โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ขายก่อนได้เปรียบ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 28 ก.ค. เวลา 09.03 น. • เผยแพร่ 29 ก.ค. เวลา 00.00 น. • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวของตลาดหุ้นไทยแบบจัดเต็มทุกรายละเอียด “โมนิก้า” ขอพูดถึงท่าทีอุบาทว์ของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยสักหน่อย เพราะไม่คิดไม่ฝันว่า คนพรรคนี้จะมีพฤติกรรมที่ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกน่าไม่อายโดยเฉพาะการโพสต์ของ “ก่อแก้ว”ที่บอกศาลรัฐธรรมนูญว่า ควรเอา “อุ๊งอิ๊ง”กลับมาทำหน้าที่นายกฯเพราะประเทศอยู่ในภาวะคับขัน จึงต้องมีผู้นำที่มีอำนาจเต็ม..ตลกฉิXหาย เพราะที่มีปัญหาทุกวันนี้ หล่อนเป็นตัวต้นเหตุไม่ใช่เหรอ!

ส่วนอีกคนที่พูดตรงไปตรงมาอย่าง “เพ็ญแข” ก็กลายเป็นช็อตที่ทำให้คนด่ากันตรึม เพราะเจ๊ตะแบงเรื่องการปกป้องอธิปไตยกับเรื่องพลเรือนเสียชีวิตแบบที่คนดูรับไม่ได้ แถมยังออกตัวแรงแบบน่าเกลียดว่า “เราไม่รู้เขาตั้งใจแน่หรือเปล่า?” และเมื่อโดนพิธีกรไล่ต้อนเพื่อต้องการรู้ความจริงว่า รัฐบาลรู้อะไรบ้าง? เจ๊ก็โพล่งออกมากลางรายการว่า “ไม่ใช่พ่อฮุนเซน! แบบนี้..พรรคเพื่อไทยยังมีหน้าอยากจะบริหารประเทศต่ออีกเหรอ?

เมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาประมวลผลร่วมกับเรื่องภาษีทรัมป์ก็ทำให้อีฉันได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า นี่เป็นจังหวะขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง! เพราะปัจจัยหลายด้านทำให้หุ้นไทยต้องพักเพื่อรอจังหวะเทคตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง (ไม่ผ่าน 1,230 จุดสักที) อีฉันถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1,217.15 จุด บวกไป 4.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.69 หมื่นล้านบาท คือภาพสะท้อนของการรออะไรบางอย่าง (อาจเป็นเรื่องขายเมื่อความจริงปรากฏก็เป็นไปได้) นะคะ

ขนาดหุ้นที่ไต่เพดานขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่าง DOHOME ยังเริ่มถูกขายทำกำไรเป็นรอบ ๆ แต่แรงซื้อยังหนาแน่น เลยทำให้ราคาหุ้นขึ้นจากก้นเหวที่ระดับ 2.30 บาท อย่างช้า ๆ จนล่าสุดหุ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 4.06 บาทลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 323 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องของการ take profit เพื่อรอจังหวะถีบตัวขึ้นไปใหม่ โดยมีสตอรี่เรื่องซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วมเป็นตัวบิ้วงบไตรมาส 3นะจะบอกให้

ส่วนรายที่ตกอยู่ในสถานการณ์ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก”อย่างหุ้นนิคมอุตสาหกรรม AMATA ก็เริ่มแสดงอาการหมดแรงให้เห็นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดถูกเทขายอย่างจริงจัง จนราคาหุ้นลงมายืนอยู่ที่ระดับ 15.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 366 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่น่ากังวลหนักพอสมควร เพราะเรื่องภาษีทรัมป์ไม่รู้จะ “เป็นคุณ” หรือ “เป็นโทษ” กับบริษัทขนาดไหนนะซี

สำหรับรายที่มีอาการแปลก ๆ อย่างหุ้น MONO ถือเป็นช็อตที่สร้างความผิดหวังให้กับขาลุยเยอะเหมือนกัน เพราะสตอรี่บอลพรีเมียร์ลีกน่าจะช่วยปั๊มรายได้และกำไรโตก้าวกระโดด ซึ่งน่าจะช่วยดันราคาหุ้นวิ่งผ่าน 2 บาทไปได้สักที แต่ในช่วง 2 เดือนครึ่งกลับผ่าน 1.90 บาทไปได้ แถมล่าสุดยังย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1.70 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาทแบบนี้..อีฉันอธิบายไม่ถูกเลยจ้า!

ขนาดรายที่ทำท่าจะฟื้นอย่าง LH ยังมีแรงขายออกมาเป็นระยะ จนหุ้นย่อตัวเป็นวันที่ 2 พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 3.78 บาท ลบไป0.06 บาท หรือลงไป1.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย111 ล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ย้ำให้รู้ว่า PE 9 เท่าไม่มีนัยสำคัญอะไรเลย เพราะสิ่งที่ทุกคนกังวลสุด ๆก็คือ กำไรครึ่งหลังปี 68จะทรุดหนักกว่าครึ่งปีแรก เพราะสภาพเศรษฐกิจยังง่อนแง่น จึงเป็นจังหวะของการชิ่งหนีก็เท่านั้นเองค่ะ

ตบท้ายกันที่หุ้น ITC เพื่อสะท้อนให้เห็นการโดนทุบหนักร่วมครึ่งปี จนหุ้นลงมาทำโลว์ที่ระดับ 10 บาทก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาแถว 13.50 บาทและย่อตัวลงมาที่ 11 บาทก่อนจะตีกลับขึ้นมาใหม่ จนล่าสุดหุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 13.40 บาท บวกไป0.30 บาท หรือขึ้นไป2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย132 ล้านบาท ก็เป็นเกมวัดใจนักเล่นอย่างแท้จริง เพราะการขึ้นเที่ยวนี้เป็นผลมาจากความคาดหวังเรื่องภาษีทรัมป์จะออกมาเป็นบวกเจ้าค่ะ

โมนิก้าและทีมงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...