในพระอุโบสถหินอ่อนวัดเบญจมบพิตรฯ เมื่อ พ.ศ. 2444

3. และ4. พระโต กับพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหารราชวรมหาวิหาร

พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร มีพระพุทธรูปสำคัญถึง 2 องค์ คือ พระประธาน (พระโต) และพระพุทธชินสีห์

พระโตเป็นพระพุทธรูปโบราณองค์ใหญ่ เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดสะพาน เมืองเพชรบุรี ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “พระโต” สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ(วังหน้าในรัชกาลที่ 3) ทรงให้อัญเชิญมาเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารฯ

ส่วนพระพุทธชินสีห์เป็นพระพุทธรูปสำคัญของหัวเมืองฝ่ายเหนือ มีความเก่าแก่จากประวัติการสร้างในตำนานพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกสร้างเมืองพิษณุโลกเมื่อ พ.ศ. 1500 เดิมประดิษฐานอยู่ในพระวิหารด้านหนือของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จังหวัดพิษณุโลก และเป็นสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพอีกเช่นกันที่ทรงให้อัญเชิญมาประดิษฐานยังวัดบวรนิเวศวิหารฯ เมื่อ พ.ศ. 2372

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4สมัยยังทรงผนวช และครองวัดบวรนิเวศวิหารฯ ทูลขอพระบรมราชานุญาต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3เพื่ออัญเชิญพระพุทธชินสีห์มาเป็นพระประธานในพระอุโบสถ ออกสถิตหน้าพระโต

5. พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ“หลวงพ่อทองคำ” วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร

พระพุทธรูปปางมารวิชัย นั่งสมาธิราบ ประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหาร วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ “กินเนสส์บุ๊ก” ค.ศ. 1991 บันทึกว่า หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรฯ เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าสูงกว่า 21 ล้านปอนด์

นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า หลวงพ่อทองคำเป็นพระพุทธรูปจากวิหารวัดมหาธาตุ กรุงสุโขทัย ตามที่อ้างถึงในศิลาจารึกหลักที่ 1 (ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง) เท่ากับว่าองค์พระจะมีอายุกว่า 700 ปี

เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1ทรงมีพระบรมราชโองการให้อัญเชิญพระพุทธรูปกว่าพันองค์ตามวัดร้างในสุโขทัยมาไว้ที่วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) หลวงพ่อทองคำก็คือหนึ่งในนั้นด้วย แต่อยู่ในสภาพมีปูนปั้นหุ้มทั้งองค์

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 ระหว่างย้ายองค์พระเข้าพระวิหารของวัดไตรมิตรวิทยารามฯ (ขณะนั้นชื่อ วัดสามจีน) ปรากฏว่าปูนตรงพระอุระแตกจนเห็นเนื้อทองคำด้านใน เมื่อกระเทาปูนออกจึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์

6. หลวงพ่อศาสดา วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร

พระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อสมัยสุโขทัย เป็นพระประธานของพระอุโบสถวัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เขตบางกอกน้อย ซึ่งเดิมชื่อ “วัดทอง” มีอายุราวปลายสมัยอยุธยา และเคยเป็นลานประหารชีวิตเชลยพม่าสมัยกรุงธนบุรี ก่อน รัชกาลที่ 1จะโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดสุวรรณาราม”

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการไหว้ขอพรหลวงพ่อศาสดา คือผู้คนมักจะมาบนบานเรื่องเกี่ยวกับเกณฑ์ทหาร แล้วแก้บนด้วยการ “วิ่งม้า” แต่เป็นคนวิ่งกับม้าก้านกล้วยหรือผ้าขาวม้า (แทนม้าจริง) โดยมีข้อควรทราบคือห้ามพูดคำว่า “ขอ” เป็นอันขาด

7. พระพุทธปฏิมากร วัดหนังราชวรวิหาร

พระพุทธรูปประธานปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย หล่อด้วยโลหะ ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดหนัง เขตจอมทอง เป็นวัดเก่าสมัยอยุธยา สร้างในรัชกาล สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 9(พระเจ้าท้ายสระ, พ.ศ. 2251-2275) และกลายเป็นวัดร้างอยู่กว่าร้อยปี ก่อนจะมีการสถาปนาขึ้นใหม่สมัยรัชกาลที่ 3

จากหลักฐานจารึก พระพุทธปฏิมากรเป็นพระพุทธรูปที่เจ้านายราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัยสร้างขึ้น โดยตรงกับสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) แห่งกรุงศรีอยุธยา แล้วประดิษฐานไว้วัดสำคัญวัดใดวัดหนึ่งในแคว้นสุโขทัย ก่อนอัญเชิญลงมาเมื่อสุโขทัยถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา

8. พระพุทธมหาจักรพรรดิ วัดนางนองวรวิหาร

พระประธานทรงเครื่องสำริดปิดทอง ปางมารวิชัย พระพัตร์พุทธศิลป์แบบสุโขทัย ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดนางนองวรวิหาร เขตจอมทอง วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ตั้งแต่รัชกาล สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 8(พระเจ้าเสือ, พ.ศ. 2246-2251)

พระพุทธมหาจักรพรรดิมีเครื่องทรงเครื่องประดับทุกชิ้นแยกจากองค์พระ (สวมทับ) ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีปั้นลายปิดทองประดับกระจก โดยมงกุฎทรงที่สวมอยู่ในปัจจุบันเป็นองค์ที่ 2 เพราะองค์แรก รัชกาลที่ 3 ให้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดนภศูลพระปรางค์วัดอรุณฯ

9. พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร (วัดราชโอรส)

พระประธานปางสมาธิ วัสดุโลหะ ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดราชโอรส วัดประจำรัชกาลที่ 3 เดิมเรียก “วัดจอมทอง” พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้หล่อขึ้น เมื่อสิ้นรัชกาล รัชกาลที่ 4 ทรงถวายพระนามพระพุทธรูปว่า “พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร”และให้อัญเชิญพระสรีรังคารรัชกาลที่ 3 มาประดิษฐานไว้ฐานพระพุทธรูป

ปัจจุบันเหนือองค์พระปฏิมายังได้ประดิษฐาน “นพปฎลมหาเศวตฉัตร” สัญลักษณ์พระมหากษัตริยาธิราช รัชกาลที่ 3 และกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุเมื่อ พ.ศ. 2492

จะเห็นว่าพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 องค์ ล้วนมีประวัติเป็นมายาวนาน รวมถึงเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ชาติไทยและบูรพกษัตริย์ทั้งสิ้น การได้ไปกราบไว้นมัสการจึงเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองอย่างยิ่ง

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

กองบรรณาธิการข่าวสด. (2557). ไหว้พระประธาน 77 จังหวัด.กรุงเทพฯ : มติชน.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 30 ธันวาคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ไหว้ 9 พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ใน 8 วัดดังทั่วกรุงเทพฯ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...