'เสี่ยหนู'เชียร์สายเขียว ลั่นกฏหมายใหม่'กัญชา'ไม่ได้เป็นยาเสพติด
“อนุทิน”ออกโรงเคลียร์ปัญหาสายเขียว ยันกม.ใหม่ถือว่ากัญชาไม่ได้อยู่ในส่วนของยาเสพติดแล้ว ถ้าคนที่เริ่มปลูกแล้วนำไปใช้ทางการแพทย์ถือว่าอยู่ในกรอบกฏหมาย พร้อมหนุน"ศุภชัย"ทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว ต้องคิดถึงปากท้องของประชาชน ลั่นถ้าทำไม่ได้ก็เท่ากับผิดสัญญา เจ้าของนโยบายก็อยู่ไม่ได้ ข้องใจจะมาขวางทำไม ต้องยึดกฏหมายใหญ่เป็นหลัก
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้ถูกจับกลุ่มเนื่องจากปลูกกัญชาในบ้านว่า อยู่ที่การตีความ และเจตนารมย์ของกฎหมาย กฎหมายชัดเจน คือเรื่องการปลดล็อคกัญชา นำส่วนที่เป็นประโยชน์ของกัญชามาใช้ ส่วนที่เป็นโทษก็ยังเป็นโทษอยู่ เราถึงได้มีการจำกัดในส่วนของสาร THC หรือสารออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในสัดส่วนไม่เกิน 0.2% และถ้านับในประมวลกฎหมายตอนนี้ถือว่ากัญชาไม่ได้อยู่ในส่วนของยาเสพติดแล้ว แต่ถ้าไปดูในบทเฉพาะกาล ถึงแม้จะมีกฎหมายใหม่แล้วแต่ยังไม่มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขออกมาก็ให้ใช้ของเก่าไปก่อน
"ต้องไปดูในเชิงที่นำไปทำให้เกิดความเสียหาย ผิดกฎหมาย และก่อให้เกิดโทษ แต่ถ้าคนที่เริ่มปลูกกัญชาแล้วนำไปใช้ทางการแพทย์ ซึ่งอยู่ในกรอบกฎหมายฉบับใหม่ ก็อยู่ที่การตีความ เราจะไปหวงอำนาจไว้ทำไม หวงเพื่ออะไร เพราะประมวลกฎหมายปัจจุบันเขียนชัดเจนอยู่แล้วว่า กัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติด อย่าเอาความรู้ ความสามารถที่มีอยู่ในทางกฎหมายมาขัดขวาง การทำมาหากินของประชาชนทั่วไป เพราะเขามีความพึงพอใจและยินดีที่จะได้ใช้พืชกัญชา เป็นทางเลือกหนึ่งในการดำรงชีวิต และเสริมสร้างรายได้ของเขา เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเราก็ต้องดีใจที่ประชาชนจะมีหนทางทำมาหากินมากขึ้น หน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐคือการทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีเรื่องปากท้องที่ดี"นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีนายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย ระบุหากประชาชนคนไหนปลูกแล้ว โดนจับกุมให้มาบอกกับพรรคภูมิใจไทยได้ นายอนุทิน กล่าวว่า นายศุภชัยเป็นส.ส. ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยรณรงค์เรื่องกัญชาเสรีทางการแพทย์ นายศุภชัยทำหน้าที่ของตัวเองถูกต้องแล้ว เพราะพรรคภูมิใจไทยต้องคิดถึงปากท้องของประชาชน สิ่งที่พูดไปเราก็ต้องทำตามที่พูด เมื่อทำตามที่พูดได้แล้วจะมาขวางเราทำไม กฏหมายใหญ่บอกไม่ผิด และกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป ก็ต้องยึดกฎหมายใหญ่เป็นหลัก
“เรื่องกัญชาพรรคภูมิใจไทย เข้ามาทำงานที่กระทรวงสาธารณสุข 3 ปี ผลักดันเรื่องกัญชามาถึงจุดนี้ได้ พอเข้าโค้งสุดท้ายก็ยังมีคนตีความให้ถอยหลังไปที่เดิม แสดงว่าไม่ทำตามนโยบาย นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ อยู่ในวาระเร่งด่วนสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ที่ประกาศไว้ต่อสภาฯ ไม่ใช่แค่นโยบายธรรมดา คนที่ทำตามนโยบายก็ต้องปฏิบัติตาม นี่นโยบายรัฐบาลมีผลทางกฎหมายทุกอย่าง ถ้าทำตรงนี้ไม่ได้ก็ถือว่าเราผิดสัญญากับประชาชน เพราะเราแถลงนโยบายกับผู้แทนประชาชนไว้ ถ้าทำไม่ได้ก็เท่ากับผิดสัญญา เจ้าของนโยบายก็อยู่ไม่ได้เท่านั้นเอง ถ้าอยู่ไม่ได้ทุกคนก็ต้องมีความผิดแต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะปีสุดท้ายแล้วอย่าคิดมาก” นายอนุทิน กล่าว
-001