โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

รู้จัก ‘GAC AION’ ค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่จากจีน พร้อมท้าชิง ‘ตลาดไทย’

THE STATES TIMES

อัพเดต 09 มี.ค. 2567 เวลา 05.50 น. • เผยแพร่ 10 มี.ค. 2567 เวลา 06.00 น. • Hard News Team

จากกระแสโลกที่หันมาให้ความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมหนุนให้ใช้พลังงานสะอาด หลาย ๆ อุตสาหกรรมต่างตื่นตัวตอบรับกับกระแสดังกล่าว เช่นเดียวกับวงการยานยนต์ ที่ส่งผลให้ รถไฟฟ้า หรือ EV มาแรงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะค่าย EV จากผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่ในวันนี้กลายเป็นประเทศที่ส่งออก EV มากที่สุดของโลกไปแล้ว หากนับเฉพาะการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ล่าสุดพบว่า BYD ค่าย EV ยักษ์ใหญ่จากจีน มียอดขายแซง TESLA ของ อีลอน มัสก์ ไปเรียบร้อย

แน่นอนว่า ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า ของจีนไม่ใช่มีแค่แบรนด์เดียว แต่มีมากมายหลากหลายแบรนด์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์เกิดใหม่จากการสนับสนุนของรัฐบาลกลางของจีน

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับค่าย BYD, ฉางอัน, GWM หรือ Great Wall Motor ที่เข้ามาทำตลาดในไทยเป็นเจ้าแรก ๆ แต่ทว่า ยังมีค่าย EV น้องใหม่มาแรง ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นไม่เป็นรองแบรนด์ที่กล่าวมาเลย และเป็นอีกหนึ่งค่ายที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ว่านี้ก็คือ ‘GAC AION’ (จีเอซี ไอออน) นั่นเอง

สำหรับ GAC AION เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า ในเครือ ‘กว่างโจว ออโต้โมบิล กรุ๊ป’ หรือ GAC Group ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับ Top 5 ของจีน

โดยโรงงานแห่งแรกของ GAC AION ได้เริ่มเดินสายพานการผลิตเมื่อเดือนเมษายน 2562 และในปี 2565 มียอดขายรถยนต์ EV รวมถึง 2.5 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 5 แสนล้านหยวน ทำให้ AION ก้าวขึ้นมาติดอันดับ 1 ใน 3 แบรนด์รถยนต์ EV ที่มียอดการจำหน่ายสูงสุดของประเทศจีน และยังติดเป็นอันดับ 186 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลกจากการประเมินรายได้และการจัดอันดับของฟอร์จูน โกลบอล 500 อีกด้วย

อย่างที่ทราบกันดีว่า ตลาดรถยนต์ EV ในประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงเนื้อหอมอย่างมาก และ AION เป็นอีกหนึ่งค่ายที่ไม่ยอมพลาดโอกาสทองนี้ โดยได้ประกาศเข้าสู่ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่างเต็มตัว ด้วยการลงนามแต่งตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ไปเมื่อ วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นการส่งสัญญาณรุกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกัน ยังประกาศแผนตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย พร้อมกับได้ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ EV ในไทยให้ได้ 100,000 คันต่อปี รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการผลิตแบตเตอรี่ด้วย โดยมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยของ AION เบื้องต้น อยู่ที่ประมาณ 1,300 ล้านหยวน หรือ ประมาณ 6,400 ล้านบาท

AION ให้ความสนใจจะเข้ามาปักหมุดลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทย มาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2566 เนื่องจากเห็นโอกาสและศักยภาพตลาดรถยนต์ EV ในไทยที่กำลังเติบโต ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยยังได้ให้การสนับสนุนโครงการรถยนต์ EV และอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการทำการตลาด และนโยบายด้านสิทธิประโยชน์การลงทุนผ่านทางคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาคอาเซียน

ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของ AION ที่ให้ความสำคัญและมองถึงโอกาสที่จะใช้โรงงานในไทยเป็นฐานการผลิต รถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะ เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกไปยังประเทศที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลก

ปัจจุบัน AION Thailand ได้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตรถยนต์ในประเทศไทย โดยตัวโรงงานตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC จังหวัดระยอง ซึ่งเฟสแรกอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567 และมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 คันต่อปี

อย่างไรก็ดี ก่อนที่โรงงานในไทยจะเริ่มเดินสายพานการผลิตได้เต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2567 หรือต้นปี 2568 ในส่วนของรถยนต์ที่จัดจำหน่าย จะมาจากการนำเข้าจากฐานการผลิตที่ประเทศจีน ซึ่งขณะนี้ได้เดินหน้าลุยตลาดไปแล้ว ทั้งการขยายตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการ โดยมีเป้าหมาย 3 ปี จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาด EV ประเทศไทย

และเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวันที่ AION ได้เข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรก ชื่อรุ่นว่า AION Y Plus รถยนต์ Compact Cross Over 5 ที่นั่ง

สำหรับจุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้า AION Y Plus นอกจากจะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่และอเนกประสงค์แล้ว อีกสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบก็คือ เรื่องของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ AION นำมาใช้ในรถรุ่น Y Plus ที่เรียกว่า Magazine Battery นั่นเอง

Magazine Battery เป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง พัฒนาขึ้นโดย AION ซึ่งประกอบด้วย เคสด้านบนของแบตเตอรี่ผลิตจากฉนวนทนความร้อนสูงสุดที่ 1,400 องศาเซลเซียส ส่วนเซลล์แบตเตอรี่ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนได้มากกว่าปกติ 30% ภายในแบตเตอรี่ยังได้มีติดตั้งระบบการจัดการแบตเตอรี่ รุ่นที่ 4 ที่มีระบบจัดการความร้อน ทำให้แบตเตอรี่เย็นลงได้อย่างรวดเร็ว

ไม่เพียงเท่านั้น Magazine Battery ยังได้ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัยขั้นสูง เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่ที่นำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้ามีความปลอดภัย โดย GAC AION ได้ทำการทดสอบยิงด้วยกระสุนปืนทะลุแบตเตอรี่ ผลการทดสอบที่ได้คือ แบตเตอรี่ไม่ติดไฟ

รวมถึงทดสอบการเจาะทะลุแบตเตอรี่ด้วยแท่งเหล็ก ด้วยความเร็วที่มากกว่าการยิงด้วยกระสุนปืน และมีเส้นผ่าศูนย์กลางของรอยทะลุขนาดใหญ่กว่ากระสุนปืนถึง 7-8 เท่า ผลการทดสอบที่ได้คือ แบตเตอรี่ไม่ระเบิดและไม่ติดไฟ

ต้องยอมรับว่า ทั้งในด้านเทคโนโลยี และความปลอดภัย รวมถึงศักยภาพด้านอื่น ๆ ของ AION เชื่อว่าจะสามารถต่อกรกับค่าย EV ได้ทุกแบรนด์ในตลาดประเทศไทย แต่จะไปถึงฝั่งฝืนสามารถก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์ 1 ของตลาด EV ประเทศไทย ภายใน 3 ปี ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์

แต่ที่แน่ ๆ การเข้ามาบุกตลาด EV ประเทศไทย ของ AION ในครั้งนี้ คนที่ได้รับประโยชน์เต็ม ๆ ก็คือผู้บริโภคชาวไทย ที่จะมีรถ EV คุณภาพให้เลือกใช้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแบรนด์ ขณะเดียวกัน ยังส่งผลให้เกิดการขยายคลัสเตอร์ยานยนต์ใน EEC อย่างต่อเนื่อง ช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญในอาเซียน แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทยในการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าสำคัญของโลกอีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...