“หุ้นเวียดนาม” วิ่งรับศก.โตแกร่ง “ดาวเด่น” แห่ง “อาเซียน” พร้อมอัพเกรดสู่ “หุ้นตลาดเกิดใหม่”... “ของดี-ราคาถูก-กำไรโตดี” โอกาสลงทุนระยะยาว !!!
ลายแทงกองทุน: แม้ “เวียดนาม” จะเจอภาษี “Trump” สูงถึง 46% และเป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียนที่เดินหน้าเจรจากับสหรัฐ ซึ่งยังไม่มีบทสรุปออกมาก็ตามแต่ก็มีความคืบหน้าเชิงบวก ทางรัฐบาลเวียดนามยังคงเป้าการเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8%
“หุ้นเวียดนาม”(VN30) ปีนี้ก็ส่งสัญญาณฟื้นตัวแรงมาอยู่ที่ระดับ 1,448.32 จุดปีนี้ (ณ วันที่ 23 มิ.ย. 25) +2.17% และย้อนหลัง 1 ปี +6.61% แต่ยังคงต่ำกว่า “จุดสูงสุด” ที่ 1,537.51 จุด ในเดือนพ.ย.21 อยู่ประมาณ -25%
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ปีนี้ยังคงฟื้นตัวไม่ทัน (ณ 20 มิ.ย. 25) ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบอยู่ -6.39% (ดีสุด -0.84%, แย่สุด -10.38%)
แต่ก็เป็น “จังหวะที่ดี” ในการเข้าลงทุนรับตลาดฟื้นตัวเช่นเดียวกัน ด้วยเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในขณะที่ราคายัง “ถูก” มี Forward P/E 12 เดือน เพียง 10.19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11.30 เท่า ในขณะที่คาดกำไรบจ.ปีนี้ยังโตสูง +23.71% (ที่มา: Bloomberg, วันที่ 13 มิ.ย. 25)
ที่สำคัญ “หุ้นเวียดนาม” ยังมีข่าวดีที่เตรียมขยับจาก “ตลาดชายขอบ” (Frontier Market) สู่ “ดัชนีตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market) ของ “FTSE” คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. 25 หลังมีการพัฒนาระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ให้เป็นสากลมากขึ้น
โดยนำเทคโนโลยีจาก “Korea Exchange” (KRX) ที่เป็นระบบเดียวกันกับเกาหลีใต้มาใช้ รวมทั้ง “สำนักงานก.ล.ต. เวียดนาม” อนุญาตให้ซื้อขายโดยไม่มี Pre-funding ได้ตามเกณฑ์พิจารณาของ “FTSE” แล้ว จึงทำให้ “หุ้นเวียดนาม” เป็นอีกตลาดที่น่าสนใจเป็น “ดาวเด่น” ของอาเซียนเลยทีเดียว
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ ได้คัดเอา 4 “กองทุนเด่น” ในธีม “หุ้นเวียดนาม” ที่น่าสนใจมาฝากกัน
เปิด 4 "กองทุนเด่น" ธีม "หุ้นเวียดนาม"…ดาวเด่นแห่ง "อาเซียน" ฝ่ามรสุม "Trade War"
สำหรับ 4 “กองทุนเด่น”ที่คัดมาในครั้งนี้ เป็น Active Fund ทั้งหมด ที่มีรูปแบบที่ต่างกันออกไป โดยเป็น “ลงทุนโดยตรงเอง” 3 กอง และ“Fund of Funds” 1 กอง ประกอบด้วย
- “ASP-VIET-A: กองทุนเปิด แอสเซทพลัส เวียดนาม โกรท ฟันด์” ของบลจ.แอสเซท พลัส เป็นกองทุนในกลุ่ม “Vietnam Equity” ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นเวียดนาม” ที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโต มีแนวโน้มการเจริญเติบโตในอนาคต รวมทั้งตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนาม
สำหรับ 5 อุตสาหกรรมที่ลงทุนมากสุด (ณ 30 เม.ย. 25) ได้แก่ 1) Financials 54.01%, 2) REAL ESTATE 12.65%, 3) CONSUMER DISCRETIONARY 7.98%, 4) Industrial Materials and Machinery 4.60% และ 5) INFORMATION TECHNOLOGY 3.39
“โดย 5 หุ้นที่ลงทุนมากสุด ได้แก่ 1) TCB 9.16%, 2) CTG 8.02%, 3) MBB 7.88%, 4) STB 7.72% และ 5) HDB 6.67% ตามลำดับ”
- ถัดมาเป็น “B-VIETNAM: กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม” ของบลจ.บัวหลวง เป็นกองทุนในกลุ่ม “Vietnam Equity” ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นเวียดนาม” หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เวียดนาม และ/หรือตราสารทุนของผู้ประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประเทศอื่น รวมทั้งหน่วย CIS และ/หรือกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม
สำหรับ 5 อุตสาหกรรมที่ลงทุนมากสุด (ณ 31 พ.ค. 25) ได้แก่ 1) เงินทุนและหลักทรัพย์ 22.08%, 2) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 12.19%, 3) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 9.80%, 4) พลังงานและสาธารณูปโภค 7.60% และ 5) อาหารและเครื่องดื่ม 7.47%
“โดย 5 หุ้นที่ลงทุนมากสุด ได้แก่ 1) Military Commercial Joint Stock Bank 6.12%,2) Bank for Foreign Trade of Vietnam 5.72%, 3)FPT Corporation 4.68%,4) Phu Nhuan Jewelry JSC 4.65% และ 5) Binh Minh Plastics Joint Stock Company 4.59%ตามลำดับ”
- มาต่อกันด้วย “ONE-VIETNAM-RA: กองทุนเปิด วรรณ เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป” ของบลจ.วรรณ เป็นกองทุนในกลุ่ม “Vietnam Equity” ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นเวียดนาม” ที่จดทะเบียนในประเทศเวียดนามหรือได้ประโยชน์จากการ ประกอบธุรกิจในประเทศเวียดนามเป็นหลัก ผ่านกองทุนที่มีนโยบายดังกล่าวตั้งแต่ 2 กอง ขึ้นไป
โดย 5 กองทุนที่ลงทุนมากสุด (ณ 28 ก.พ. 25) ได้แก่ 1) FORUM ONEVINCP VTM-H USD 46.68%, 2) AQUIS UCITS - LUM VITM FD-UI 18.53%, 3) Lionglobal vietnam fund -usd 13.20%, 4) JPM VIETNAM OPP FUND 10.52% และ 5) DRAGON CAP-VIETNAM EQTY-A 3.22% ตามลำดับ
- ปิดท้ายกันด้วย “PRINCIPAL VNEQ-USD: กองทุนเปิดพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ ชนิดสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ” ของบลจ.พรินซิเพิล เป็นกองทุนในกลุ่ม “Vietnam Equity” ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นเวียดนาม” ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลัก ในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รวมทั้งตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หรือทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว และ/หรือตราสารทุนของผู้ประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่น และ/หรือกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม
สำหรับ 5 อุตสาหกรรมที่ลงทุนมากสุด (ณ 30 พ.ค. 25) ได้แก่ 1) ธนาคาร 38.07%, 2) บริการรับเหมาก่อสร้าง 10.32%, 3) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 8.71%, 4) เงินทุนและหลักทรัพย์ 8.66% และ 5) เครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ 7.33%
“โดย 5 หุ้นที่ลงทุนมากสุด ได้แก่ 1) TCB 9.76%,2) MBB 9.58%, 3)FPT 8.71%,4) MWG 7.33% และ 5) ACB 5.43%ตามลำดับ”
“ตลาดหุ้นเวียดนาม” แม้ระยะสั้นยังมีความผันผวนตามสไตล์บุคลิกของ “ตลาดชายขอบ” (Frontier Market) แต่ระยะยาวยังเป็น “ดาวเด่น” ของ “อาเซียน” ด้วยเศรษฐกิจที่ยังโตแข็งแกร่ง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ตลอดจนนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ที่สำคัญกำลังจะอัพเกรดขึ้นสู่ “ตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market) ของ “FTSE” ที่คาดว่าจะเข้าได้ในช่วงเดือนก.ย.25 นี้อีกด้วย จึงเป็นอีกตลาดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและมองหาโอกาสสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน