โพลระบุ 74 % จะไปเลือกตั้ง ทั้งที่ยังไม่รู้เลือกใคร-เชื่อ “อนุทิน” ได้จัดตั้งรัฐบาล
วันนี้ (14 ธ.ค.2568) สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจหัวข้อ “สำรวจพักใหญ่กับพรรคใหม่” จากกลุ่มเป้าหมาย 1,435 คน ระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค.2568 หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาฯ ว่า
ประชาชนให้ความสำคัญเรื่องปากท้อง
ความต้องการเร่งด่วนของประชาชน ปัญหาปากท้องนำความมั่นคง พบว่า ประชาชนให้ความสำคัญสูงสุดกับปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ การค้าขาย ธุรกิจการทำมาหากิน ร้อยละ 81.9 รองลงมาร้อยละ 80.5 คือการยุติความขัดแย้งและการสู้รบชายแดนโดยเร็ว ร้อยละ 66.7 ให้ความสำคัญกับปัญหาการปราบปรามสแกมเมอร์ และมิจฉาชีพ ร้อยละ 65.3 เรื่องปัญหายาเสพติด ส่วนร้อยละ 64.2 ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ส่วนความตั้งใจของประชาชนที่จะไปเลือก สส. ร้อยละ 74.3 ระบุว่า ตั้งใจจะไปเลือกตั้ง ส่วนร้อยละ 19.9 ไม่แน่ใจ ขณะที่ร้อยละ 5.8 ระบุว่า ไม่ไป
ร้อยละ 52 ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคไหน
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองอะไรที่ตั้งใจจะไปเลือก กลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ 52.2 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ เพราะไม่ชอบพรรคไหนเลย รองลงมาร้อยละ 14.4 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 12.0 ระบุว่า พรรคเพื่อไทย ส่วนร้อยละ 9.9 ระบุว่า พรรคประชาชน ขณะที่ร้อยละ 11.5 ระบุว่าพรรคอื่น ๆ
สำหรับหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ที่คาดว่าจะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง ร้อยละ 37.7 ไม่ตอบ ร้อยละ 30.1 ระบุว่าคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 17.8 ระบุว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 14.4 ระบุว่า นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
นอกจากนี้ สโลแกนนโยบายของพรรคการเมืองเปิดใหม่ที่ชอบ ร้อยละ 51.7 ระบุว่า พรรคปวงชนไทย “สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ” นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล หัวหน้าพรรค รองลงมาร้อยละ 48.2 สโลแกน “ต้องทำเมกะโปรเจกต์ นิคมการเกษตร พลิกเศรษฐกิจ” ของ พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ หัวหน้าพรรค และ ร้อยละ 37.8 สโลแกน “ ก้าวใหม่ให้ไทยสตรอง” นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่
อ่านข่าว : “วราวุธ” ขอคนสุพรรณฯ ไปอยู่ “ภูมิใจไทย” เพื่อทำงาน-พัฒนาให้ดีขึ้น
กัมพูชาปิดด่านไม่ให้คนไทยกลับประเทศ กต.ชี้ละเมิดไม่เคารพหลักมนุษยธรรม
ยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง จ.ตราด สำเร็จ ทหารปักธงชาติไทย
“สวนดุสิตโพล” ชี้รัฐจัดการภัยพิบัติไม่เป็นระบบ-“พรรคการเมือง” ทำเพื่อส่วนตัวมากกว่าประชาชน