ตลท.สอบอินไซด์ KAMART แจงหากพบส่งเรื่อง ก.ล.ต.เชือดต่อทันที
ข่าวหุ้นธุรกิจ
อัพเดต 24 มิ.ย. เวลา 02.50 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 02.50 น. • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมายและบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า กรณีบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ได้มีการแจ้งเรื่องของการ “ซื้อหุ้นคืน” โดยไม่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนของตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ทางตลาดฯ ถือเป็น“ความผิดครั้งแรก” นับจากเข้าจดทะเบียนในปี 2538(17 ม.ค.) จึงได้มกาส่งหนังสือ “เตือน” ไป พร้อมสั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
“ทางตลาดฯ ได้ทำหนังสือเตือนไป เพราเห็นว่าเป็นความผิดครั้งแรกนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยในส่วนของบริษัทฯ นั้น ทางตลาดคงไม่ได้ดำเนินการอะไรต่อ” นายรองรักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี นายรองรักษ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการส่งหนังสือเตือนได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่สิ่งตลาดฯ ต้องดำเนินการต่อคือการเข้าไปตรวจสอบดูว่า ในช่วงที่ทางคาร์มาร์ท แจ้งเรื่องการซื้อหุ้นคืนโดยที่ไม่ได้ทำตามขั้นตอนของตลาดฯ นั้น มีบุคคลใดบ้างที่มีการซื้อขายแบบผิดปกติหรือ “อินไซด์” ด้วยการใช้ข้อมูลภายในหรือไม่ ซึ่งหากตรวจพบว่ามีกรณีดังกล่าว ทางตลาดฯ จะส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อดำเนินการต่อไป
ขณะที่มเอวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทาง KAMART ได้แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 มีมติให้บริษัทดำเนินการซื้อหุ้นคืน จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.60 บาท คิดเป็นไม่เกิน 2.34% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด วงเงินสูงสุดไม่เกิน 210 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาที่ไม่เกิน 6 เดือน เริ่มดำเนินการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ถึงวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ด้วยวิธีจับคู่อัตโนมัติผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยมีเหตุผลว่าในสภาวะปัจจุบันมีปัจจัยหลายอย่างโดยเฉพาะปัจจัยทางการเมือง ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งหุ้นของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญและตกต่ำลงกว่าปัจจัยพื้นฐานที่ควรจะเป็นคณะกรรมการบริษัทจึงมีความเห็นว่าควรนำมาตรการซื้อหุ้นคืนมาใช้เพื่อรักษาให้สภาพตลาดเคลื่อนไหวในทิศทางที่มีเหตุมีผลและเหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทในการซื้อหุ้นคืน และมอบอำนาจให้ฝ่ายบริหารเป็นผู้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนตามจังหวะ เวลาและมูลค่าที่เห็นว่าเหมาะสม
ขณะที่บริษัทได้รับทราบข้อผิดพลาดที่แจ้งกำหนดเวลาซื้อหุ้นคืนไม่ถูกต้อง รวมถึงได้ไปเปิดเผยข่าวในแหล่งอื่น โดยไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ซึ่งต้องเปิดเผยโครงการซื้อคืนหุ้นล่วงหน้าไม่น้อยก่วา 3 วันก่อนวันซื้อหุ้นคืน