โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

DSI จัดหนัก!! แจ้งข้อหา'เมีย-ลูกน้องกำนันนก'สุมหัวฮั้วประมูล 'แม่ยาย'ขอเลื่อน

แนวหน้า

เผยแพร่ 13 พ.ค. 2567 เวลา 17.00 น.

"เเม่ยายกำนันนก"แจ้ง DSI เลื่อนรับทราบข้อหาฮั้วประมูล ระบุผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ด้านรองอธิบดี DSI เผย 2 ผู้ต้องหา "เมียกำนันนก” และลูกน้องฝ่ายการเงินบริษัท ป.รวีกนกฯ ปฏิเสธทุกข้อหา ขอชี้แจงภายใน 30 วัน ขณะที่หลักฐานมัดชัดเจน สุมหัวฮั้วประมูลฮุบโครงการรัฐ

วันที่ 14 พ.ค.67 ที่ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 7 ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดีพิเศษที่ 82/2566 กรณีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก หรือกำนันนกฮั้วประมูล ล่าสุดDSI มีมติออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติม 14 ราย โดยนัดหมายให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำวันที่ 13-16 พ.ค. นั้น

ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมการสอบปากคำ ว่าวันนี้มีผู้ต้องหาเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 2 ราย คือ 1.นางรินรวี จันทร์คล้าย ภรรยาของกำนันนก และนายอำนาจ มารุ่ง พนักงานบริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด (ฝ่ายบัญชีของกำนันนก) โดยนายอำนาจมีสถานะเป็นลูกน้องของกำนันนก ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับการบริหารการเงินหรือไม่นั้น พยานหลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในสำนวน ส่วนใหญ่จะต้องมีความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกันในลักษณะที่เป็นการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาหรือการสมยอมราคากัน ตามมาตรา 4 และมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ดังนั้น จะต้องมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องในการเสนอราคา หรือสมยอมราคา ทั้งนี้ สำหรับเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงระหว่างกำนันนกและนายอำนาจนั้น คณะพนักงานสอบสวนพบว่ามีหลายรายการ และมีจำนวนเงินหลักหลายสิบล้านบาท โดยระยะเวลาที่มีเส้นเงินเชื่อมโยงกัน พบว่ามี 3 ช่วงเวลา คือ ก่อนวันประกวดราคา E-Bidding ระหว่างวันประกวดราคาฯ และหลังวันประกวดราคาฯ จึงกลายเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ทำให้พนักงานสอบสวนมีมติแจ้งข้อกล่าวหา

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาในคดีกำนันนกฮั้วประมูลนั้น มีทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้จัดฮั้ว 2.กลุ่มผู้สมยอมราคาหรือคู่เทียบหรือผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคา 3.กลุ่มผู้ได้งานโครงการหรือชนะการประกวดราคา ซึ่งภรรยาของกำนันนกและนายอำนาจนั้น จัดอยู่ในกลุ่มของผู้ที่ได้งานโครงการ ส่วนพฤติการณ์ของกลุ่มผู้สมยอมราคาหรือคู่เทียบหรือผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคา มักเข้าร่วมซื้อซองเสนอราคาจำนวนมาก แต่พอถึงวันประมูลเปิดซองจะเหลือเพียงไม่กี่รายหรือบางรายยอมไม่เสนอราคา จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ภรรยาของกำนันนกและนายอำนาจ ในฐานะที่อยู่ในกลุ่มผู้ได้งานโครงการจะต้องชี้แจงเส้นทางการเงินที่พนักงานสอบสวนพบให้ได้ อย่างไรก็ตาม วันนี้ภรรยาของกำนันนกและนายอำนาจต่างปฏิเสธข้อหาทั้งหมด ซึ่งเราเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 30 วัน

รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับนางไพรินทร์ พลอยพันธ์ แม่ยายของกำนันนก ทางเจ้าตัวได้ส่งเอกสารแจ้งขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยได้แนบเอกสารใบรับรองแพทย์ ระบุว่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเนื่องมาจากกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือที่จะต้องเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากนี้ จะเป็นกลุ่มผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคาหรือคู่เทียบ และกลุ่มผู้จัดฮั้วประมูล อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้ยื่นซื้อซองเสนอราคาหรือคู่เทียบ จะต้องมาตอบประเด็นคำถามว่าทำไมเข้าร่วมซื้อซอง แต่ไม่เข้าร่วมการประกวดราคาหรือเปิดซอง เพราะพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนตรวจพบมันมีลักษณะการสมยอมราคากันอย่างชัดเจนและมีพิรุธ อีกทั้งในเรื่องเส้นทางการเงินก็เชื่อมโยงกันทั้ง 3 กลุ่ม โดยจะต้องชี้แจงทุกเส้นทางเงินให้ได้โครงสร้างการบริหารบริษัท ความสัมพันธ์ส่วนตัว พยานบุคคลสำคัญ พยานวัตถุ พยานเอกสาร ดังนั้น ผู้ต้องหามีหน้าที่ต้องชี้แจง การชี้แจงก็เป็นประโยชน์ของตัวเขาเองที่จะชี้แจงให้คลี่คลาย เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ทำคนเดียวได้ แต่เป็นการสมยอมตกลงร่วมกันของคนทั้ง 3 กลุ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนข้อกล่าวหาที่ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกคณะพนักงานสอบสวนแจ้ง คือ ฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ, ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้อื่นเพื่อประโยชน์ในการเสนอราคา โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจูงใจให้ผู้นั้นร่วมดำเนินการใด ๆ อันเป็นการให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐหรือเพื่อจูงใจให้ผู้นั้นไม่เข้าร่วมในการเสนอราคาหรือถอนการเสนอราคา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 5 วรรค 1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...