ไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่ไม่อยากทำอะไร! 7 วิธี ‘ เติมพลังให้ตัวเอง ’ ช่วยปลุกไฟมีกำลังใจลุยทำสิ่งต่างๆ 📌
สวัสดีค่ะสาวซิส วันนี้เราแวะมาชวนเมาท์คลายเหงากันอีกแล้วนะ ヾ(◍’౪`◍)ﾉﾞ♡
ในช่วงที่สถานการณ์รอบตัวมีแต่เรื่องให้เครียดวันละหลายตลบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง COVID-19 ที่ระบาดหนักไม่แผ่ว เรื่องเงินๆ ทองๆ เรื่องการทำงาน / การเรียน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวที่พร้อมใจกันถาโถมเข้ามาในชีวิต ก็อาจเป็นสาเหตุทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกหมดกำลังใจ จนไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นไปหยิบจับทำอะไรเหมือนกันแน่ๆ เลยใช่มั้ยคะ?! จากเมื่อก่อนที่เคยคิดอยากทำนั่นทำนี่ทีละสิบอย่างพร้อมๆ กัน ก็กลายเป็นใช้ชีวิตติดลูปเดิมๆ ซ้ำๆ จนไม่ได้ก้าวหน้าไปข้างหน้าเลยสักนิดเดียว
เราขอเตือนเลยว่าถ้าสาวซิสปล่อยให้ไฟในตัวเองมอดไหม้ลงเรื่อยๆ ต่อไปแบบนี้ สักวันไฟอาจดับสนิทจนจุดติดยากก็ได้นะ วันนี้เราเลยหยิบ 7 วิธี ‘ เติมพลังให้ตัวเอง ’ มาแชร์ให้ได้ลองนำไปปรับใช้กันดู ซึ่งวิธีเหล่านี้มันจะช่วยปลุกไฟให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง และมีกำลังใจพร้อมที่จะลุยทำสิ่งต่างๆ แน่นอน
｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆
① ไม่ไหว อย่าฝืน… ต้องหาเวลาพักผ่อนบ้าง
สาวๆ บางคนพอเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำอะไรสักอย่าง ช่วงแรกๆ เธออาจแก้ปัญหานี้ด้วยการฝืนทำสิ่งนั้นๆ ทั้งที่รู้ดีว่าร่างกายและสมองยังไม่พร้อมที่จะทำมัน สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นเสียเวลาในชีวิตไปกับการนั่งฝืนตัวเองแบบไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง แถมยังทำให้รู้สึกหมดพลังและไม่อยากจะทำอะไรมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าอีกต่างหากนะ เราเลยอยากแนะนำว่าแทนที่เธอฝืนบังคับตัวเองในช่วงเวลาที่ไม่พร้อม ก็ควรหาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจ หรืออนุญาตให้ตัวเองได้ทำกิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขบ้าง เพื่อเป็นการผ่อนคลายสมอง จิตใจ และร่างกาย พาตัวเองออกจากความเครียดทั้งหลาย พร้อมชาร์จแบตให้ทั้งกายและใจพร้อมกลับมาลุยกับสิ่งต่างๆ ต่อไปด้วยไงล่ะ
② จัดตารางส่วนตัวว่าต้องทำอะไรบ้าง
บางครั้งการที่สาวซิสรู้สึกไม่อยากจะทำอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว มันไม่ได้เกิดจากการที่เธอโดนความขี้เกียจเข้าครอบงำอย่างเดียวหรอกนะคะ แต่อาจเป็นเพราะว่าในชีวิตของเธอมีแต่เรื่องจุกจิกที่น่าเบื่อให้ต้องทำเยอะเกินไปต่างหาก เช่น งานบ้าน เลี้ยงหมา ปลูกต้นไม้ ฯลฯ พอต้องใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นให้เสร็จสิ้น ก็อาจทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยและสูญเสียพลังงานไปกับมันก็ได้ งานนี้สาวๆ เลยควรจดลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน พร้อมกับลำดับความสำคัญของแต่ละงานด้วยว่าเรื่องไหนสำคัญที่สุด? หรือเรื่องไหนต้องเร่งรีบทำให้เสร็จ? เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรทำอะไรก่อน - หลัง พอทำงานอย่างมีแบบแผน ไม่สะเปะสะปะ ก็จะช่วยให้จัดการกับหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ให้สำเร็จง่ายขึ้น
③ อ่านหนังสือเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง
ถ้าช่วงไหนที่รู้สึกว่าไม่อยากจะลุกขึ้นไปทำงานจริงๆ แต่ก็แอบรู้สึกผิดถ้าจะอยู่นิ่งๆ ไม่ขยับตัวไปไหน หรือไม่อยากเสียเวลาไปเปล่าๆ แบบไม่ได้ประโยชน์อะไรเหมือนกัน ก็ลองใช้วิธีอ่านหนังสือดีๆ สักเล่มดูสิคะ อาจเลือกอ่านหนังสือของคนที่เธอยกให้เป็นไอดอลและอยากประสบความสำเร็จอย่างเขาบ้าง หรือหนังสือที่อ่านแล้วช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง หรือแม้แต่หนังสือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เธอสนใจก็ได้นะ วิธีนี้ก็จะช่วยให้เธอได้ผ่อนคลายตัวเองไปกับตัวหนังสือ ใช้เวลาพักผ่อนแบบมีคุณภาพ เผลอๆ ไม่แน่ว่าพออ่านหนังสือเล่มนั้นๆ จนจบแล้ว อาจช่วยเติมไฟให้รู้สึกมีแรงใจและกระตุ้นให้พร้อมลุกขึ้นมาลุยทำงานอีกครั้งก็เป็นได้ ว่าแล้วก็รีบพุ่งตัวไปซื้อหนังสือดีๆ ที่โดนใจมาอ่านด่วนๆ เลยดีกว่า ><
④ เลิกพูดว่า “ พรุ่งนี้ค่อย… ” แล้วลงมือทำตั้งแต่วันนี้
ลองนึกย้อนดูพฤติกรรมที่ผ่านมาของตัวเองหน่อยสิคะว่า เธอชอบพูดประโยคที่ว่า “ พรุ่งนี้ค่อย… ” / “ เดี๋ยวค่อย ” / “ วันหน้าทำแน่นอน ” หรือประโยคอื่นๆ ทำนองนี้บ้างรึเปล่า??? เราขอเตือนไว้เลยนะว่าประโยค “ พรุ่งนี้ค่อย ” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะกับเรื่องการทำงาน การเรียน หรือการลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง มันจะหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ จนไม่ได้เริ่มต้นลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างเดียว เพราะฉะนั้นถ้าเธอตั้งเป้าหมายเรื่องไหนเอาไว้แล้ว เช่น อยากเลื่อนตำแหน่ง / ปรับขึ้นเงินเดือน แทนที่จะไปขยันทำงานในช่วงใกล้ๆ เวลาประเมินผลงาน ก็ควรทุ่มเทตั้งใจทำงานทุกๆ วันโดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพราะหากเธอทำปัจจุบันอย่างเต็มที่ก็จะส่งผลดีต่ออนาคตไปด้วยนะ
⑤ ลองเปิดใจให้ตัวเองได้ลองทำอะไรใหม่ๆ บ้าง
เอาจริงๆ ถ้าต้องใช้เวลาไปกับอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ เหมือนเดิมทุกๆ วัน มันก็มีบ้างที่จะเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและหมดแพชชั่นกับสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เลยนะ แล้ววิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ดีที่สุดก็คือ การเปิดใจและเปิดประสบการณ์ให้ตัวเองได้ลองทำอะไรใหม่ๆ บ้างนั่นเองค่ะ โดยอาจเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนตารางชีวิตประจำวันบางอย่างก่อนก็ได้นะ เช่น จากที่เคยตื่นนอนแล้วกินข้าวเช้า ตามด้วยการเริ่มต้นกิจกรรมประจำวัน ก็อาจลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายหลังตื่นนอนดูบ้าง หรือหากเธอเบื่อหน่ายจากการเรียน / การทำงาน ก็อาจมองหากิจกรรมใหม่ๆ และลงมือทำมันดู นอกจากจะช่วยลดความเบื่อหน่ายได้แล้ว ยังได้ใช้โอกาสนี้เพื่อค้นหาตัวเองด้วยว่าชอบทำอะไร? ถนัดเรื่องไหน? รู้สึกมีความสุขกับอะไรบ้าง? ไงล่ะ
⑥ ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ
เคยได้ยินประโยคที่ว่า “ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ” รึเปล่าคะ??? ถ้าสาวๆ อยากมีแรงกายและแรงใจในการทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่จะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาดเลยก็คือการหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ ลองนึกดูสิว่าช่วงไหนที่มีทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กัน หากเธอปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอหรือจิตใจเหี่ยวเฉา ก็คงไม่สามารถรับมือกับงานต่างๆ เหล่านั้นได้หรอกนะ รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องดูแลสุขภาพร่างกายควบคู่ไปกับสุขภาพจิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกินอาหารดีมีประโยชน์ให้ครบทั้ง 3 มื้อ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หรือออกกำลังกายเป็นประจำ พอทั้งร่างกายและจิตใจแข็งแรงก็จะช่วยให้เธอทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่มากขึ้น
⑦ หลีกเลี่ยงเพื่อนหรือคนใกล้ตัวที่มีพลังลบ
ขอให้สาวๆ บอกกับตัวเองไว้เลยนะว่าเธอคบเพื่อนแบบไหนก็จะกลายเป็นคนแบบนั้น หากเธอคบเพื่อนที่ขยันและมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ก็จะส่งพลังบวกให้เธออยากประสบความสำเร็จแบบเขาบ้าง แต่ถ้าเธอเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับเพื่อนที่มีพลังลบ วันๆ เอาแต่คิดถึงเรื่องไม่ดี ไม่มีสาระ หรือพากันเสียการเสียงาน ก็อาจยิ่งทำให้เธอใช้ชีวิตติดลบตามพวกเขาไปด้วยเหมือนกัน ดังนั้น สาวซิสก็ควรหลีกเลี่ยงการคบเพื่อนที่มีทัศนคติแง่ลบ อย่าอยู่ท่ามกลางคนใกล้ตัวที่มีพลังลบจะดีกว่านะ ถ้าอยากจะเติมพลังและกระตุ้นให้ตัวเองอยากลุกขึ้นมาทำบางสิ่งบางอย่างที่มีประโยชน์บ้าง ก็ต้องรู้จักเลือกคบเพื่อนที่มีพลังบวก หรือคนที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและเติมไฟให้เธออยากพัฒนาตัวเองมากขึ้นแทน #อะไรไม่ดีก็โยนทิ้งไป
｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆ ｡ ⋆
เอ้าาา อย่าเพิ่งท้อถอยหรือหมดกำลังใจไปก่อนนะคะ เชื่อเราสิว่าทุกคนก็ต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่หมดไฟ หรือรู้สึกไม่อยากจะทำอะไรกันมาแล้วทั้งนั้น แล้วถ้าช่วงไหนก็ตามที่สาวๆ เริ่มรู้สึกหมดกำลังใจขั้นสุด ก็อย่าลืมลองทำตาม วิธีเติมพลังให้ตัวเอง ที่เราหยิบมาแชร์กันวันนี้ทั้ง 7 ข้อ เพียงแค่เธอปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติบางอย่าง อย่างเช่นจัดตารางชีวิตและวางแผนการทำงานในแต่ละวัน หาเวลาเพื่อผ่อนคลายตัวเองจากความเหนื่อยล้าและความเครียด หมั่นดูแลร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอ และเปิดใจลองทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อค้นหาตัวเองดูบ้าง เท่านี้ก็ช่วยเปลี่ยนชีวิตที่เหี่ยวเฉาให้กลับมามีไฟลุกโชนอีกครั้ง และกระตุ้นให้เธออยากทำสิ่งต่างๆ ได้แล้ว ヽ(∀゜ )人( ゜∀)ノ
ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore