โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รพ.ธรรมศาสตร์ ยกระดับ 'ห้องแล็บตรวจเลือด' อัตโนมัติทั้งระบบ ได้ผลเลือดเร็วขึ้น 50%

MATICHON ONLINE

อัพเดต 19 มี.ค. 2563 เวลา 07.35 น. • เผยแพร่ 19 มี.ค. 2563 เวลา 07.35 น.
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

รพ.ธรรมศาสตร์ ยกระดับ ‘ห้องแล็บตรวจเลือด’ อัตโนมัติทั้งระบบ ได้ผลเลือดเร็วขึ้น 50%

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มีนาคม ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ ดร.ทนพ.พลากร พุทธรักษ์ หัวหน้างานห้องปฏิบัติเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดนวัตกรรม ในโครงการ “SMART One Touch Solution – Beyond the Future” ยกระดับการให้บริการทางห้องปฏิบัติการแบบครบวงจร ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด “One Touch Solution” ช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการ ลดความผิดพลาด และสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เตรียมความพร้อมเข้าสู่เฟส 3 และการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด รองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19

โครงการ SMART One Touch Solution – Beyond the Future จัดตั้งขึ้น เพื่อนำเทคโนโลยีแห่งยุคดิจิตอล เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านการบริการผู้ป่วยแบบครบวงจร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อันประกอบไปด้วย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

 

1. ระบบลงทะเบียนอัจฉริยะรับคิวเจาะเลือด ผ่าน Mobile Application “LAB TUH” หรือผ่านตู้จัดคิวอัตโนมัติ (KIOSK) โดยใช้เวลาไม่ถึง 40 วินาที ช่วยลดความแออัดบริเวณหน้าห้องเจาะเลือดได้มากกว่าร้อยละ 50 ลดโอกาสเสี่ยงที่คนไข้มีการแพร่กระจายเชื้ออันตรายระหว่างกัน เช่น COVID-19 เป็นต้น

2. ระบบเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ มีการนำเทคโนโลยีเครื่องติดฉลากบนหลอดเลือดอัตโนมัติ (ROBO8000) มาใช้ในการเตรียมหลอดเลือด ตัดขั้นตอนการเตรียมโดยเจ้าหน้าที่

3. ระบบตรวจสอบความถูกต้องของผู้ป่วยก่อนการเจาะเลือด

4. ระบบการขนส่งหลอดเลือดเข้าสู่ห้องปฏิบัติการ โดยปราศจากการสัมผัสหลอดเลือด โดยนำหลอดเลือดใส่บริเวณระบบสายพานขนส่ง (Conveyer) ที่โต๊ะเจาะเลือด ลำเลียงหลอดเลือดเข้าสู่เครื่องนำส่งหลอดเลือดอัตโนมัติ (ATT : Auto Tube Transfer) ส่งเข้าสู่ระบบท่อนำส่งอัตโนมัติ (Tempus600) ช่วยลดขั้นตอนและลดความเสี่ยงจากการที่เจ้าหน้าที่ต้องสัมผัสกับหลอดเลือด

5. ระบบการตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ เมื่อหลอดเลือดถูกนำส่งเข้าสู่ห้องปฏิบัติการ จะลงมาสู่เครื่องคัดแยกอัตโนมัติ (ASP LoadPro) เข้าสู่ระบบรางตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ (Laboratory Automation System) โดยระบบจะทำการปั่นแยกเลือดด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูง และเปิดจุกหลอดเลือด ก่อนนำส่งผ่านระบบรางเข้าสู่เครื่องตรวจวิเคราะห์โดยตรง และจัดเก็บหลอดเลือดหลังการตรวจวิเคราะห์เรียบร้อย เป็นการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ลดโอกาสเสี่ยงต่อการสัมผัสสิ่งส่งตรวจ

6. ระบบการรายงานผลอัจริยะ ระบบมีซอฟแวร์ที่ใช้ในการรายงานผลสำหรับห้องปฏิบัติการโดยเฉพาะ (Laboratory Information System : LIS Agile) ซึ่งมีการนำผลการตรวจวิเคราะห์มาประมวลผล และแสดงให้นักเทคนิคการแพทย์ทำการตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนส่งผลการตรวจวิเคราะห์เข้าสู่ระบบของโรงพยาบาลไปยังแพทย์ผู้รักษาต่อไป

ด้าน รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ การเปิดห้องปฏิบัติการเทคนิคการแพทย์ ถือว่าเป็นแห่งแรกในประเทศไทยในเรื่องของ Total solution (ระบบการบริหารจัดการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์แบบครบวงจร ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบลงทะเบียนของผู้ป่วย ระบบห้องเจาะเลือด ระบบขนส่งสิ่งส่งตรงเข้าสู่ห้องปฏิบัติการ ระบบตรวจวิเคราะห์ภายในห้องปฏิบัติการ และระบบการรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ไปยังแพทย์) ที่เป็นออโตเมติกทั้งหมด ตั้งแต่ขั้นตอนเจาะเลือดเสร็จจนไปถึงการตรวจวิเคราะห์และออกผลตรวจ

เกิดความพอใจกับผู้รับบริการในการเจาะเลือดเพิ่มขึ้น และระยะเวลาการได้ผลแล็บลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้ป่วยได้รับผลเร็ว และดูแลรักษาเร็ว สามารถกลับบ้านได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังลดการสัมผัสกับสิ่งส่งตรวจ ได้แก่ ผู้เจาะเอง ผู้ขนส่งสิ่งส่งตรวจจะลดออกไปได้ทั้งหมด ทำให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลดสัมผัสกับผู้ป่วยในทุกกรณีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท พี ซี แอล โฮลดิ้ง จำกัด ในการดำเนินการโทเทิลแล็บ (Total Lab)ในครั้งนี้ได้สำเร็จ ทั้งนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ติดตั้งระบบขนส่งหลอดเลือดและตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ โดยสัมผัสหลอดเลือดเพียงจุดเดียว “One touch solution” ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการเป็นอย่างมาก จากระยะเวลารอคอยการเจาะเลือดที่สั้นลง ขั้นตอนในการเข้ามารับบริการที่ง่ายขึ้น และความแออัดในห้องเจาะเลือดที่ลดลง

นับเป็นโรงพยาบาลต้นแบบของ “Digital Hospital” ที่นำเทคโนโลยีการขนส่งหลอดเลือดอัตโนมัติ มาประยุกต์ใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ป่วยที่มารับบริการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการตรวจวิเคราะห์ให้ปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัย ทำให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...