โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์” จับมือ กองทุนสื่อฯ ลุยอบรม Fact Checking สกัดข่าวปลอม

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการความร่วมมือองค์กรสื่อขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้จัดโครงการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ณ โรงแรม ดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ในหัวข้อสำคัญคือ Fact Checking & Verification เรียนรู้กระบวนการตรวจสอบข่าวปลอม ภายใต้กรอบจริยธรรมสื่อมวลชน เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะเชิงปฏิบัติในการรับมือกับความท้าทายของสถานการณ์ข่าวสารในปัจจุบัน

โดยครั้งนี้จัดให้มีเวทีเสวนาในหัวข้อ “ความท้าทายของสื่อมวลชนไทย ท่ามกลางสถานการณ์ข่าวลวง” โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมแลกเปลี่ยนและให้ความรู้ ประกอบด้วย ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์, คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ.อสมท และ คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ โดยมี คุณจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง อุปนายกด้านมาตรฐานวิชาชีพ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ดำเนินรายการ

ในโอกาสนี้ ดร.ชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับพัฒนาการของข่าวปลอมว่า พัฒนาการข่าวปลอมในปัจจุบันมีการนำ AI มาใช้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินและวิกฤตจะมีข่าวเหล่านี้ออกมาเสมอ แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน้าที่ของสื่อมวลชนในการตรวจสอบและเผยแพร่ข่าวจริง ซึ่งความจริงนั้นเป็นสิ่งที่ควรมีในสังคมประชาธิปไตย เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะเข้าถึงข่าวจริงซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สังคมพึงได้รับ ขณะเดียวกันหากเราอยู่กับข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์เพียงอย่างเดียว สังคมจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

"การตรวจสอบและเผยแพร่ข่าวจริง เป็นสิ่งที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์พยายามส่งเสริม หากสื่อไทยสามารถทำได้ ก็จะช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและทำให้สังคมไทยได้รับข่าวสารที่ถูกต้องได้ ทางกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ พร้อมที่จะสนับสนุนสื่อมวลชนในการทำงานเรื่องนี้" ดร.ชำนาญ กล่าว

ด้าน นายนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ได้เน้นย้ำถึงแกนหลักของวิชาชีพว่า เราต้องตั้งคำถามก่อนว่า เฟคนิวส์คืออะไร จุดประสงค์มาจากอะไร ทั้งจากการเมืองและการสร้างกระแส ซึ่งหน้าที่ของสื่อมวลชนคือการนำเสนอข่าว ซึ่งในปัจจุบัน ใคร ๆ ก็ใช้เทคโนโลยีเข้ามาพูดหรือโพสต์ได้ แต่แกนหลักของหน้าที่สื่อมวลชนต้องกลับมาที่จุดเริ่มต้นคือต้องตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งเทคโนโลยีไม่ใช่อุปสรรค แต่คือสิ่งที่ช่วยทำให้กระบวนการตรวจสอบได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

เราจะเห็นการแพร่ระบาดของข่าวปลอมอย่างชัดเจนในช่วงที่มีข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา องค์กรสื่อต้องตั้งหลักให้ดีและตั้งทีมตรวจสอบความจริงก่อนนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชน ขณะเดียวกันต้องวางกลยุทธ์การทำงานให้เหมาะสม เพราะการตรวจสอบข่าวปลอมต้องใช้เวลา ซึ่งสวนทางกับแนวทางการทำงานของสื่อในปัจจุบันที่เน้นเรื่องความเร็วเป็นสำคัญ” คุณนันทสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ บมจ.อสมท กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีการสร้างข้อมูลปลอมตั้งแต่ต้นตอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ งานวิจัย เอกสารทางวิชาการ ไปจนถึงแหล่งข่าวต้นตอ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ทำให้การตรวจสอบยากยิ่งขึ้น มีการสร้างวาทกรรม สร้างเอกสาร สร้างอินโฟกราฟิก สร้างเสิร์จเอนจิ้นปลอมเพื่อหลอกการค้นหา ซึ่งเป็นเทคนิคทำให้สื่อโดนหลอกมากที่สุด เป็นสิ่งที่ยากที่สื่อในปัจจุบันจะตรวจสอบได้

“หากเรามีฐานข้อมูลกลางในการทำงาน ส่วนสื่อทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมอธิบายให้เห็นถึงแหล่งที่มาของข้อมูลและเครื่องมือในการตรวจสอบ จะช่วยสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน และเมื่อมีการตรวจสอบมากขึ้น จะสามารถนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมการตรวจสอบข่าวปลอมเพื่อค้นหาความจริงได้" คุณพีรพล กล่าว

One Day Training ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ยังมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเรียนรู้กระบวนการตรวจสอบข่าวปลอม ตั้งแต่การตรวจสอบต้นทางไปจนถึงการเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อนำเสนอข่าวเตือนภัยให้กับสาธารณชน โดยแบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ การฝึกอบรม เครื่องมือตรวจสอบข่าวลวง และการฝึกอบรม Fact & Policy Checking เรียนรู้กระบวนการตรวจสอบข่าวปลอม ตั้งแต่ต้นทาง

ในส่วนของการฝึกอบรม เครื่องมือตรวจสอบข่าวลวงนั้น คุณณัฐกร ปลอดดี Southeast Asia Digital Verification Editor : AFP ได้ให้ความรู้ถึงการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ทักษะการตรวจสอบ

"เมื่อเรามีทักษะในการตรวจสอบข่าวลวงแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบข่าวลวง ไม่ว่าจะเป็น Reverse Image Search ซึ่งเป็นการค้นหาภาพย้อนหลัง เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มา การใช้ Geolocation เพื่อค้นหาว่าภาพดังกล่าวถ่ายที่สถานที่ไหน ถ่ายเมื่อไหร่ หรือ การใช้ Google Map เพื่อเปรียบเทียบภาพจากสถานที่ต่าง ๆ ล้วนแต่เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง” คุณณัฐกร กล่าว

คุณณัฐกร กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน AI มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แม้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต แต่ข้อเท็จจริงยังพบว่ามีบางส่วนยังมีปัญหาเรื่องความถูกต้อง รวมถึงถูกนำไปดัดแปลงเพื่อสร้างโฆษณาชวนเชื่อหรือข่าวปลอมด้วย อย่างไรก็ตามผู้ผลิตหลายรายก็ยังพัฒนาเครื่องมือในการช่วยตรวจสอบข้อมูลเท็จต่างๆ เหล่านี้ไปพร้อมกันด้วยเช่นกัน

ด้าน คุณกนกพร ประสิทธิ์ผล ผู้อำนวยการสำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส เปิดเผยถึงแนวคิดของการตั้งทีม Thai PBS Verity เพื่อตรวจสอบข่าวปลมด้วยว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์โควิด-19 มีการเผยแพร่ข่าวปลอมมากขึ้นจนนำมาสู่กระบวนการ Fact checking ซึ่งช่องทางทางโซเชียลมีเดียนั้นเป็นช่องทางที่ถูกเผยแพร่ข่าวปลอมมากที่สุด

คุณกนกพร กล่าวด้วยว่า สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เรารับมือข่าวปลอมได้คือการทำความเข้าใจประเภทของข้อมูล ประกอบด้วย 1. Misinformation ข้อมูลผิด ข้อมูลปลอม แต่ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้าย 2. Malinformation การนำข้อมูลส่วนจริงมาใช้ในการสื่อสารแต่แฝงด้วยเจตนามุ่งร้าย และ 3. Disinformation ข้อมูลบิดเบือน ซึ่งการตรวจสอบข้อมูลทั้ง 3 ประเภท ต้องมีการสืบสวน หาต้นตอ ค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง และแก้ไขข้อมูลปลอมเหล่านั้นด้วยการเผยแพร่ข่าวจริง

คุณกนกพร ยังได้ระบุถึงปัจจัยที่ทำให้ข้อมูลข่าวปลอมเพิ่มสูงขึ้น มาจากการเติบโตของโซเชียลมีเดีย การปรับอัลกอริทึ่ม, AI ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อหาได้, การขาดความรู้เท่าทันสื่อ แยกแยะความจริงไม่ได้, การสร้างรายได้จากข่าวลวง, ช่องโหว่ของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ยังไม่มีกลไกตรวจสอบที่เพียงพอ รวมไปถึงจิตวิทยาและพฤติกรรมของคนช่วงสภาวะวิกฤตในสถานการณ์อ่อนไหว เช่น แผ่นดินไหว ตึกถล่ม การแชร์เพราะกลัวตกข่าว สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้มีข่าวปลอมเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สื่อมวลชนควรตระหนักว่า การทำหน้าที่สื่อในปัจจุบัน ต้องไม่คำนึงถึงความเร็วเพียงอย่างเดียว เพราะการนำเสนอข้อมูลด้วยความเร็ว อาจไมได้มีความหมายเท่ากับการนำเสนอความจริง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...