TKN ก้าวสู่ธุรกิจ OEM
ต้องยอมรับว่า ภาพจำของบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKNของ “เสี่ยต๊อบ-อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์” ก็คือแบรนด์ “สาหร่ายเถ้าแก่น้อย”แต่ช่วงหลัง ๆ ด้วยกระแสการกินสาหร่ายไม่บูมเหมือนในอดีต ผสมโรงกับตลาดสาหร่ายที่อิ่มตัว ทำให้การ Growth ยากขึ้นเรื่อย ๆ…
TKNจึงต้องเปิดปฏิบัติการเชิงรุกหันไปจับมือกับคนโน้นคนนี้เพื่อสร้างการเติบโตต่อไป อาทิ การร่วมทุนกับบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ในการออกผลิตภัณฑ์ข้าวโพดคั่ว มี 3 รสชาติหลัก ได้แก่ รสชีส (Cheese), ออริจินอล (Original) และข้าวโพดปิ้ง (Grilled Corn) และรสชาติพิเศษ รสโนริสาหร่าย (Nori Seaweed ) ร่วมกับบริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) CHAO ออกผลิตภัณฑ์ข้าวเกรียบ และร่วมกับบริษัท คาลบี้ธนาวัธน์ จำกัด ผู้ผลิตขนมถั่วลันเตาอบกรอบ ภายใต้แบรนด์ “บันบัน” เปิดตัวขนมรสชาติใหม่ “บันบัน รสสาหร่ายสไปซี่” เป็นต้น
รวมทั้งการขยายไปตลาดต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐฯ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ TKNต้องทำ…
แต่ถ้ายังเดินตามทำนองคลองธรรมต่อไป อัตราการ Growth นอกจากจะไม่หวือหวาแล้ว ยังจะต่ำลงเรื่อย ๆ อีกต่างหาก ตอกย้ำด้วยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2568 ที่มีกำไรสุทธิ 297.1 ล้านบาท ลดลง 57.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 697.1 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 3,931.6 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 4,242.9 ล้านบาท
กลายเป็นโจทย์ทางธุรกิจให้ TKNต้องคิดใหม่ทำใหม่..??
ขณะที่ TKNมีโรงงานผลิตสาหร่ายอยู่แล้ว แต่ด้วยยอดขายไม่ได้สูงเท่าเดิม ก็จะทำให้คาปาซิตี้ของโรงงานหายไป ไม่เกิด Economies of Scale หรือการประหยัดต่อขนาด ทำให้ TKNต้องเร่งสร้างแวลูให้กับโรงงาน ไม่งั้นในงบการเงินจะต้องบุ๊กค่าเสื่อมไปเรื่อย ๆ
เลยเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์การประกอบธุรกิจของบริษัทย่อยเสียใหม่เเป็น “ประกอบกิจการผลิต รับจ้างผลิต และว่าจ้างผลิตสินค้าประเภทอาหารแปรรูป ผลไม้แปรรูป อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวตามวัตถุประสงค์ทั้งหมด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ”
จะเห็นว่า นอกจากขนมขบเคี้ยว ซึ่งเป็นงานถนัดของ TKNแล้ว ยังเปิดกว้างไปรับจ้างผลิตอาหารแปรรูป ผลไม้แปรรูป อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มด้วยนะ
ส่วนจะทำหรือเปล่า..?? ไม่รู้ แต่เป็นการเปิดประตูบ้านไว้ก่อนว่างั้น..!!
และเพื่อให้สอดรับกับวัตถุประสงค์ใหม่ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามบริษัทย่อยแห่งนี้ใหม่ด้วย จากเดิมชื่อบริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด ก็เปลี่ยนเป็นบริษัท ทีเคเอ็น เน็กซ์ จำกัด (TKN NEXT Co., Ltd.)
โมเดลนี้ก็จะคล้าย ๆ กับบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ของ “เสี่ยตัน ภาสกรนที” นั่นแหละ ซึ่งจุดเริ่มต้นขายชาเขียวแบรนด์อิชิตันอย่างเดียว แต่ด้วยคาปาซิตี้ของโรงงานยังเหลืออีกเยอะ ทำให้ต้องเบนเข็มไปรับจ้างผลิต หรือ OEM ให้กับแบรนด์อื่น ๆ ด้วยลูกค้าก็อย่างเช่น น้ำมะพร้าว IF เป็นต้น
รวมทั้งบริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINAเจ้าของแบรนด์ชุดชั้นในชื่อดังก็ใช้โมเดลนี้ ซึ่งมีทั้งแบรนด์ของตัวเอง และทำ OEM ให้กับแบรนด์อื่นด้วย
เผลอ ๆ ตอนนี้สัดส่วนรายได้จาก OEM ของ ICHI และSABINA อาจจะใกล้เคียงหรือสูงกว่ายอดขายจากแบรนด์ตัวเองไปแล้วมั้ง…ใครจะไปรู้
ก็ถือเป็นการแก้ Pain Point ของตัวเอง…
กลับมาที่ TKNซึ่งต่อไปก็คงใช้ “ทีเคเอ็น เน็กซ์” เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในการทำ OEM ให้กับแบรนด์อื่นแหละ…
ก็น่าจับตากับการก้าวสู่ธุรกิจ OEM ของ TKN ซึ่งจะซัคเซสแค่ไหน..?? เป็นช็อตที่ต้องจับตากันต่อไป
ส่วนกรณีข่าวฉาวของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษ จนฉุดให้หุ้น TKNเละเป็นโจ๊ก อย่าให้ said เลย…ช่วงนี้เจ็บคอ
…อิ อิ อิ…