TISCO ราชาหุ้นปันผล ที่ราคากำลังทำลาย All-Time High ต่อเนื่อง
The Bangkok Insight
อัพเดต 18 ต.ค. เวลา 04.13 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. เวลา 04.09 น. • The Bangkok InsightTISCO ราชาหุ้นปันผลที่ราคากำลังทำลาย All-Time High ต่อเนื่อง
ไม่ใช่เรื่องปกติที่เราจะได้เห็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง (High Dividend Yield) มีราคาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง (Capital Gain) ไปพร้อมๆ กัน แต่รู้ไหมว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหุ้นปันผลไทยอย่าง TISCO หรือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สถาบันทางการเงินชั้นนำที่กำลังพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง
ผลตอบแทนหุ้นของ TISCO (ไม่นับรวมเงินปันผล) คิดเฉพาะราคาหุ้นจะเห็นว่าในรอบ 1 เดือนย้อนหลัง +7%, 3 เดือนย้อนหลัง +7.6%, 6 เดือนย้อนหลัง +7.8%, 1 ปีย้อนหลัง +10% และ 10 ปีย้อนหลัง +190% ถือว่าโดดเด่นมากทีเดียวสำหรับหุ้นที่จ่ายปันผลระดับสูงกว่า 5% ต่อปีมายาวนาน
ล่าสุดราคาหุ้น TISCO ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ที่ระดับ 108 บาท (as of 16 ต.ค. 68) เป็นที่เรียบร้อย
สาเหตุสำคัญมาจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มผลประกอบการที่น่าจะออกมาเหนือความคาดหมาย หลังได้รับรับรับอานิสงส์เชิงบวกจากธนาคารสหรัฐขนาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ City Group, JP Morgan, Goldman Sachs และ Wells Fargo ต่างรายงานผลกำไรออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ยังมีแรงเก็งกำไรจากนักลงทุนสายเน้นปันผลที่เข้ามาซื้อมากขึ้น ในช่วงที่สภาวะดอกเบี้ยกำลังอยู่ในขาลง และมีการหมุนเงินออกจากตราหนี้ไทยในช่วงที่ผ่านมา
คำถามก็คือความร้อนแรงแบบนี้จะยังคงไปต่อได้แค่ไหน ปัจจุบันราคาหุ้นเกินมูลค่าไปแล้วหรือยัง หรือว่ายังคงมีปัจจัยหนุนให้เติบโตต่อได้
บทวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ เปิดเผยว่า แนะนำ "ถือเพื่อรับปันผล" หุ้น TISCO ที่ราคาเป้าหมายกลางปี 2569 ที่ 100 บาทต่อหุ้น อิง PBV 1.81 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยระยะยาว แม้ว่าราคาปัจจุบันจะ Fully valued ไปแล้ว และราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV สูงถึง 2 เท่า
เพราะว่าตลาดให้ Premium กับ TISCO เมื่อเทียบกับกลุ่ม BANK ที่ซื้อขายบน PBV ค่าเฉลี่ยระยะยาว - 0.75SD เนื่องจากปันผลที่อยู่ในระดับสูงกว่า 7% ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ รวมถึงระดับของ ROE ที่อยู่ในระดับสูงของกลุ่ม (เป็นรองแค่ CREDIT)
ในเชิงกลยุทธ์แม้ว่า TISCO จะมีความโดดเด่นในแง่ของการจ่ายปันผลสูงและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ แต่ด้วย Valuation ปัจจุบันที่ตึงตัว จึงมองการลงทุนที่เหมาะสมคือถือเพื่อรับปันผลมากกว่าเข้าไปซื้อเพิ่มเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น
ทั้งนี้ กำไรสุทธิ 9 เดือน 2568 คิดเป็น 76% ของประมาณการเบื้องต้น พร้อมประเมินว่าผลงานไตรมาส 4/2568 จะใกล้เคียงกับงวดไตรมาส 2 ที่ 1.64 พันล้านบาท ชะลอตัวลง QoQ เนื่องจากไม่มีการบันทึกเงินลงทุนจำนวนมากเหมือนในไตรมาส 3 รวมถึงแนวโน้มการตั้งสำรองที่ลดลง เพราะจะไม่มีส่วนของ Management overlay เพิ่มเติม แต่ยังมีแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ตามปัจจัยฤดูกาล ส่วนภาพYoY ดีขึ้นจากแนวโน้มของ NIM ตามการลดลงของ CoF จึงคาดกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 6.69 พันล้านบาท ลดลง 3.1%
อย่างไรก็ดี มุมมองของบทวิเคราะห์ บล. เอเซีย พลัส ยังคงคําแนะนํา Outperform หุ้น TISCO แม้ราคาหุ้นจะ Fully valued ไปแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเพราะการ Repricing เงินฝากประจําตามวัฎจักรดอกเบี้ย จะหนุนกําไรปีหน้าเด่นกว่าธนาคารขนาดใหญ่ ประกอบกับ Dividend Yield ราว 7.5% ต่อปี น่าสนใจช่วงดอกเบี้ยต่ำ และจะช่วยจํากัด Downside ของราคาหุ้นและสามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่ากลุ่ม
สำหรับปี 2569 เชื่อว่า TISCO จะกลับมาเห็นการเติบโตของสินเชื่อเช่าซื้อ ได้เปรียบยามดอกเบี้ยขาลง หนุนทิศทาง Loan Spread ปีหน้ากว้างขึ้น ประกอบกับ Coverage Ratio ขยับขึ้นตามข้างต้น (สูงเป็นอันดับ 3 รองจาก BBL และ KTB) เป็นกันชนให้กับ TISCO คาดทําให้ Credit Cost ยังอยู่ในกรอบการบริหารที่ 1.0% โดยรวมประเมินกําไรสุทธิปีหน้ากลับมาเติบโตและ ROE ยืนสูงสุดในกลุ่มที่ 15%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ส่อง 10 อันดับหุ้นยักษ์ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้นไทย DELTA ครองแชมป์
- ส่องหุ้นเด่นรับอานิสงส์โครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’
- ‘กูรูหุ้นไทย’ มอง ‘แพทองธาร’ พ้นเก้าอี้นายกฯ ไม่เหนือความคาดหมาย ห่วงแค่ยุบสภา!
ติดตามเราได้ที่