โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ล่าไอ้เหี้ยมโจรใจบาปขโมยประตูวัด ซ้ำวางยาเบื่อหมาตาย 15 ตัว

แนวหน้า

เผยแพร่ 11 ก.พ. 2566 เวลา 17.00 น.

12 ก.พ.66 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอ้ดมินเพจบ้านดุงอัพเดตรับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดและผู้ใหญ่บ้านบ้านมีชัย หมู่ 8 ว่ามีคนร้ายเข้าไปขโมยประตูโขงสแตนเลสของวัด ที่วัดป่าหนองคำกู้เทพนิมิตร บ้านมีชัย หมู่ 8 ต.บ้านตาด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตร.ชุดสืบสวนสภ.ดงเย็น พบกับพระบุญถม ปริชาโณ อายุ 60 ปี เจ้าอาวาสวัดฯ และผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านกำลังตรวจสอบร่องรอยประตูโขงวัดที่ถูกคนร้ายมาขโมยไป โดยพบว่าเป็นประตูสแตนเลสจำนวน 2 บานๆ ละ 2.40 เมตรถูกคนร้ายขโมยไปจากตัวยึดกับประตูทางเข้าวัด ต่อมาพระบุญถมพาผู้สื่อข่าวไปดูสุนัขที่เหลืออยู่เพียง 2 ตัวคือเจ้าโคล่าและเจ้าแดง ส่วนอีก 15 ตัวที่เลี้ยงไว้ ถูกคนร้ายนำยาพิษมาเบื่อตายทั้งหมด โดยได้ฝังไปเรียบร้อยแล้ว

พระบุญถม เปิดเผยว่า อาตมาจำพรรษาที่วัดนี้องค์เดียว เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่คนร้ายมาวางยาเบื่อหมาในวัดตายถึง 15 ตัว โดยครั้งแรกเมื่อปลายเดือนม.ค.66 สุนัขภายในวัดถูกวางยาเบื่อตายก่อน 6 ตัว ต่อมาก็ทะยอยตายเรื่อยๆ เพิ่งฝังไปอีก 4 ตัวเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ตายรวมแล้ว 15 ตัวเหลือสุนัขในวัดเพียง 2 ตัว เมื่อคืนนี้ราวเที่ยงคืนอาตมาก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่าแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาดู พอเช้าวันนี้ขณะเดินออกไปบิณฑบาตพบว่าประตูสแตนเลสที่อยู่บริเวณประตูโขงหายไป จึงแจ้งกรรมการวัด ก่อนประตูหายเมื่อวานนี้เห็นคนแปลกหน้าขับรถยนต์เข้ามาภายในวัด 2 รอบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรกระทั่งประตูหายไป อนาคตทางวัดจะร่วมกับกรรมการวัดและผู้นำชุมชนประชุมหารื้อแนวทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดซ้ำขึ้นอีกเนื่องจากวัดอยู่ห่างไกลชุมชน

ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่สุนัขในวัดตายลงไปเนื่องจากอาตมาให้อาหารข้าวน้ำอยู่เป็นประจำ เพราะว่าอยู่รูปเดียวและมีหมาเป็นเพื่อน ขอฝากถึงโจรที่มาขโมยประตูรั้วและวางยาเบื่อสุนัขในวัดว่า ขอให้ทำงานสุจริตอย่าลักเล็กขโมยน้อยสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายบ้านเมือง

นายสำรอง โพธิรัมย์ อายุ 65 ปีมัคนายกวัดป่าฯ เปิดเผยว่า การที่โจรขโมยมาขโมยประตูรั้วของวัดและวางยาเบื่อฆ่าสุนัขนั้นส่วนตัวแล้วก็รู้สึกเสียใจมาก สถานที่นี้เป็นสถานที่ทำบุญทำกุศลทั้งมนุษย์และสัตว์ การทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องเป็นบาปเป็นกรรม สุนัขในวัดนี้ส่วนใหญ่จะมีคนเอามาปล่อยทางวัดก็รับเลี้ยงไว้โดยมีตนช่วยดูแล จากการสันนิษฐานพฤติกรรมที่คนร้ายก่อนจะลงมือก่อเหตุขโมยประตูนั้น คาดว่าจะมีการวางยาเบื่อสุนัขให้ตายก่อนและมีการลาดตระเวนดูต้นทางเป็นอย่างไร สำหรับประตูสแตนเลสที่หายไปนั้นมีประชาชนมาร่วมทำบุญติดตั้งให้ทางวัดนานแล้วราคาประมาณ 30,000 บาท เบื้องต้นเจ้าอาวาสและชาวบ้านได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ. ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอฝากไปถึงโจรที่ลงมือว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีลักทรัพย์และฆ่าสัตว์ ขอให้เลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ วัดเป็นสถานที่ทำคุณงามความดีไม่ใช่เป็นที่มาทำกระทำความผิดขอให้กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ทำมาหากินสุจริตเสียบ้าง อย่ามาขโมยแบบนี้เลยแถมยังวางยาเบื่อหมาตายอีกจำนวนมาก คิดถึงหัวอกสุนัขด้วยเขาก็มีหัวใจไม่น่าจะมาฆ่าเขาตายอย่างทรมานแบบนี้

ต่อมานายวีระพล รับแจ้งแฟนเพจจากคุณปลื้มเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าในอ.บ้านดุงแจ้งว่า มีคนร้ายนำประตูแสตนเลสมาขายให้ที่ร้านเมื่อเช้าวันนี้ ขอให้ไปตรวจสอบหน่อยว่าเป็นของวัดหรือไม่ เมื่อไปถึง ได้มีการวัดขนาดของประตูแสตนเลสและภาพถ่ายปรากฏว่าเป็นประตูของทางวัดจริงๆ และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อเช้านี้เวลา 08.07 น.ซึ่งทางร้านปิดร้านได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คนอายุประมาณ 40-50 ปีขับรถปิคอัพโตโยต้าวีโก้สีบอร์นเงินมาเคาะประตูเรียกบอกว่าเอาประตูแสตนเลสมาขายให้ โดยคนร้ายบอกว่าเป็นช่างรับเหมาทำประตูทำแล้วไม่ได้ขนาดและสเป๊ก จึงได้นำมาชั่งก.ก.ขาย คนร้ายได้เงินไป 1,100 บาท สำหรับคนนี้เคยเห็นมาขายพวกเศษเหล็ก 4-5 ครั้งแล้ว ซึ่งตร.ชุดสืบสวนสภ.ดงเย็นจะได้เร่งติดตามคนร้ายใจเหี้ยมฆ่าสุนัขตายเป็นจำนวนมากรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปหรือประชาชนพบเบาะแสเห็นคนร้ายแจ้งได้ที่สภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี.-008

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...