กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบาตรเนื่องในวาระปีใหม่ 2569 พระราชทานพรปีม้า “ขอให้เข้มแข็ง-ว่องไว-พัฒนาตนเอง”
เวลา 06.53 น. วันที่ 30 ธ.ค. 68 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังด้านหน้าอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลและทรงบาตรพระสงฆ์จำนวน 16 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569
โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ แพทย์ พยาบาล บุคลากรโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประชาชนทั่วไป เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และร่วมใส่บาตรแด่พระสงฆ์จำนวน 100 รูป จากวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร วัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร วัดหัวลำโพง พระอารามหลวง วัดพระยายัง และวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร ในบริเวณพิธี
การนี้ นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย เฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของขวัญ และ รศ.ดร.นพ.จิรุตม์ ศรีรัตนบัลล์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปฏิทินประจำปี 2569 และการ์ดอวยพรปีใหม่ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย และ พว.อรทัย ธนาวินิจเจริญ หัวหน้าพยาบาล เฝ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพวงมาลัย
จากนั้น พระราชทานพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2569 แก่บุคลากรสภากาชาดไทย ตลอดจนประชาชนที่เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี ความตอนหนึ่งว่า
“ก่อนหน้านี้เป็นตอนปีมะเส็ง ก็เป็นเรื่องของงูเล็ก แล้วเราก็ไม่ต้องการให้งูของเราให้ตกกระได งูของเราก็จะปีนได้ขึ้นมา หมายความว่าแต่ละก้าว ก็จะดีขึ้น ดีขึ้น ก็มีหลายอย่างที่เราก็ดีขึ้น แต่ว่าเหตุการณ์ทั่วไป ก็ทั้งเหตุการณ์มนุษย์สร้างและเหตุการณ์ธรรมชาติ ก็มีส่วนที่ทำให้เราเดือดร้อนกันมากมายอยู่ ก็เป็นหน้าที่และงานของสภากาชาด ที่จะทำกัน เรื่องที่เป็นเรื่องร้ายๆ ต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ว่าการที่เรามีโอกาสในการทำดี ในการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มใจและจริงใจ ตามหลักของสภากาชาดนั้น ก็เป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่ เท่าที่ทำงานมาก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ว่า สภากาชาดออกไปช่วยเหลือ
แต่ก่อนนี้ก็ไม่ได้รู้จักใครที่จะมาช่วยงานมากเท่านี้ แต่ก็มีพวกที่สภากาชาด ที่ทำด้วยกันมาเป็นเวลาหลายละหลายสิบปี แต่ว่าปีที่จะเข้ามาถึงนี้ เป็นปีม้าแล้วก็ทั่วๆ ไป ม้าเป็นสัตว์ที่ว่องไว เข้มแข็ง มีเรี่ยวแรงดี เราก็ต้องเหมือนม้าคือมีแรง เข้มแข็ง แข็งแรง แล้วก็ว่องไว ทำได้ดี ก็เกี่ยวข้องกับสภากาชาดอยู่บ้าง เพราะเราเลี้ยงม้า ม้าของสภากาชาดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในด้านของการปราบพิษงู คนละหลายๆคนก็ไม่ทราบว่ากาชาดเลี้ยงม้าเพื่ออะไร เป็นอะไร แล้วเราก็ยังต้องหาม้าที่ดี ที่แข็งแรง ม้าที่ชราแล้ว เราก็จะมีศูนย์ม้าชราที่เราเลี้ยงดูเขาอย่างดี เพราะเขาเคยทำดีให้เราช่วยเหลือเรา แล้วก็เดิมทีม้าพวกนี้ยังมีภารกิจอยู่บ้างคือ ใช้ให้เด็กเล็กๆ ขี่เพื่อฝึกเด็กที่มีปัญหาต่างๆ ม้าก็ยังช่วยได้ ก็อยากบอกว่าม้ามีส่วนที่เกี่ยวข้องกับสภากาชาด แต่ก่อนนี้ก็สมัยหลายปีแล้วเคยมีปัญหานิดหน่อยคือคนเลี้ยงมาของสภากาชาด ก็มาบ่นว่าจะเกี่ยวหญ้าให้ม้านั้นไปโดนเอาคนในวังเข้ามาเกี่ยวหญ้าให้ช้าง เพราะตอนนั้นในวังนี้มีช้าง
แล้วก็เกี่ยวหญ้าให้ช้าง ค่อยเกี่ยวหญ้าให้ม้าสภากาชาด ก็เลยต้องไปให้มีการแบ่งปัน ต่อมาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทางสภากาชาดก็ย้ายฟาร์มม้าใหม่ ซึ่งก็ตอนนั้นไปร้องเรียนถวายฎีกาว่าเราจะต้องย้ายไปเพราะตอนแรกเราไปมองไว้ที่หนึ่ง แล้วกลายไปที่โครงการชลประทาน ก็แต่ก็ไม่เป็นไร ก็พระราชทานที่ใหม่ซึ่งพวกเจ้าหน้าที่สภากาชาด ที่ทำงานตรงนั้นชอบมากกว่าที่ที่สภากาชาดจัดไว้ จะอยู่ใกล้ๆ กับหัวหิน เพชรบุรี ทางเจ้าหน้าที่สภากาชาด ก็ได้รับสิทธิให้บุตรหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนวังไกลกังวลเป็นที่ถูกใจ ทุกอย่างก็ไปไปด้วยดี
ม้านี่ เรานึกถึงปีใหม่นี้ ก็ต้องเหมือนม้า คือเข้มแข็ง แข็งแรง แล้วปีที่ผ่านมาจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ตอนนี้เราก็ต้องไม่กลัวแล้ว เข้มแข็งแล้วก็ทำอะไรให้ดี อย่างมีความสุข สุขนั้นก็ไม่ใช่สุขทั่วไป สุขทั้งกายทั้งใจ ร่างกายแข็งแรงก็ต้องแข็งแรงทั้งกายและใจ ยังไม่แข็งแรงก็พยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ก็คิดว่าเราก็จะทำสิ่งที่ดีๆ ที่พอใจได้ถึงที่พอใจ ถึงที่สมควรแล้ว ก็ให้มีความสุขไป ได้สิ่งที่ดีตลอดปี แล้วก็ว่ากันเป็นปีๆ ปีนี้ปีม้าที่จะเข้าถึง ก็ต้องให้ทุกๆ อย่างให้ดี แล้วก็ขอขอบคุณทุกท่านที่มีอะไร ก็ยังช่วยกันเหมือนเดิมทำให้ทำหน้าที่ได้อย่างดี มั่นใจขึ้น ขอขอบคุณทุกท่าน แล้วก็ให้ทุกท่านได้สิ่งดีๆ” จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ.