โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

หลังม่านเจรจาภาษีทรัมป์

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 11.42 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 23.30 น. • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

วันที่ 7 ก.ค. 68 (ตามเวลาท้องถิ่น) “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการส่งจดหมายแจ้งต่อ 14 ประเทศแรก เกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff)เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 68 รวมถึง “ประเทศไทย” ด้วยอัตราภาษี 36%

แต่เบื้องหลังก่อนจะมาถึงวันดังกล่าว หลายประเทศฝั่งเอเชีย มีการ “เจรจาข้อตกลงการค้าใหม่กับสหรัฐฯ” โดยมีเนื้อหาแก่นสารข้อแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกันไป

เริ่มจาก “จีน” ตกลงระงับการเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ส่งผลให้อัตราภาษีปัจจุบันเหลือ 10% (ไม่รวมภาษีเพิ่มเติมจากกรณีเฟนทานิล) จนถึงวันที่ 12 ส.ค. 68 และชะลอการขึ้นภาษีเพิ่มเติมระหว่างกันกับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันจีนและสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงให้จีน อนุมัติการส่งออกแร่หายากและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนสหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการควบคุมบางประการที่เคยใช้กับจีน เช่น การจำกัดซอฟต์แวร์ออกแบบชิป

“อินเดีย” เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 68 “ไพยุช โกยาล” รัฐมนตรีพาณิชย์อินเดีย ระว่า อินเดียจะไม่เร่งรีบเจรจาการค้าตามกรอบเวลา โดยจะลงนามข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เมื่อรายละเอียดทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ และสอดคล้องกับประโยชน์ของประเทศ เท่านั้น ปมปัญหาหลักอยู่ที่ “การเปิดตลาดสินค้าเกษตร”

“อินโดนีเซีย” ทางการอินโดนีเซีย ระบุว่า สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) วันที่ 7 ก.ค. 68 เกี่ยวกับแผนการลงทุนและการจัดซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ

“ญี่ปุ่น” การเจรจายังคงดำเนินต่อไปโดยประเด็นสำคัญที่ตกลงกันไม่ได้ คือการยกเลิกหรือลดภาษีนำเข้าสินค้ารถยนต์และการเปิดตลาดสินค้าเกษตรของญี่ปุ่น นอกจากนี้คาดว่าการเลือกตั้งวุฒิสภาของญี่ปุ่นวันที่ 20 ก.ค. 68 จะยิ่งทำให้การเจรจาเกิดซับซ้อนขึ้น

“เกาหลีใต้” เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 68 รัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้ ได้ขอขยายระยะเวลาการชะลอขึ้นภาษี เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาต่อ โดยหัวข้อสำคัญยังคงอยู่ที่การยกเลิก หรือ ลดภาษีรถยนต์และเหล็กกล้า

“มาเลเซีย” ทางการมาเลเซีย ระบุว่า สหรัฐฯ ต้องการบรรลุข้อตกลง ก่อนวันที่ 9 ก.ค. 68 หลังจากเจรจามาแล้ว 2 รอบ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมเปิดเผยออกมา..

“ไต้หวัน”มีเป้าหมายเจรจาข้อตกลงลดภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ ตามแบบความตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (United States-Mexico-Canada Agreement: USMCA) และเสนอเพิ่มการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ อีก 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเวลา 10 ปี รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการนำเข้า LNG จากสหรัฐฯ

“ไทย”เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 68 ได้ยื่นข้อเสนอใหม่แก่สหรัฐฯ โดยเล็งไปที่อัตราภาษี 10% (กรณีดีที่สุด) โดยเสนอจะเพิ่มปริมาณการค้าระหว่าง 2 ประเทศและลดการเกินดุลการค้าของไทยต่อสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 5 ปีและลดเหลือศูนย์ภาย ใน 7-8 ปี (ปัจจุบันเกินดุลการค้าสหรัฐฯ 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

“เวียดนาม” สหรัฐฯ และเวียดนามบรรลุข้อตกลงหลักการแล้ว โดยจะกำหนดอัตราภาษีสินค้าส่งออกจากเวียดนามที่ 20% (จากภาษีตอบโต้เดิม 46%) ทั้งนี้สำหรับการขนส่งสินค้าแบบสวมสิทธิ์จะถูกเก็บภาษีอัตรา 40% โดยเวียดนามจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ทั้งหมด

กลับมาที่ “ประเทศไทย” หากเทียบเคียงภาษีศุลกากรตอบโต้ 36% จะบังเกิดความเสียหายต่อการส่งออกไทยระดับ 800,000-900,000 ล้านบาท..เลยทีเดียว..!!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...