โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ถนนสาย R11 เชื่อมมิตรภาพ 75 ปี ไทย-ลาว หนุนการค้าการลงทุน - ท่องเที่ยวระหว่าง 2 -ประเทศ

THE STATES TIMES

อัพเดต 14 มี.ค. เวลา 03.10 น. • เผยแพร่ 14 มี.ค. เวลา 04.10 น. • Hard News Team

นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) (สพพ.) หรือ NEDA เปิดเผยว่า การพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ - บ้านโนนสะหวัน -สานะคาม - บ้านวัง - บ้านน้ำสัง ได้ถูกออกแบบให้เป็นถนน 2 ช่องจราจรตามมาตรฐานทางหลวงอาเซียน โดยเป็นส่วนสำคัญของระเบียงเศรษฐกิจเชียงใหม่ - เวียงจันทน์ (CVEC) ซึ่งมุ่งเสริมสร้างการเชื่อมโยงและการค้าระหว่างไทยและ สปป.ลาว เริ่มต้นเชียงใหม่ - ลำพูน - ลำปาง - แพร่ - อุตรดิตถ์ - ด่านภูดู่ - เมืองสังข์ทอง - เวียงจันทน์ รวมระยะทางในประเทศไทยประมาณ 391 กม. ผ่านเข้าสู่ สปป.ลาว ประมาณ 238 กม. รวมระยะทางตามแนวการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจเชียงใหม่ - เวียงจันทน์ ประมาณ 629 กิโลเมตรเพื่อให้เห็นภาพรวมของแนวการเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจเชียงใหม่ - เวียงจันทน์ที่ สพพ. ได้ให้ความช่วยเหลือทำงการเงินสำหรับโครงการแรก คือ

(1) โครงการก่อสร้างถนนภูดู่ (อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์) ถึง เมืองปากลาย แขวงไชยะบุรี สปป.ลาว ระยะทางรวม 32 กม. ในวงเงิน 718 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือนธันวาคม 2555 แล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2557 (2) โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 ช่วงบ้านตาดทอง-น้ำสัง และเมืองสังข์ทอง ระยะทางรวม 82 กม. ในวงเงิน 1,392 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง เดือนพฤษภาคม 2554 แล้วเสร็จเดือนกรกฎาคม 2557 และ (3) โครงการพัฒนาถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงครกข้าวดอ - บ้านโนนสะหวัน - สานะคาม - บ้านวัง -บ้านน้ำสัง ระยะทางรวม 124 กม. ในวงเงิน 1,826.50 ล้านบาท เริ่มก่อสร้าง เดือนตุลาคม 2562 แล้วเสร็จเดือนกรกฎาคม 2566 ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเมืองหลักทรงเศรษฐกิจของไทยและสปป.ลาว รวมถึง เชียงใหม่และเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือของไทยและสปป.ลาว ตำมลำดับถนนสายนี้ เชื่อมจาก ด่านภูดู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นด่านถาวร เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศ ไปยัง แขวงไชยะบุรี เมืองปากลาย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวในลุ่มแม่น้ำโขง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-เมืองปากลาย โดยเชื่อมต่อจากด่านภูดู่ถึงเมืองปากลายระยะทาง 32 กม. และต่อไปยังเมืองสังข์ทอง แขวงนครหลวงเวียงจันทน์ ผ่านโครงการถนนหมายเลข 11 (R11) ช่วงบ้านตาดทอง -น้ำสัง และเมืองสังข์ทอง รวมระยะทาง 82 กม.เส้นทางนี้ เป็น Missing Link สุดท้ายที่เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมของระเบียงเศรษฐกิจ CVEC โดยช่วยลดระยะทางกว่า 234 กิโลเมตร จากเส้นทางเดิม (เชียงใหม่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-ขอนแก่น-หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์) ที่มีระยะทางประมาณ 863 กิโลเมตร ทำให้ประหยัดเวลาเดินทางได้มากกว่า 3 ชั่วโมง และมีการเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เส้นทางนี้ ลัดเลาะไปตามแม่น้ำโขง มีทัศนียภาพงดงาม และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ชุมชนท้องถิ่นในเมืองสานะคาม บ้านวัง และบ้านน้ำสัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของพื้นที่ 1 โดยรวมแล้วการเดินทางจากเชียงใหม่สู่ด่านภูดู่ และเข้าสู่เส้นทาง R11 ผ่านเมืองสังข์ทองไปจนถึงครกข้าวดอ ใช้เวลารวมประมาณ 10 - 11 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและสภาพอากาศ เส้นทางนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางระหว่างภาคเหนือของไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์ แต่ยังเป็นเส้นทางที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่ และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและ สปป.ลาว ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของโครงการ R11. สร้างความเชื่อมโยงเชิงกายภาพระหว่างสองประเทศและอนุภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การเดินทางของประชาชนและการขนส่งตามแนว CVEC มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากขึ้นทำให้ต้นทุนการเดินทางและขนส่งระหว่างกันลดต่ำลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการค้าชายแดน ณ ด่านภูดู่ 2. ส่งเสริมการใช้สินค้า วัสดุ และอุปกรณ์ก่อสร้างของไทย และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย เข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว มากขึ้น 3. ส่งเสริมการเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและลาว โดยเฉพาะในแขวงไชยะบุรี เมืองปากลาย และแขวงนครหลวงเวียงจันทน์ และเพิ่มโอกาสทางการค้าชายแดนผ่านด่านภูดู่ ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นด่านถาวร 4. สนับสนุนการท่องเที่ยวและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน 5. ลดระยะทางและระยะเวลาการเดินทาง และเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในเส้นทางอาเซียน-จีน และสอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ GMS (Greater Mekong Subregion)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...