โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เปิดไทม์ไลน์ ชนวนร้อนข้ามปี 'หมูเถื่อน' จากรัฐบาลลุงตู่ สู่ปฏิบัติการเร่งปราบ ยุคเศรษฐา

MATICHON ONLINE

อัพเดต 30 พ.ย. 2566 เวลา 11.40 น. • เผยแพร่ 30 พ.ย. 2566 เวลา 10.10 น.

เปิดไทม์ไลน์หมูเถื่อน ก่อนฟอร์มทีม ‘พญานาคราช’ ลุยปราบปราม

ขบวนการลักลอบสินค้าเถื่อนไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เมื่อมีการพูดถึงโรคระบาดที่มากับสินค้าที่ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย ยิ่งเป็นที่สนใจของประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคหลัก เมื่อช่วงต้นปี 2565 ในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับรายงานว่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (เอเอสเอฟ) ขึ้นในประเทศ ส่งผลทำให้แม่พันธุ์หมู จากทั่วประเทศ 1.1 ล้านตัว ผลิตลูกหมูหรือหมูขุน ได้ 21-22 ล้านตัวต่อปี เสียหายไปกว่า 50% ทำให้เหลือแม่หมูอยู่ประมาณ 550,000 ตัว และผลิตเป็นหมูขุนได้เพียง 12-13 ล้านตัวต่อปี หรือเท่ากับว่าหมูหายไปกว่า 10 ล้านตัว

ประกอบกับผู้เลี้ยงหมูรายกลางและรายเล็กยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะกลับมาเลี้ยงหมูใหม่ เนื่องจากมีอัตราการตายและต้นทุนการเลี้ยงสูง ส่งผลให้ราคาหมูเนื้อแดงในประเทศพุ่งทะยานขึ้นไปใกล้แตะเพดาน 300 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเหตุให้มีการลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามาขายในประเทศ แต่เมื่อถึงในช่วงกลางปี 2565 ราคาเนื้อหมูกลับลดลงกว่าครึ่งหนึ่งอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่จำนวนหมูยังไม่ฟื้นจากช่วงที่เกิดโรคระบาดเอเอสเอฟ

จุดเริ่มต้นหมูเถื่อนบิ๊กล็อต

จนในที่สุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ทราบถึงต้นตอที่ทำให้ราคาเนื้อหมูลดลง คือขบวนการลักลอบนำเข้าหมูชำแหละและเครื่องในเถื่อน จากต่างประเทศ โดยเป็นขบวนการใหญ่ เพราะหมูชำแหละเถื่อนที่ไม่มีที่มาที่ไประบาดไปตามตลาดต่างๆ อย่างรวดเร็ว โดยเนื้อหมูเถื่อนเหล่านี้จะสังเกตได้ว่า มีการจำหน่ายในราคาต่ำประมาณ 135-145 บาทต่อกิโลกรัม และยังพบว่า มีโรงเชือดซื้อหมูเนื้อแดงเถื่อน ไปสวมใบอนุญาตส่งขาย มีกำไรดีกว่ารับซื้อหมูจากเกษตรกรไปเชือดเองอีกด้วย

โดยรูปแบบของหมูเถื่อนเหล่านี้จะบรรจุเป็นกล่องมาในตู้คอนเทนเนอร์ ระบุต้นทางมาจากประเทศเยอรมนี สเปน ส่วนใหญ่มาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมทำเอกสารสำแดงเท็จ จะระบุเป็นปลา เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจเรื่องโรคระบาดและหลบเลี่ยงการขอใบอนุญาตขนย้ายซากสัตว์จากกรมปศุสัตว์ เมื่อนำเข้ามาได้แล้วก็จะกระจายนำไปฝากห้องเย็นเดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ตู้ ทั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ และห้องเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ปศุสัตว์ผุดไอเดียจับให้เจ๊ง

เหตุการณ์ลากยาวมาจนถึงช่วงปลายปี 2565 นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สรุปถึงเหตุการณ์ว่า ภาพรวมตลอดทั้งปี 2565 มีการจับกุมดำเนินคดีไปแล้ว 29 คดี จำนวนของกลางประมาณ 1.7 ล้านกิโลกรัม มูลค่าประมาณ 123 ล้านบาท โดยพบว่าเป็นการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศบราซิลมากที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าแบบกองทัพมด ทยอยนำเข้าโดยแฝงมากับสินค้าอื่น โดยส่วนใหญ่จะมีการจับกุมได้ที่ห้องเย็น จากปัจจัยลบดังกล่าวส่งผลให้ตัวภาวะเศรษฐกิจการเกษตร (จีดีพีภาคเกษตร) ปี 2565 ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) สาขาปศุสัตว์ ติดลบ 3%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากรมฯ พยายามตรวจจับมาโดยตลอดอย่างเข้มงวด แต่ด้วยข้อจำกัดด้านบุคลากร ที่ผ่านมากรมได้มีการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่พบว่าปัญหาบุคลากรมีจำกัด กรมฯ จึงมีแผนเพิ่มกำลังคนให้เหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมาย “จับให้เจ๊ง” ของกรมฯ ต่อไป

‘ธรรมนัส’ประกาศสงครามกับสินค้าเถื่อน

ทั้งนี้ เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในช่วงเดือนกันยายน 2566 เรื่องแรกที่ให้ความสำคัญและต้องการมาจัการปัญหาให้สิ้นซากคือเรื่องการนำเข้าของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า

“การมาครั้งนี้เพื่อร่วมสร้างครอบครัวเกษตร บูรณาการงานให้เข้มแข็งเป็นทีมเวิร์ก ให้มีศักยภาพในระบบทีมมุ่งมั่นร่วมแรงร่วมใจบรรลุเป้าหมายสำเร็จ พร้อมประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน มุ่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังไม่ให้กระทบผลผลิตในประเทศ ตลอดจนไม่ให้กักตุนและเก็งกำไรเกินควร”

รัฐบาลลุยสอบ-ฟันคนเอี่ยว

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาสั่งการ เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขเรื่องนี้ รวมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหา การลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ สั่งเร่งรัดติดตามการดำเนินคดี ยึดทรัพย์ ผู้กระทำความผิด และสนับสนุนการกระทำความผิด แต่ดูเหมือนว่าปัญหาก็ยังไม่คลี่คลาย พบว่ายังมีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน

ก่อนเดินทางไปประชุมเอเปคช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่าน นายกฯเศรษฐา ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามปัญหาหมูเถื่อน อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ มา สอบถามความคืบหน้าข้อสั่งการ โดยได้กำชับสั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เนื่องจากการแก้ไขปัญหาลักลอบนำเข้าหมูล่าช้า

นอกจากนี้ เมื่อทางรัฐบาลได้สืบค้นต่อไปพบว่า ตั้งแต่ปี 2563-2566 กลุ่มขบวนการนำเข้าได้มีการลักลอบนำเข้าเศษชิ้นส่วนซากสัตว์ มาก่อนหน้านั้นแล้วจำนวน 2,836 ตู้ ซึ่งในขณะนั้นรัฐกำลังสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวบ้าง และเรื่องนี้ดีเอสไอต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ก่อนที่ นายสุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ จะถูกเด้งจากตำแหน่งเซ่นหมูเถื่อนไปเมื่อไม่นานนี้

ตั้งทีมพญานาคราชปราบของเถื่อน

จากทั้งหมดที่กล่าวมา จึงเป็นที่มาให้ ร.อ.ธรรมนัส ตั้งทีม“พญานาคราช” เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าปศุสัตว์ และสินค้าประมงผิดกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันกว่า 70 คน เพื่อร่วมปฏิบัติการและสนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมงและสารวัตรเกษตรในการเร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม และจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรแบบผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการบูรณาการร่วมกับ ปปง. ในการเข้ายึดทรัพย์ และสำนักงานอัยการสูงสุดในการดำเนินคดีทางกฎหมาย เพื่อตัดตอนขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก

“ต่อจากนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษพญานาคราช จะดำเนินการตรวจสอบสินค้าภาคการเกษตรทุกประเภทที่นำเข้าสู่ราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย ที่ไม่ผ่านขั้นตอนของศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมวิชาการเกษตร โดยจะใช้ชุดปฏิบัติการนี้ในการป้องกัน ปราบปราม ตรวจยึด และดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มข้น ซึ่งจะเห็นการปราบปรามอย่างจริงจังภายใต้การทำงานของทั้ง 4 หน่วยงาน ที่สามารถเข้าตรวจค้นได้ทุกที่โดยไม่ต้องขอหมายศาล เพื่อให้การทำงานลุล่วงไปสู้เป้าหมายโดยเร็วต่อไป” ร.อ.ธรรมนัส กล่าวทิ้งท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...