ก๊าซธรรมชาติพุ่ง 6% วิตก “อิหร่าน” ปิดช่องแคบ “ฮอร์มุซ” หลังถูกถล่มหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดสหราชอาณาจักร (UK Natural Gas Spot) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 13 มิ.ย. 68 ราคาเคลื่อนไหวขึ้นมาปิดอยู่ที่ระดับ 89.80 pence/therm เมื่อเทียบกับราคาปิดวันที่ 12 มิ.ย.68 ที่ระดับ 84.89 pence/therm พบว่าราคาปรับขึ้น 4.91 pence/therm หรือขึ้นไป 5.78%

นอกจากนี้ หากเทียบจากราคาต่ำเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 68 ที่ระดับ 80.50 pence/therm พบว่าปรับตัวขึ้น 9.30 pence/therm หรือขึ้นไป 11.55%

ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติในครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่ยืดเยื้อมานานหลายวัน ได้ส่งแรงสะเทือนต่อภาคพลังงานโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะตลาดก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเริ่มเผชิญแรงกดดันด้านราคาอย่างรุนแรง นับตั้งแต่เกิดการปะทะข้ามแดนที่รุนแรงขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้

โดยราคาสปอตของก๊าซ LNG ในตลาดเอเชียและยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลได้โจมตีแหล่งผลิตก๊าซขนาดใหญ่ของอิหร่านในเขต South Pars ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติสำคัญระดับโลก โดยแหล่งข่าวระบุว่ามีการหยุดเดินเครื่องแปรรูปก๊าซและโรงกลั่นขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากการโจมตีโดยตรงแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงที่อิหร่านอาจปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันและก๊าซสำคัญของโลก โดยเฉพาะ LNG ที่มาจากกาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศเพื่อนบ้านในอ่าวเปอร์เซีย การปิดเส้นทางดังกล่าวจะกระทบห่วงโซ่อุปทานทันที และอาจผลักดันราคาน้ำมันดิบให้แตะระดับ 100–150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะเดียวกัน ราคาก๊าซ LNG จะได้รับผลกระทบทางอ้อมทั้งในด้านราคาและความเชื่อมั่น

ด้านนักวิเคราะห์จากสำนักข่าว Financial Times และ MarketWatch ประเมินว่า ตลาดพลังงานทั่วโลกอาจเผชิญความผันผวนรุนแรงในช่วงครึ่งหลังของปี 68 โดยเฉพาะในตลาด LNG ที่ขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตรายใดสามารถทดแทนอิหร่านได้ในระยะสั้น ขณะที่โครงสร้างราคาจะถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์มากกว่าดุลยภาพอุปสงค์-อุปทาน