โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘Mandrake’ ต้นไม้แห่งโลกเวทมนตร์ หน้าตาเบบี๋ทิ้งเสียงกรีดร้องนำมาซึ่งอันตราย

a day magazine

อัพเดต 28 พ.ค. เวลา 17.42 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. เวลา 11.00 น. • a day magazine

“วันนี้เราจะมาเปลี่ยนกระถางต้นแมนเดรกกัน แต่ก่อนอื่นใครพอจะบอกได้บ้างว่ามันมีคุณสมบัติอะไร” ศาสตราจารย์โพโมนา สเปราต์ถามขึ้น

เด็กหญิงผมยาวหยิกเหลือบทองที่แสนรอบรู้อย่างเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ชูมือขึ้นสูง

“แมนเดรก หรือแมนดราโกราเป็นยาฟื้นฟูทรงพลังมาก มันช่วยให้ผู้ที่ถูกสาปคืนสภาพกลับมาเหมือนเดิม แต่เสียงร้องของมันอาจทำให้ถึงตายได้ค่ะ” รอยยิ้มปาดบนหน้าของครูผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรศาสตร์

“ยอดเยี่ยมมาก สิบคะแนนให้กริฟฟินดอร์” ก่อนจะออกแรงดึงรากพืชตัวแสบนี้ออกมา เสียงร้องงอแงระงมแก้วหูกังวานไปทั่วห้องเรียนกระจก

บทสนทนาจากภาพยนตร์ ‘Harry Potter’ ที่เปิดประเดิมให้เราได้เห็นพลังร้ายกาจของต้น ‘แมนเดรก’ หรือ‘แมนดราโกรา’ เป็นครั้งแรก

ก่อนอ่านอยากให้ร่ายคาถาป้องกันหูแตกไว้ก่อน หรือไม่ก็หาที่ครอบหูสักอันเผื่อไว้นะ เพราะหน้าตาเบบี๋ดูขี้แย และเอาแต่ใจของต้นแมนเดรกจะมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังหนวกหูเป็นอันตรายถึงชีวิต ถ้าจะหาวิธีที่เร็วกว่านั้นเพื่อสู้กับมัน โปรเทโก้! ร่ายมนตร์ใส่กลับไปได้เลย

ภาพจำของต้นไม้ประหลาดที่เราเคยเห็น ดูจะเป็นเพียงเรื่องในจินตนาการของ J.K Rowling แต่ ‘แมนเดรก’ นั้นมีอยู่จริงบนโลกมนุษย์! เหมือนกับที่เธอถ่ายทอดออกมาแทบทุกประการ เว้นก็แต่มันไม่กรีดร้องนะ เบาใจลงแล้วใช่ไหมล่ะ แถมน้องยังเป็นพืชที่แสนจะศักดิ์สิทธิ์จนมีพิธีกรรมยิ่งใหญ่ให้โดยเฉพาะเลยด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 287 ปีก่อนคริสตกาล ชายร่างกำยำ ‘ธีโอฟราสตุส’ ผู้เป็นทั้งนักปรัชญาศิษย์ของอริสโตเติล และนักธรรมชาติวิทยากรีกโบราณ จนคนขนานนามว่าเขาคือบิดาแห่งพฤกษศาสตร์ ธีโอชอบค้นคว้าเรื่องของพืชเป็นชีวิตจิตใจ เขียนตำราอธิบายถึงรายละเอียดโครงสร้าง การเจริญเติบโต กระทั่งวิธีใช้พืชเป็นยา หนังสือ ‘Historia Plantarum’ นับเป็นผลงานโด่งดังที่สุด และมีอิทธิพลต่อวงการวิทยาศาสตร์อย่างมาก เจ้าแมนเดรกเองก็ถูกบันทึกไว้ในเล่มนี้ด้วย

“จงวาดวงกลมสามวงรอบรากด้วยดาบ แล้วผ่ามันให้หันไปทางทิศตะวันตก เมื่อได้ชิ้นที่สองมาจงเต้นรำไปรอบๆ พูดหยาบคายเรื่องเพศให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ฟังดูจะตลกนิดๆ แต่นี่เป็นวิธีการเก็บเกี่ยวต้นแมนเดรกที่ธีโอลงลายลักษณ์อักษรไว้เลยแหละ ในทางการแพทย์โบราณ รากของมันจะถูกนำไปต้มในไวน์จนกว่าจะเหี่ยว เพื่อให้ผู้ป่วยดื่มก่อนตาพร่ามัว สลบไสลอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้รู้ตัวระหว่างผ่าตัด แมนเดรกยังมีสาร Alkaloids ในตัวเองที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท ใช้รักษาคนที่มีอาการเพ้อจนคลั่งหรือจิตหลอนได้

พิธีกรรมที่โคตรจะไม่ธรรมดาชวนให้สงสัยว่าทำไมเราต้องเต้นรำด้วยนะ ทำไปเพื่อ! ก็เพราะรูปร่างที่ดูคล้ายคนทำเอาเชื่อกันว่ามันมีวิญญาณสิงอยู่ในรากน่ะสิ หากหยิบสักชิ้นส่วนหนึ่งไว้พกติดตัว โชคลาภก็จะกรูเข้าหา ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเลี้ยงน้องให้เหมือนลูกคนหนึ่ง หาเสื้อผ้าน่ารักๆ มาให้ใส่ ปูที่นอนนุ่มสบายก่อนจะวางลงไป นี่มันลูกชัดๆ

แม่มดผู้วิเศษขี่ไม้กวาดท่องก้อนเมฆเองก็ยังพึ่งน้องแมนเดรกเลยนะ พวกเขาผสมมันเข้ากับพืชหลากชนิด เช่น เบลลาดอนนา เฮมล็อก ดอกลำโพงม่วง กวนให้เป็นเนื้อเดียวกัน และตั้งชื่อยาชนิดนี้ว่า ‘ครีมขี้ผึ้งบิน’ ฟังดูน่ารัก (และน่าขนลุก) ขึ้นมาเลยเชียว ทามันลงบนอวัยวะเพศก่อนจะไปรวมตัวกับก๊วนแม่มดอื่น พร้อมเดินทางเข้าหาความมืดทะมึนอย่างซาตาน ไม่ก็ใช้มันทดแทนสุราเมรัย

"แม้ว่าแมนเดรกจะเกิดจากเวทมนตร์ของโลกมืด แต่หากเจ้าทำพิธีอย่างผู้รู้ รดน้ำนม ดับไฟด้วยบทสวด ห่อมันด้วยคำสัญญาแห่งความตาย เจ้าจะไม่ได้แค่พืชต้องห้าม แต่จะได้ ‘ภูติราก’ ที่พร้อมกระซิบความลับทั้งบนโลก และใต้ดินให้ฟัง"

ในตำนานของแม่มดสายดำ แมนเดรกไม่เป็นเพียงพืชวิเศษที่มีพลังในตัวเองเท่านั้น แต่มันคือสัญลักษณ์ระหว่างโลกคนเป็น และคนตาย! เมื่อเจตจำนงของผู้ทำพิธีแก่กล้ามากพอ เขาจะเปลี่ยนของธรรมดาให้กลายเป็นของต้องห้ามได้ในชั่วพริบตา

ยิ่งกับความรักยิ่งไม่ต้องพูดถึง ชาวโรมานีเชื่อว่ามันจะทำให้เนื้อหอมจนผึ้งอยากบินมาตอมรสหวาน บางคนถึงขั้นบดรากแห้งๆ เอาไว้ทำยาเสน่ห์เสียด้วย เอ! แล้วตกลงมันดีหรือไม่ดีกันนะ ขอตอบให้ก่อนว่าเทาหม่นๆ เอ่อ…อาจจะเหลือบดำน่ะแหะๆ เพราะนิยามของแมนเดรกเป็นพืชพิษ หากใช้ปริมาณมากไปอาจสลบแหมะ ไม่รู้ว่าจะฟื้นหรือเปล่าด้วย บรึ๋ย! น่ากลัว เอาเป็นว่าถ้าจะให้ปลอดภัยจริงก็ควรใช้แค่นิดหน่อย สมองจะได้สดชื่นขึ้น ระบบประสาทถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว

แต่ใช่ว่าจะหาน้องแมนเดรกเจอกันได้ง่ายๆ หรอกนะ ต้องลัดฟ้ากันไปถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กรีซ อิตาลี ซีเรีย อีกหลายโลเคชันที่รากน้องฝังตัวอยู่ล้วนแต่เป็นที่แห้งแล้ง ดินแห้งผากทั้งนั้น

ก่อนจากกันไป เราแอบค้นสูตรลับขององค์กรเวทมนตร์มาฝากด้วย แมนเดรกจะทรงพลังที่สุดก็ต่อเมื่อถูกขุดรากขึ้นมาในวันจันทร์ หรือวันพระจันทร์เต็มดวง ตัดปลายรากออกทั้งสองข้าง ก่อนนำไปฝังใต้หลุมศพของใครสักคนกลางคืนมืดมิดไร้แสง ทิ้งไว้ 30 วันแล้วรดรากแมนเดรกด้วยน้ำนมวัวที่หมักเข้ากับค้างคาวหลับไม่ตื่น 3 ตัว เมื่อคืนที่ 31 มาถึง ค่อยๆ ขุดรากมันขึ้นมาอีกครั้งในยามเที่ยงคืน อบให้แห้งด้วยเตาดินเผาที่ใช้กิ่งเวอร์บีนาเป็นเชื้อเพลิง นำเศษผ้าห่อศพพับรากแมนเดรกเก็บไว้อย่างทะนุถนอม

"อย่าปล่อยมันไว้ห่างกาย ไม่ว่าจะไปที่ใด พกมันไว้กับตัวเสมอ เพราะนั่นไม่ใช่แค่รากไม้ธรรมดาอีกต่อไป แต่มันคือ ‘ผู้เฝ้าความลับแห่งคืนเดือนมืด’ ที่จะกระซิบเวทมนตร์ให้แก่ผู้เรียกหา"

ขนลุกซู่เลยล่ะสิ นี่แหละนะ Witch a boo!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...